เป็นวารสารวิชาการออกใหม่ ทางด้านศึกษาศาสตร ์ จัดทําโดยบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคําแหง

โดยมีจุดมุ่งหมายในการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ในรูปแบบบทความวิจัยและบทความวิชาการ ในสาขาวิชาเทคโนโลย ี

และสื่อสารการศึกษา และสาขาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา มีกําหนดออกเป็นวารสารราย 6 เดือน ปีละ 2 ฉบับ วารสารฉบับ

ปฐมฤกษ์คือ ปีที่ 1 ฉบับที ่1 มกราคม – มิถุนายน 2560 สามารถเข้าใช้วารสารอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบออนไลน ์ได้ที่

http://www.edtechjournal.ru.ac.th/journals/viewPage/2 และฉบับพิมพจ์ัดให้บริการที ่หน่วยบริการวารสารและ

เอกสาร ชั้น 2 อาคาร 2 (อยู่ในระหว่างดําเนินการ)

เรื่อง วารสารบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคําแหง ฉบับเทคโนโลยีการศึกษา ผู้แต่ง บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคําแหง สถานที ่ สํานักหอสมุดกลาง หน่วยบริการวารสารและเอกสาร ชั้น 2 อาคาร 2

กิจกรรมสํานักหอสมุดกลาง

สํานักหอสมุดกลางได้จัดงานเลี้ยงสังสรรค ์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม ่

2561 ภายใต้ชื่องาน “Merry Christmas & Happy New Year 2018”

โดยม ีรศ.ปิยะนุช เงินคล้าย รักษาราชการแทนผู้อํานวยการสํานักหอสมุด

กลาง เป็นประธานในงานพร้อมทั้งกล่าวคําอวยพรให้แก่บุคลากร ใหม้ี

กําลังใจในการทํางานอย่างมีความสุขตลอดปี ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.

2560 ณ บริเวณลานด้านหน้าสํานักหอสมุดกลาง

ปทีี่ 34 ฉบับที ่1 เดือน มกราคม 2561

สํานักหอสมุดกลาง

รองศาสตราจารย์ปิยะนุช เงินคล้าย รักษาราชการแทนผู้อํานวยการ

สํานักหอสมุดกลาง พร้อมด้วยผู้บริหารและบุคลากรของสํานักหอสมุด

กลาง เข้าพบผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดี

มหาวิทยาลัยรามคําแหง เพื่อขอพรเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2561

ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2561 ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารวิทยบริการ

และบริหาร มหาวิทยาลัยรามคําแหง

โดย สีไพ ประดิษฐ์ภูม ิ

ใคร...ทำอะไร...ที่ไหน...

สํานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยนครพนม ร่วมกับข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัย

ส่วนภูมิภาค จัดประชุมวิชาการระดับชาติ PULINET ครั้งที ่8 ในหัวข้อ Library of

things ระหว่างวันที่ 9 - 11 มกราคม พ.ศ. 2561 ณ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว

อ.เมือง จ.นครพนม สํานักหอสมุดกลาง ได้นําเสนอหัวข้อ Ru Journal Services:

แหล่งสารสนเทศวารสารวิชาการภาษาไทย (Thai Scholarly Journal Resources)

ได้รับคัดเลือกให้นําเสนอผลงานวิชาการโดยโปสเตอร์ ผู้นําเสนอ คือ นางสาวสีไพ

ประดิษฐ์ภูม ิและผู้เข้าร่วมประชุม จํานวน 6 คน ดังนี้

1. นางสาวสุฑามาส ดัสดูล

2. นางสาวประภัสสร โคตรสมบัติ

3. นางสาวเอมิกา โซ๊ะวิเศษ

4. นายมาโนช ผาทำ

5. นางสาวเสาวรส อนุรักษ์โชคชัย

6. นางสาวศิริพร แซ่อึ้ง

กิจกรรมสํานักหอสมุดกลางเข้าร่วม ม.ร.

มหาวิทยาลัยรามคําแหง จัดงานวันพ่อขุนรามคําแหงมหาราช ประจำ

ปี 2561 โดยม ี นายวิรัช ชินวินิจกุล นายกสภามหาวิทยาลัยรามคําแหง

เป็นประธานในพิธี และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์

อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคําแหง ข้าราชการ คณาจารย ์เจ้าหน้าที่ ม.ร.

รวมทั้งผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมวางพานพุ่มถวาย

ราชสักการะ ในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561 ณ บริเวณลานพระบรม

ราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคําแหงมหาราช บุคลากรสํานักหอสมุดกลาง

เข้าร่วมพิธีอันทรงเกียรติในวันสําคัญยิ่งของมหาวิทยาลัยรามคําแหง

2

ออฟฟิศซินโดรม...โรคยอดฮิตของคนทํางานออฟฟิศ

*ธนพร แท่นมณี

ในปัจจุบันคนทํางานในออฟฟิศมีจํานวนมากที่วัน ๆ ต้องนั่งทํางานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานเกิน วันละ 6 ชม. ขึ้นไป ส่วนใหญ่อาจมีอาการปวดหลัง ปวดศรีษะ ขณะที่ทํางานหรือหลังจากเลิกงาน อาจเป็นสัญญาณ เตือนคุณว่านั่นอาจเป็น “โรคออฟฟิศซินโดรม” ก็เป็นได้ ซึ่งบางท่านอาจยังสงสัยว่า “โรคออฟฟิศซินโดรม” นั้นคือ โรคเกี่ยวกับอะไร สาเหตุและอาการเป็นอย่างไร อันตรายมากน้อยแค่ไหนเรามาลองดูกัน “โรคออฟฟิศซินโดรม” ที่คุณเคยได้ยินนั้น คือภาวะที่มักเกิดกับคนทํางานตามออฟฟิศ เกิดจากการทํางาน หรือใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อม หรืออุปกรณ์ในการทํางานไม่เหมาะสม สภาพร่างกายที่อาจส่งผลต่ออาการเจ็บป่วย เช่น ภาวะเครียดจากงาน การอดอาหาร การพักผ่อนไม่เพียงพอ นั่ง เดิน แม้แต่นั่งทํางานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การเคลื่อนไหวร่างกายในท่าทางอิริยาบถที่ไม่ถูกลักษณะ ผิดท่าที่เหมาะที่ควรเป็นเวลานาน ๆ โดยอยู่ในท่าเดิมนาน ซึ่งส่งผลให้ร่างกายต้องแบกรับความตึงเครียดปราศจากการผ่อนคลายซึ่งท่าทางลักษณะเหล่านี้ จะทําให้มีอาการปวด เมื่อยล้าตรงกล้ามเนื้อ จะรู้สึกเกร็งเหมือนกล้ามเนื้อถูกดึงรั้ง ที่น่ากลัวคือนานวันเข้าจากอาการแค่ปวดกล้ามเนื้อ อาจ กลายเป็นกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ปวดเจบ็ตามอวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแขนขา ข้อมือ ไหล่ หลัง ซึ่งปวดมากหรือ ปวดน้อยก็แล้วแต่ การสะสมของโรคในบางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น สายตาพร่ามัว ตาแห้ง ระคายเคือง ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน เวียนหัว คลื่นไส ้หรือบางรายที่มีอาการรุนแรงมาก ๆ ก็อาจทําให้มีอาการหมอนรองกระดูก เคลื่อน หรือเกิดกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งส่วนใหญ่พอนานวันเข้า ก็มักจบด้วยการไปโรงหมอ เพราะทนอาการเจ็บ ป่วยจากโรคออฟฟิศซินโดรมไม่ไหว เมื่อได้อ่านจากข้างต้นดูเหมือนว่า “โรคออฟฟิศซินโดรม” นั้นดูไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด แต่จริง ๆ แล้ว “โรคออฟฟิศซินโดรม” เป็นภัยเงียบที่อันตรายมาก หากไม่เข้ารับการรักษาจะเสี่ยงต่ออาการหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกทับประสาท ซึ่งอาจเป็นขั้นหนักถึงกับต้องทํากายภาพบําบัด เสี่ยงต่ออาการผิดปกติของระบบ ทางเดินหายใจ และโรคภูมิแพ้ เนื่องจากบรรยากาศภายในออฟฟิศมกัมีอากาศที่ไม่ถ่ายเท ฝุ่นจากเครื่องถ่ายเอกสาร รวมทั้งฝุ่นต่าง ๆ บนพื้นพรม และเสี่ยงต่อโรคอ้วน เนื่องจากนํามาอาหารมาทานบนโต๊ะ หรือทานในออฟฟิศไม่ได้ เดินไปไหนมาไหน ทําให้การเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันลดลง หากไม่มีเวลาไปออกกําลังกาย ยิ่งเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้ มากขึ้น และเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คนรอบข้างไม่สบาย เป็นหวัด หรือเป็นโรคติดต่อชนิดอื่น ๆ หากเรามีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ไม่แข็งแรงพอ ก็มีสิทธิ์ติดโรคติดต่อเหล่านั้นได้ง่าย หากมีอาการตามลักษณะข้างต้นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร ? ในส่วนของแนวทางการรักษา “โรคออฟฟิศซิน โดรม” รักษาได้โดยการไปพบแพทย์ แพทยจ์ะสอบถามอาการและทําการวินิจฉัยสาเหตุ ซึ่งโดยหลัก ๆ ก็แบ่งเป็น 2 แนวทาง คือรักษาที่สาเหตุ สามารถทําได้ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด และอีกแนวทาง คือการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น การรับประทานยา การฉีดยา การฝังเข็ม การนวดแผนไทย หรืออาจมีการทํากายภาพบําบัดร่วมด้วย ตามความ รุนแรงของอาการ บรรณานุกรม

@kwang. (2015). โรคออฟฟิศซินโดรม. สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2560, จาก http://www.beauty24store.com/โรคออฟฟิศซินโดม-office-syndrome-

คืออะไร-แก้ไขแก้ไขยังไง/1359.html

Jurairat N.. (2017). โรคออฟฟิศซินโดรม. สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2560, จาก http://www.sanook.com/health/3089/

โรงพยาบาลบํารุงราษฎร.์ (2017). โรคออฟฟิศซินโดรม. สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2560, จาก https://www.bumrungrad.com/th/rehabilitation-clinic-

sathorn/conditions/office-syndromes

*นักศึกษาฝึกงานสาขาสารสนเทศศึกษา คณะมนุษยศาสตร ์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร

3