14
S PEOPLE S MARS JUNE 009 S PEOPLE S JULY 009 MARS เรื่อง > นันทรัตน์ สันติฯ ภาพ > ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์ Super Handler “Art Handler” คือคำตอบของพวกเขาเมื่อถูกถามว่า สิ่งทีทำอยู่เรียกว่าอาชีพอะไร พวกเขาอาจกลายเป็นช่างไฟฟ้า ช่าง ประปา ช่างไม้ คนงานก่อสร้าง พนักงานขน ย้าย หากในชีวิตของพวกเขาขาด ‘ศิลปะ’ ในขณะที่พวกเขามีโอกาสโด่งดังในฐานะ ศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรง ถ้าเลือกเดินบนเส้นทาง สุนทรียะสายนี้ หากแต่พวกเขาไหวตัวทันกับ ความแออัดของจำนวนประชากรเลือด อาร์ตติสต์ จึงขอเปลี่ยนเลนและสูดอากาศ ปลอดโปร่งให้ชุ่มปอดบนถนนสายข้างๆ ดีกว่า “นักศึกษาศิลปะในเมืองไทยเยอะมาก ใน ขณะที่คนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ มีไม่กี่คน พวกเราสนใจและเรียนศิลปะกันมาอยู่แล้ว จึง มองไปอีกช่องทางหนึ่งที่อยู่ในวงการนี้เหมือนกัน “วงการศิลปะต้องการมากกว่าศิลปินและ การโชว์งาน เพราะก่อนการจัดนิทรรศการมี ขั้นตอนและผู้คนเกี่ยวข้องด้วยมากมาย ทั้ง ภัณฑารักษ์ นักเขียนบทความ ส่วนพวกเราสน ใจว่านิทรรศการที่ดีควรเริ่มต้นจากอะไรบ้าง” เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็รูรวมทั้งเหล่าศิลปินที่ไว้ใจและไหว้วานพวกเขา ให้ติดตั้ง ขนย้าย บริหาร จัดการ ควบคุม ช่วย เหลือ ดูแลขั้นตอนการจัดนิทรรศการที่ผลงาน บางชิ้นสนนราคาหลายแสน! “ถ้าเป็นศิลปินแนวศิลปะร่วมสมัยของ เมืองไทย พวกเราเจอมาหมดแล้ว เช่นงาน ศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง คุณพิณรี สัณฑ์พิทักษ์, อ.อารยา ราษฎร์จำเริญสุข และอ.มณเฑียร บุญมา ซึ่งมีไม่กี่คนที่มีโอกาสจับงานเหล่านี้” แพงกว่าแบล็กเบอรี่ แพงกว่ารถ แพงกว่า บ้าน แพงกว่าโบนัส แพงอย่างไม่มีเหตุผล แต่ เป็นเรื่องของคุณค่าทางจิตใจล้วนๆ สิ่งของ ประเภทนี้ศิลปินตระหนักดี คงวานตาสี ตาสา ลุงมี ลุงมา ช่วยแขวนรูป ทำไลต์บล็อก ติดไฟ จัดแสง จัดวาง เช็กสเปซ ทำโครงสร้าง ฯลฯ ไม่ได้หรอก “อย่างการติดตั้งงานครั้งล่าสุดในแกลเลอรีงานครั้งนั้นสิ่งที่ศิลปินอยากได้ไม่ใช่แค่กล่อง สี่เหลี่ยมธรรมดาที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่เขาต้อง การกล่องไลต์บล็อกสี่เหลี่ยมที่ถูกคำนวณมา อย่างดีแล้วว่าแสงที่ส่องออกมามันสม่ำเสมอ เท่ากันหมด “เมื่อก่อนเขาอาจจะใช้นักศึกษา อาสา สมัคร ช่างทั่วไปในการติดตั้งงาน หรือบางที ศิลปินทำกันเองก็มี แต่ในความเป็นสากลหรือ ในต่างประเทศ เขามีกลุ่มและอาชีพอย่างพวก เรากันอยู่แล้ว” เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส คือประโยคทีผุดขึ้นมาในหัวหลังจากจบบทสนทนา “ความสามารถทางศิลปะของพวกเราน้อย กว่า แต่มีความสามารถทางด้านการจัดการ มากกว่า” พีม, เบน, น้ำ, ปูน, บอย ใช้ชุดความคิดนีมาตลอด 3 ปีตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่ม Supernormal จากเพื่อนร่วมภาควิชาทัศนศิลป์ คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพ กลายเป็นเพื่อน ร่วมบริษัท Supernormal Studio Co., Ltd และรับติดตั้งงานนิทรรศการศิลปะในแกลเลอรีไปจนถึงอีเวนต์แนวอาร์ตและดีไซน์ทั่วราช อาณาจักร จนกลายเป็น Art Handler กลุ่ม แรกในเมืองไทยที่ซีเรียสจริงจัง เพราะไม่ทำมา หากินกับงานด้านอื่นแล้ว! “คณะของเราไม่ได้แยกเป็นประติมากรรม หรือจิตรกรรม เขาใช้คำว่าทัศนศิลป์ ซึ่งความ สามารถของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป บาง คนทำงานประติมากรรม บางคนทำงาน จิตรกรรม บางคนทำงานสื่อมีเดีย เมื่อพวกเรา มาเจอกันมันช่วยเหลือกันได้ทุกอย่าง เพราะ พวกเราทุกคนไม่ได้มีความสามารถเหมือนกัน หมดนี่แหละ” แล้วพวกเขาจะไส้แห้งเหมือนศิลปินหรือ เปล่า (ตามคำพูดติดปาก)?! “อย่างที่รู้ว่างานศิลปะเงินมันน้อยก็ต้อง ช่วยกันทำไป มันต่างจากงานอีเวนต์ที่เป็น คอมเมอร์เชียล คืองานศิลปะเป็นองค์กรที่ไมได้แสวงหาผลกำไร มันถูกจัดขึ้นมาเพื่อการ ศึกษา และเมื่อจัดแสดงโชว์ก็ไม่ได้ไปขายใคร ในขณะที่งานคอมเมอร์เชียลถูกทำขึ้นมาเพื่อ นำไปขายต่อ “ก็อยู่ได้นะ เพราะพวกเราทำงานหลาก หลาย แต่รับงานศิลปะเป็นหลัก บางเดือนงาน เยอะมาก เพราะตอนนี้ความเข้าใจในศิลปะ ของคนไทยเริ่มกว้างขึ้น มีกิจกรรมและ โครงการมากมาย มีพื้นที่ทางศิลปะเยอะแยะ คนทำงานศิลปะอย่างพวกเรา รวมไปถึงนัก วิจารณ์ นักเขียน คนทำหนังสือ ภัณฑารักษ์ จึงมีโอกาสได้แสดงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ” ปิดทองหลังพระ คำนี้ก็น่าจะใช้อธิบาย คุณลักษณะของอาชีพนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วน ทองที่พนักงานบริษัท Supernormal เคยปิด อยู่ในงานนิทรรศการยักษ์ใหญ่ประจำปีหลาย งาน อย่าง Project Zero, Talk about love, โครงการอักขรศิลป์ “ทรงพระเจริญ”, 4th month of Photography Bangkok : Face a Faces, Brand New 09 และล่าสุดที่งาน บางกอก...กล๊วย...กล้วย “พวกเราทำงานอยู่เบื้องหลังมากกว่า เวลางานออกมาดี ศิลปินจะเป็นคนที่ได้รับคำ ชม แต่พวกเราก็คิดว่าดี เพราะคนชมไม่ใช่ ปัญหา โดนด่าสิเป็นปัญหา ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มี ใครด่านะ และด้วยความที่เป็นนักศึกษาศิลปะ และชอบทำงานศิลปะ พอได้อยู่กับมันทุกวันก็ มีความสุขดี”

What's on Their Mind!?

Embed Size (px)

DESCRIPTION

Interview almost famous and hi-profile people.

Citation preview

Page 1: What's on Their Mind!?

S PEOPLE S

� MARS JUNE �009

S PEOPLES

JULY �009 MARS �

เรื่อง > นันทรัตน์ สันติฯ ภาพ > ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

Super Handler

“Art Handler” คือคำตอบของพวกเขาเมื่อถูกถามว่าสิ่งที่ทำอยู่เรียกว่าอาชีพอะไร พวกเขาอาจกลายเป็นช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างไม้ คนงานก่อสร้าง พนักงานขนย้ายหากในชีวิตของพวกเขาขาด‘ศิลปะ’ ในขณะที่พวกเขามีโอกาสโด่งดังในฐานะศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรง ถ้าเลือกเดินบนเส้นทางสุนทรียะสายนี้ หากแต่พวกเขาไหวตัวทันกับความแออัดของจำนวนประชากรเลื อด อาร์ตติสต์ จึงขอเปลี่ยนเลนและสูดอากาศปลอดโปร่งให้ชุ่มปอดบนถนนสายข้างๆดีกว่า “นักศึกษาศิลปะในเมืองไทยเยอะมาก ในขณะที่คนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ มีไม่กี่คนพวกเราสนใจและเรียนศิลปะกันมาอยู่แล้ว จึงมองไปอกีชอ่งทางหนึง่ทีอ่ยูใ่นวงการนีเ้หมอืนกนั “วงการศิลปะต้องการมากกว่าศิลปินและการโชว์งาน เพราะก่อนการจัดนิทรรศการมีขั้นตอนและผู้คนเกี่ยวข้องด้วยมากมาย ทั้งภณัฑารกัษ์นกัเขยีนบทความสว่นพวกเราสนใจว่านิทรรศการที่ดีควรเริ่มต้นจากอะไรบ้าง” เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งเป็นสิ่งที่ใครๆก็รู้รวมทั้งเหล่าศิลปินที่ไว้ใจและไหว้วานพวกเขาให้ติดตั้งขนย้ายบริหารจัดการควบคุมช่วยเหลือ ดูแลขั้นตอนการจัดนิทรรศการที่ผลงานบางชิ้นสนนราคาหลายแสน! “ถ้าเป็นศิลปินแนวศิลปะร่วมสมัยของเมืองไทย พวกเราเจอมาหมดแล้ว เช่นงานศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง คุณพิณรี สัณฑ์พิทักษ์,อ.อารยา ราษฎร์จำเริญสุข และอ.มณเฑียรบุญมาซึ่งมีไม่กี่คนที่มีโอกาสจับงานเหล่านี้” แพงกว่าแบล็กเบอรี่ แพงกว่ารถ แพงกว่าบ้านแพงกว่าโบนัสแพงอย่างไม่มีเหตุผลแต่เป็นเรื่องของคุณค่าทางจิตใจล้วนๆ สิ่งของประเภทนี้ศิลปินตระหนักดี คงวานตาสี ตาสา

ลุงมีลุงมาช่วยแขวนรูปทำไลต์บล็อกติดไฟจัดแสง จัดวาง เช็กสเปซ ทำโครงสร้าง ฯลฯไม่ได้หรอก “อย่างการติดตั้งงานครั้งล่าสุดในแกลเลอรี่งานครั้งนั้นสิ่งที่ศิลปินอยากได้ไม่ใช่แค่กล่องสี่เหลี่ยมธรรมดาที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่เขาต้อง การกล่องไลต์บล็อกสี่เหลี่ยมที่ถูกคำนวณมาอย่างดีแล้วว่าแสงที่ส่องออกมามันสม่ำเสมอเท่ากันหมด “เมื่อก่อนเขาอาจจะใช้นักศึกษา อาสาสมัคร ช่างทั่วไปในการติดตั้งงาน หรือบางทีศิลปินทำกันเองก็มี แต่ในความเป็นสากลหรือในต่างประเทศ เขามีกลุ่มและอาชีพอย่างพวกเรากันอยู่แล้ว” เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส คือประโยคที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากจบบทสนทนา “ความสามารถทางศิลปะของพวกเราน้อยกว่า แต่มีความสามารถทางด้านการจัดการมากกว่า” พีม,เบน,น้ำ,ปูน,บอยใช้ชุดความคิดนี้มาตลอด 3 ปีตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่ม Supernormalจากเพื่อนร่วมภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพ กลายเป็นเพื่อนร่วมบริษัท Supernormal Studio Co., Ltdและรับติดตั้งงานนิทรรศการศิลปะในแกลเลอรี่ไปจนถึงอีเวนต์แนวอาร์ตและดีไซน์ทั่วราชอาณาจักร จนกลายเป็น Art Handler กลุ่มแรกในเมืองไทยที่ซีเรียสจริงจังเพราะไม่ทำมาหากินกับงานด้านอื่นแล้ว! “คณะของเราไม่ได้แยกเป็นประติมากรรมหรือจิตรกรรม เขาใช้คำว่าทัศนศิลป์ ซึ่งความสามารถของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป บางคนทำงานประติมากรรม บางคนทำงานจิตรกรรมบางคนทำงานสื่อมีเดียเมื่อพวกเรามาเจอกันมันช่วยเหลือกันได้ทุกอย่าง เพราะ

พวกเราทุกคนไม่ได้มีความสามารถเหมือนกันหมดนี่แหละ” แล้วพวกเขาจะไส้แห้งเหมือนศิลปินหรือเปล่า(ตามคำพูดติดปาก)?! “อย่างที่รู้ว่างานศิลปะเงินมันน้อยก็ต้องช่วยกันทำไป มันต่างจากงานอีเวนต์ที่เป็นคอมเมอร์เชียล คืองานศิลปะเป็นองค์กรที่ไม่ได้แสวงหาผลกำไร มันถูกจัดขึ้นมาเพื่อการศึกษา และเมื่อจัดแสดงโชว์ก็ไม่ได้ไปขายใครในขณะที่งานคอมเมอร์เชียลถูกทำขึ้นมาเพื่อนำไปขายต่อ “ก็อยู่ได้นะ เพราะพวกเราทำงานหลากหลายแต่รับงานศิลปะเป็นหลักบางเดือนงานเยอะมาก เพราะตอนนี้ความเข้าใจในศิลปะของคนไทยเริ่มกว้างขึ้น มีกิจกรรมและโครงการมากมาย มีพื้นที่ทางศิลปะเยอะแยะคนทำงานศิลปะอย่างพวกเรา รวมไปถึงนักวิจารณ์ นักเขียน คนทำหนังสือ ภัณฑารักษ์จึงมีโอกาสได้แสดงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ” ปิดทองหลังพระ คำนี้ก็น่าจะใช้อธิบายคุณลักษณะของอาชีพนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนทองที่พนักงานบริษัท Supernormal เคยปิดอยู่ในงานนิทรรศการยักษ์ใหญ่ประจำปีหลายงาน อย่าง Project Zero, Talk about love,โครงการอักขรศิลป์ “ทรงพระเจริญ”, 4thmonth of PhotographyBangkok : Face aFaces, Brand New 09 และล่าสุดที่งานบางกอก...กล๊วย...กล้วย “พวกเราทำงานอยู่ เบื้องหลังมากกว่าเวลางานออกมาดี ศิลปินจะเป็นคนที่ได้รับคำชม แต่พวกเราก็คิดว่าดี เพราะคนชมไม่ใช่ปัญหา โดนด่าสิเป็นปัญหาซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครด่านะ และด้วยความที่เป็นนักศึกษาศิลปะและชอบทำงานศิลปะพอได้อยู่กับมันทุกวันก็มีความสุขดี”

Page 2: What's on Their Mind!?

M PEOPLE M

� MARS OCTOBER �008

Page 3: What's on Their Mind!?

M PEOPLEM

FEBRUARY �010 MARS �

เรื่อง > สันติ มณีรัตน์ ภาพ > สุวิทย์ กิตติเธียร

ข้อความ www.surfacefilm.com ถูกส่งผ่านโปรแกรม MSN โดยรุ่นพี่คนหนึ่ง ผมไม่รอช้า ติดต่อขอเบอร์โทร ‘TU+’ หรือ ‘ตู๋’ เจ้าของผลงานทันที เพราะหน้าเว็บไซต์เต็มไปด้วยรูปใบมะกอก สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่างานของเขาเจ๋ง! ไม่มากก็น้อย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากคุณไม่ศรัทธาในใบไม้เหล่านั้น ป้าย Live Action Winner ADAA 2009 (Adobe Design Achievement Award รางวัลสำหรับผลงานชนะเลิศที่ใช้โปรแกรม Adobe มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์) มุมบนซ้ายมืออาจมีศักดิ์ศรีระดับโลกและโด่งดังจนพอคุ้นหูกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วข้อความข้างต้นที่ผมว่ามาก็ไม่เท่าดับเบิลคลิกเข้าไปให้ตาเห็นงานธีซิสระดับปริญญาโท สาขา Design and Technology จาก Parsons The New School For Design ที่ว่าด้วยหนังทดลองเรื่องการเปลี่ยนมุมมองของโลกเรา “มันเริ่มมาจากคำถามง่ายๆ ที่ว่า ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองจากธรรมดาเป็นอย่างอื่น แล้วจะเป็นยังไง ซึ่งมุม Bird Eyes View เรารู้อยู่แล้วจากกูเกิลแม็ปหรือคนที่ถ่ายรูปจากบนตึก “แต่ถ้าเราไปอยู่ใต้ดินแล้วมองขึ้นมาบ้าง เราจะเห็นวิชวล (Visual) อะไรที่แปลกใหม่ขึ้นไหม แล้วต่อจากนั้นความรู้สึกเราจะเป็นอย่างไร เราจะอ่านออกไหมว่าสิ่งที่เรามองเห็นคืออะไร” ไอเดียต่างมุมของตู๋-วราทิตย์ อุทัยศร ี ไม่ได้หล่นมาจากฟ้า เขาเก็บมันได้ระหว่างทางทำโปรเจ็กต์ชิ้นหนึ่งที่ต้องการสื่อความเป็นไทย เขาว่ารอยเท้าเป็นสิ่งที่สามารถบอก Identity หรือลักษณะพิเศษของคนไทยได้ “จริงๆ แล้วพวกรอยเท้าก็เป็นกราฟฟิกเหมือนกัน ผมเริ่มมาสนใจและโฟกัสรอยเท้าคน รอยเท้าหมา รอยล้อรถมอเตอร์ไซค์ มันเป็นเหมือน Identity ของคน เท้าเล็ก เท้าใหญ่ เท้าผู้หญิง เท้าผู้ชาย กำลังจะเดินไปทางซ้ายหรือขวา มันจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมา” ความสนใจในชีวิตคนเมืองของเขามีส่วนให้เขาขยายความเพ้อฝันออกไปอีก “ผมพยายามจะสร้างเรื่องเป็นเชิง Narrative (บรรยายหรือเล่าเรื่อง-ผู้สัมภาษณ์) ขึ้นมาเผื่อคนจะได้เข้าใจมากขึ้น อย่างเช่นเราไปนอนในสวนสาธารณะ คนวิ่ง” งานของเขาอาจจะไม่ได้พูดถึงเรื่องยอดนิยมอย่างปัญหาลดโลกร้อนเหมือนเพื่อนร่วมคณะชาติอื่น แต่กระบวนการผลิตยุ่งยากไม่แพ้กัน “ตอนพรีเซนต์ให้อาจารย์ฟัง เขาก็ชอบและบอกว่าแปลก เพราะโปรเจ็กต์แบบนี้มันมีไม่บ่อย ในขณะที่หลายคนก็ถามว่าทำไปทำไม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน มันอาจจะมีอะไรมากขึ้นมากกว่านี้ ผมไม่ได้มองผลลัพธ์

“ก่อนที่จะโฟกัสว่าจะทำอะไร เราต้องเปิดกว้าง ต้องไปเคาะแต่ละประตูด้วยว่ามีอะไรน่าสนใจไหม มองหลายๆ อย่าง “แต่ส่วนที่ยากที่สุดคือทำอย่างไรให้คนเข้าใจเรื่อง ถ้าคนเดินธรรมดาก็อาจจะโอเค แต่ถ้าเป็นคนกำลังสั่งก๋วยเตี๋ยว นั่งกินก๋วยเตี๋ยว เราจะทำยังไงให้คนเข้าใจตรงกัน” โชคดี เมืองที่ตู๋มองว่ามีหลายรสชาติคล้ายกรุงเทพฯ อย่างนิวยอร์ก มีร้าน Apple Store ซึ่งมีสองชั้นและตกแต่งด้วยพื้นฝ้า เมื่อเราอยู่ชั้นล่างสามารถเงยหน้ามองผ่านทะลุไปยังคนที่ยืนอยู่ชั้นสองได้ เขาสนใจและหยุดยืนชั้นล่างประมาณหนึ่งชั่วโมง เพื่อศึกษารูปแบบการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตข้างบน “ช่วงแรกเริ่มรีเสิร์ชจากพวกทฤษฎีและสิ่งที่คนอื่นเคยทำมาก่อน แล้วผมเอาพวกของเล่นสัตว์เล็กๆ อย่างช้าง ม้า วัว ควาย มาสแกนด้วย” ฟังดูไม่ง่าย และมันก็ไม่ง่ายจริงๆ เขาใช้เวลาหนึ่งปีกับผลงานชิ้นนี้ และเมื่อคลอดออกมาเป็นตัวเป็นตนและได้รับคำชมล้นหลามจากคนรอบตัว มีหรือเขาจะดองมันไว้ในคอมพิวเตอร์อย่างเดียว Bova Image Festival 2009 (BIF) จัดขึ้นเป็นครั้งแรกและเชิญ ‘Surface’ ของเขาไปร่วมฉายที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี MetroCAF 2009 เทศกาลคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นประจำปีของนิวยอร์ก เลือก ‘Surface’ ของเขาไปฉายเป็นหนึ่งในหนังทดลองประจำปี 2009 และถูกอกถูกใจคณะกรรมการจนให้ประกาศนียบัตรติดไม้ติดมือกลับมาด้วย SIGGRAPH ASIA 2009 เทศกาลคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นที่ใหญ่ที่สุด สาขาเอเชีย ชวนเขาส่ง ‘Surface’ ไปอวดที่ญี่ปุ่น คนไทยโกอินเตอร์! พูดแบบนี้คงไม่เกินไปใช่ไหมครับ “ถึงแม้ว่าเด็กไทยจะทำกราฟฟิกเยอะและไม่ค่อยเก่งจริง บางทีเด็กแค่อยากเล่นคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยากทำกราฟฟิก ไม่ค่อยเข้าใจกันว่ากราฟฟิกคืออะไร แต่สกิลล์ คนไทยเราไม่ได้ห่วยกว่าคนอื่นเลยนะ แถมวงการกราฟฟิกบ้านเราก็ดีขึ้นและมีการซัพพอร์ตมากขึ้นด้วย” กว่าที่คุณจะได้รู้จักเขาผ่าน mars เขาคงกำลังทำงานในฐานะฟรีแลนซ์อยู่ที่นิวยอร์ก สถานที่ที่คนคลั่งความเท่อยากไปอาศัยอยู่ และเขาแนะนำว่าถ้ามีโอกาสก็ควรไป เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ ที่กราฟฟิกดีไซเนอร์คนไหนพูดได้คล่องปรื๋อถือว่าได้เปรียบ “เมืองไทยมันมีลิมิตแค่นี้ ถ้าอยากไปหาแรงบันดาลใจหรือสิ่งที่น่าสนใจก็ควรไป อย่างน้อยไปลงเรียนภาษา และสิ่งที่สำคัญคือควรลองฝึกงาน ทำงานกับฝรั่ง เพราะมันถือเป็นอีกเลเวลหนึ่งของเรา”

Under Surface

Page 4: What's on Their Mind!?

M PEOPLE M

� MARS OCTOBER �008

Page 5: What's on Their Mind!?

M PEOPLEM

MAY �010 MARS �

In the Moment of Momay

สาวสวยคนนี้หน้าคุ้นๆ ใช่ไหมครับ แต่ผมว่าคุณยังเดาไม่ออกหรอกว่าเธอเป็นใครและน่าสนใจตรงไหน เราถึงได้เลือกให้เป็น M PEOPLE ฉบับนี้ ถ้าอย่างนั้น วันจันทร์ถึงศุกร์ คุณเลือกวันไหนก็ได้ตามแต่สะดวก เปิดวิทยุคลื่น 105.5 ที่เขายิงสปอตกันโครมครามว่า Easy F.M. ช่วงหนึ่งทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืนสิครับ เสียงของเธอก็คุ้นๆ ใช่ไหม แล้วเราจะได้ยินดีเจคนนี้แนะนำตัวเองว่าเธอชื่อโมเม-นภัสสร บุรณศิริ ใช่ครับ เธอคือสาวน้อยกระดุ๊กกระดิ๊ก ขวัญใจวัยรุ่นเมื่อสิบสามปีที่แล้ว! เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก และโมเมในวัยยี่สิบเก้าปีก็โตขึ้น สวยขึ้นเหมือนโกหกเช่นกัน “เวลาคนเราเห็นนักร้องตั้งแต่เด็กๆ มักจะมีภาพจำ อย่างโมเมผมม้าเต่อ โมเมผมกะลาครอบ เต้นกลางสนามบอล มันทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว อายุจะสามสิบแล้ว และด้วยวุฒิภาวะหลายๆ อย่างทำให้เราโตขึ้นแล้ว “แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนแซวๆ เป็นธรรมดา โมเมไม่อายนะ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีกินจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เรามีงานต่อเนื่องเพราะคนรู้จักเราจากตรงนั้น ดังนั้นโมเมโอเคมากเลยที่มันยังเป็นที่ติดตาและยังมีคนเต้นใส่อยู่ทุกวันนี้ และเชื่อว่าผับบาร์แนวย้อนยุคก็ยังคงเล่นเพลงของโมเมอยู่” เท่าที่จำความได้ ผมเห็นโมเมครั้งแรกในฐานะนักร้องสังกัดค่ายอาร์เอสเมื่อเธออายุ 16 ปี และเมื่ออายุราวๆ 23 ปีเธอจึงหันไปใช้ทักษะด้านการใช้เสียงกับงานด้านอื่นบ้าง ดีเจประจำคลื่น Easy F.M. ลงเสียงสปอตโฆษณา อา่นขา่ว พธิกีรงานสมัมนา งานอเีวนต ์รวมไปถึงงาน mars Photo Battle 2010 ที่ผ่านมาของเราด้วยครับ “งานโมเมแทบจะเป็นงานใช้เสียงหมดเลย มันเริ่มมาจากการจัดรายการวิทยุ และด้วยความที่มันเป็นรายการสด มันฝึกทักษะเราพอสมควร ประกอบกับคนเริ่มรู้ว่าเราพูดภาษาอังกฤษได้ งานพิธีกรหรือลงเสียงสปอต

โฆษณาสองภาษาก็เยอะขึ้น” ‘โมเมพูดภาษาอังกฤษชัดจังเลย พูดสำเนียงชัดมาก อยากรู้ว่าเรียนจบที่ไหนมา เขาเคยไปตา่งประเทศไหมคะ หรอืเรยีนอนิเตอร์มา ชอบจังเลย คนพูดภาษาอังกฤษเก่งๆ แบบนี้’ นี่คือคำถามจากอินเทอร์เน็ตที่ผมค้นพบเมื่อเสิร์ชหาคำว่า ‘โมเม’ “โมเมเรียนโรงเรียนไทยมาตลอด ไปใช้ชีวิตที่อเมริกาแค ่ 2-3 ซัมเมอร์เอง ไม่ได้อยู่เป็นป ีไมไ่ดเ้ปน็นกัเรยีนทนุ พอกลบัมาเมอืงไทยแมก่็ให้เอาเทปปิดพวกคำแปลเวลาดูหนังและโมเมฝึกอยู่เรื่อยๆ ด้วย โชคดีว่าเราเป็นคนเรียนรู้ดว้ยเสยีง ไดย้นิเสยีงแลว้จำ ฟงัเสยีงแลว้กอ๊บปี้มันเป็นไปโดยอัตโนมัต ิ มันอาจจะเหนื่อยกว่าคนทีไ่ปอยูเ่มอืงนอกเลยสกัหนอ่ย แตว่า่เราพดูภาษาองักฤษไดแ้บบประหยดักวา่เยอะนะ เวลาใครถามเรือ่งนีจ้ะบอกแบบภมูใิจไดเ้ลย” การพดูแบบฉะฉานของเธอไมไ่ดแ้สดงถงึแค่ความมั่นใจในตัวเอง มันทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่คณุครภูาษาไทยพรำ่สอนตัง้แตส่มยัเดก็ๆ ดว้ย “โมเมเป็นคนพูดชัดแบบนี้อยู่แล้ว เพราะว่าแม่ไม่ชอบเด็กที่พูดจาไม่รู้เรื่อง ทั้งแม่และพี่สาวเป็นคนพูดภาษาไทยชัดเจน ทำให้ปลูกฝังเข้ามาโดยอัตโนมัติว่าพูดภาษาไทยก็ต้องพูดแบบนี้สิ ไม่ใช่ไม่จบคำ ไม่มีตัวสะกด กลายเป็นข้อดีว่าทำให้เรามีงานพิธีกรเข้ามาเรื่อยๆ “เด็กสมัยนี้เสียงจะลอยๆ เท่ากันหมด ไม่มีน้ำหนัก ไม่มีเบสอยู่ในเสียง ซึ่งคนที่ทำงานวิทยุหรือจัดรายการทีวีจะไม่มีเบสในเสียงไม่ได้ มันทำให้ฟังสบายกว่า ฟังได้นานกว่า” เฉกเช่นเหล่าดีเจรุ่นเก๋าอย่างพี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, พี่หน่อง-วินัย สุขแสวง, พี่เป้-วิศวะ กิจตันขจร, พี่อ้อย-นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล ผู้เป็นไอดอลในการทำงานของโมเม แต่สำหรับการใช้ชีวิต เธอยกย่องคนใกล้ตวัอยา่งคณุแม-่สดุา ชืน่บาน และพีส่าว-พชัรดิา วัฒนา มากที่สุด “แม่เป็นผู้หญิงที่ เลี้ยงลูกคนเดียวและก็เห็นๆ กันอยู่ว่าพี่แหม่มและโมเมไม่เคยมี

ปัญหาหรือข่าวเสียหาย โมเมจำได้ว่าแม่ทำงานหนักเหมือนเราตอนนี้ สมัยเด็กๆ แม่ต้องร้องเพลงคืนหนึ่ง 4-5 ที่ รายได้เยอะมากแต่เหนื่อยแทบตาย กลับบ้านนอนแล้วตื่นตอนเช้าส่งลูกๆ ไปโรงเรียน แม่เป็นตัวอย่างของคนที่รับผิดชอบชีวิตจริงๆ “พี่แหม่มเป็นเหมือนฉบับย่อของแม่ที่มีมุมอ่อนโยนมากกว่า มีมุมของความเป็นผู้หญิงแม่บ้าน มีสามี ทำกับข้าว อบขนม มีงานประดิษฐ์ ถ้าเรามีชีวิตครอบครัวก็อยากมีแบบนี้ โมเมโชคดีที่ว่าเป็นคนรุ่นที่สามแล้วจึงได้เห็นพัฒนาการหลายอย่างพอสมควร” ลูกไม้ก็หล่นได้ไม่ไกลต้นหรอก เพราะโมเมขยันเหมือนแม่ เธอไม่ได้อวดอ้างคุณสมบัติข้อนี้หรอกครับ ผมตัดสินเอาเองจากหน้าที่การงานอันหลากหลายในเวลาเดียวกันของเธอ รวมทั้งตำแหน่งคุณครูสอนเต้นที่ชาเซ่ แดนซ์ สตูดิโอ ของตัวเองด้วย “โมเมพยายามไปเรยีนเตน้เพิม่เตมิทีอ่เมรกิาทุกปี การยืนสอนอย่างเดียวมันน่าเบื่อและได้เต้นเป็นตัวอย่างให้ดูนิดเดียว ซึ่งเราก็เก่งที่สุดในห้องอยู่แล้วเพราะเราเป็นครู แต่พอมีโอกาสกลับไปเป็นนักเรียน เราต้องกลับไปแข่งกับคนข้างๆ ที่อาจจะเด็กกว่าเรา 10 ปี มันได้กลับไปผลักดันตัวเอง ที่สำคัญเราได้เทรนด์และเทคนิคใหม่ๆ กลับมาด้วย เพราะการเต้นก็เหมือนศิลปะชนิดอื่นที่มีฤดูกาลใหม่ๆ อยู่เสมอ” ผมอยากรู้เป็นการส่วนตัวว่าหากโมเมกลับมาร้องเพลง ความทรงจำอันหอมหวานในวัยเด็กของใครหลายๆ คนจะหวนกลับมาให้ดอมดมหรือไม่ “การร้ อง เพลงสำหรับ โมเมตอนนี้ คงเป็นการทำแบบสนุกๆ มากกว่า เพราะโมเมมีสิ่งที่จำเป็นต้องทำก่อนหลายอย่าง อย่างพวกงานประจำก็ต้องทำให้ดีที่สุด อยากไปเล่นเกมในรายการ Amazing Race อยากไปมาก อยากไปอยู่เมืองนอกสักพักหนึ่ง อยากทำหลายอย่างมาก แต่โมเมก็ต้องเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน”

เรื่อง > สันติ มณีรัตน ์ ภาพ > สุวิทย์ กิตติเธียร

Page 6: What's on Their Mind!?

M PEOPLE M

2 MARS JULY 2010

M PEOPLE M

Page 7: What's on Their Mind!?

M PEOPLEM

AUGUST 2010 MARS 3

เรื่อง > นันทรัตน์ สันติฯ ภาพ > อนุชิต นิ่มตลุง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองเพิร์ธ ดินแดนจิงโจ้ มีเด็กชายแสนซนคนหนึ่ง นาม Ashley Sutton วัยสี่ปี ก�าลังวาดภาพในห้องนอน เขาไม่แน่ใจว่ายามโตขึ้น เขาจะกลายเป็นศิลปินหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เขาบอกว่า “I draw all of my life.” เวลาล่วงเลยไป เด็กชายแอชคนเดิมในวัยสิบห้าปี เริ่มรู้สึกตัวว่าการเรียนหนังสือในไฮสคูลช่างน่าเบื่อ เขาคงไม่อยากเป็นเด็กนักเรียนในห้องสี่เหลี่ยมที่ได้แต่ใบปริญญา เขาพูดตรงๆ ว่าเขาอยากท�างานเพื่อท�าเงิน! “ผมนิสัยไม่ดี ไม่ชอบเรียนหนังสือ มันน่าเบื่อมาก ผมชอบท�างาน ผมจ�าได้เมื่อตอนอายุสิบห้า ผมท�างานที่แมคโดนัลด์ ชอบมาก ท�าเงินได้ ผมซื้อรถ ซื้อทุกอย่างที่อยากได้” ในช่วงอายุเวลาเดียวกัน เด็กชายแอชตั้งใจร�่าเรียนการผลิตและประดษิฐ์เหลก็ด้วยความหลงใหล จวบจนเมือ่เข้าวยัยีส่บิปี เขาเปิดโรงงานเหล็กและกระจกที่ประเทศบ้านเกิด และย้ายไปยังอเมริกา จีน จนปัจจุบันเขาขายกจิการทีป่ระสบความส�าเรจ็ทัง้หมดและมาหยดุที ่‘The Iron Fairies’ ร้านอาหารที่เขาระบุว่าเป็น ‘Antique Restaurant and Wine Bar’ ใจกลางทองหล่อ นีค่อืเรือ่งเล่าวยัเดก็ของมสิเตอร์แอช ภายในห้องทีเ่ขาเรยีกว่า ‘Secret Room’ ชัน้สองของบาร์ บนเก้าอีต้วัหร ูเขามสีหีน้าท่าทางคล้ายคนต้องการพักผ่อน “ผมยุง่มาก ยุง่ทกุวนั เป็นแบบนีม้าสามปีแล้ว แต่ผมแฮปป้ีนะ ผมชอบท�าธุรกิจ ผมชอบท�า ชอบคิด คิดเยอะมาก ผมต้องมีความฝัน มีกิจกรรม มันสนุกมาก เวลาใช้ความคิดผมตื่นเต้น ” อดคิดไม่ได้ว่าเขาเป็นผู้ชายไฮเปอร์ “ไม่นะ ผมว่าผมเป็นพวกเพอร์เฟ็กชันนิสต์และรู้ตัวเสมอว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิต ผมรู้ว่าตัวเองต้องท�าอะไรในวันพรุ่งนี้ ต้องท�าอะไรในปีหน้า อีก 5 ปีผมจะซื้อเรือแน่นอน ตอนนี้ผมจึงต้องท�าเงิน ต้องท�าธุรกิจเยอะๆ แต่การท�าธุรกิจมันยากมาก” ในยามที่เขารู้สึกว่าธุรกิจมันยาก ตามติดมาด้วยความเบื่อ เขาเลือกพกัผ่อนด้วยการเขยีนหนงัสอืและวาดรปู นัน่คอืจดุเริม่ต้นของวรรณกรรมเยาวชน ‘The Iron Fairies’ ขนาดยาว 3 เล่ม และเป็นที่มาของชื่อร้าน

“ปกตถ้ิาผมเครยีด ผมจะเขยีนหนงัสอืและวาดภาพ มนัมเียอะมาก จนวันหนึ่งผู้จัดการโรงงานสมัยที่อยู่ออสเตรเลียเห็นงานผม เขาบอกว่าผมต้องตีพิมพ์งานนี้ให้ได้นะ” เรื่องของคนงานขุดทองที่ปรารถนาอยากออกสู่โลกกว้าง เพื่อหนีโลกใต้ดนิอนัน่าเบือ่ แต่พวกเขาได้แต่ก้มหน้าก้มตาท�างานและใช้เวลาว่างสร้างนางฟ้าเหล็กตัวน้อย และบางคนมีตุ๊กแกเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรด! ฟังดูหดหู่และโหดร้ายเกินกว่าเด็กน้อยวัยสดใสจะท�าความเข้าใจ “ทุกคนพูดว่าเรื่องมันดาร์กนะ แต่ตอนที่ผมเขียนหนังสือเล่มนี้ ผมไม่เคยคดิว่าเขยีนส�าหรบัใคร ผมเขยีนเพราะเบือ่ทกุอย่าง เบือ่งาน เบือ่โรงงาน ผมนอนแล้วก็คิด คิด คิด จนเป็น The Iron Fairies ผมว่าผมก็คิดเหมือนทุกคนนะ แต่ผมคิดแล้วท�าออกมาด้วยเท่านั้นเอง” เช่นเดียวกับบรรดานางฟ้าเหล็กตัวจิ๋ว กระเป๋าเหล็กใบใหญ่ หนังสือหุ้มเหล็ก และเครื่องจักรเหล็กของจริงที่จ�าลองมาจากเทพนิยายของเขา “ผมชอบเหลก็ ผมชอบท�าธรุกจิด้วยมอืผมเอง ผมชอบการท�าธรุกจิจากศูนย์และค่อยๆ ท�าให้มันโตขึ้น” เขาเล่าพลางดึงเชือกที่ห้อยลงมาจากโคมไฟด้านหน้า เมื่อหลอดไฟสว่างไสว ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที พนักงานสาวชุดด�าเปิดประตูห้องลับ เดนิเข้ามารบัแก้วเปล่าจากมอืเจ้านายและเตมิเหล้าเกอืบเตม็แก้วขึน้มาให้ ราวกับพ่อมดร่ายมนตร์หรือนักวิทยาศาสตร์ช่างประดิษฐ์! เขาปฏิเสธ เขาคิดว่าเขาเป็น ‘ผู้ประกอบการธุรกิจเหล็ก’ และยื่นแบล็กเบอร์รี่ให้เราดูภาพถ่ายมิสเตอร์แอชยืนกอดหมวกเหล็กยุคโบราณบนเรือกลางมหาสมุทร “ไลฟ์สไตล์ของผมนอกจากการท�างาน เวลาว่างผมจะไปผจญภยั ด�าน�า้ ไปเที่ยวเกาะที่ไม่มีคน ผมชอบส�ารวจ ชอบ history style ผมชอบหลายอย่าง” เรื่องราวชีวิตของมิสเตอร์แอชที่ว่ามาทั้งหมด เป็นบทสนทนาภาษาไทยล้วนๆ! อดคิดไม่ได้ว่าเขามีแฟนเป็นสาวไทย “ไม่มีแฟนมา 6 ปีแล้วครับ ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาเลย ผมพูดภาษาไทยได้เพราะเรียนภาษาไทยที่หน้าปากซอยทองหล่อ ทุกคนจะคิดว่ามีแฟนเป็นคนไทย ไม่ใช่นะครับ ผมเรียนภาษาไทยกับผู้หญิงแก่ๆ!”

Iron Tale

Page 8: What's on Their Mind!?

M PEOPLE M

� MARS OCTOBER �008

Songs of The Sea by Ukulele

ขอขอบคุณร้าน Ribbee Boutique ถนนกรุงเทพกรีธา 18 เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพ

เรื่อง > สันติ มณีรัตน ์ภาพ > อนุชิต นิ่มตลุง

Page 9: What's on Their Mind!?

M PEOPLEM

APRIL �010 MARS �

หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะฝึกเล่นดนตรีอย่างเอาเป็นเอาตายตั้งแต่วัยรุ่น! เพราะยามเมื่อเห็นผู้คนดีด สี ตี เป่า จนออกมาเป็นบทเพลงสักเพลงหนึ่ง อดอิจฉาและด่าก่นตัวเองไม่ได้จริงๆ ว่าเป็นคนไร้ความสามารถพิเศษติดตัว หลายครั้งเบื่อเป็นผู้ฟัง และปรารถนาอยากเป็นคนมีพรสวรรค์คนนั้นเสียเอง แต่กับเครื่องดนตรีตระกูลเดียวกันกับกีตาร์และขนาดเล็กกว่าสองเท่าตัวอย่างอูคูเลเล่ (Ukulele) หรืออุ๊ค (Uke) อาจไม่จำเป็นต้องพึงพรใดๆ ขอแค่ความชื่นชอบเล็กน้อย ความพยายามนิดหน่อย ฝึกจับคอร์ดง่ายๆ ที่แตกต่างจากกีตาร์ด้วยจำนวนสายเพียง 4 สาย ก็น่าจะเพียงพอสำหรับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ เอก-ภาสกร ศิริวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินไทยที่ใช้อูคูเลเล่คู่กับเพลงของเขาเสมอมา ช่วยยืนยันอีกหนึ่งเสียง “เท่าที่เห็นตอนนี้ ยังไม่มีศิลปินไทยใช้อูคูเลเล่เล่นดนตรีเป็นหลักนะ เท่าที่ผมพอนึกได้คือคุณเจี๊ยบ-วรรธนา วีรยวรรธนะ “เริ่มเล่นช่วงแรกๆ ถ้าไม่มีพื้นฐานกีตาร์อาจยากนิดหน่อย แต่ไม่ยากเท่ากีตาร์แน่นอน เพราะอูคูเลเล่มีสายน้อยกว่า แค่

หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะฝึกเล่นดนตรีอย่างเอาเป็นเอาตายตั้งแต่วัยรุ่น! เพราะยามเมื่อเห็นผู้คนดีด สี ตี เป่า จนออกมาเป็นบทเพลงสักเพลงหนึ่ง อดอิจฉาและด่าก่นตัวเองไม่ได้จริงๆ ว่าเป็นคนไร้ความสามารถพิเศษติดตัว หลายครั้งเบื่อเป็นผู้ฟัง และปรารถนาอยากเป็นคนมีพรสวรรค์คนนั้นเสียเอง แต่กับเครื่องดนตรีตระกูลเดียวกันกับกีตาร์และขนาดเล็กกว่าสองเท่าตัวอย่างอูคูเลเล่ (Ukulele) หรืออุ๊ค (Uke) อาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพรใดๆ ขอแค่ความชื่นชอบเล็กน้อย ความพยายามนิดหน่อย ฝึกจับคอร์ดง่ายๆ ที่แตกต่างจากกีตาร์ด้วยจำนวนสายเพียง 4 สาย ก็น่าจะเพียงพอสำหรับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ เอก-ภาสกร ศิริวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินไทยที่ใช้อูคูเลเล่คู่กับเพลงของเขาเสมอมา ช่วยยืนยันอีกหนึ่งเสียง “เท่าที่เห็นตอนนี ้ ยังไม่มีศิลปินไทยใช้อูคูเลเล่เล่นดนตรีหลักนะ เท่าที่ผมพอนึกได้คือคุณเจี๊ยบ-วรรธนา วีรยวรรธน “เริ่มเล่นช่วงแรกๆ ถ้าไม่มีพื้นฐานกีตาร์อาจยากนิดหน่อย แต่ไม่ยากเท่ากีตาร์แน่นอน เพราะอูคูเลเล่มีสายน้อยกว่า แค่ศึกษาวิธีการจับคอร์ดและตีคอร์ดแบบง่ายๆ สัก 4-5 คอร์ด ก็สามารถเล่นเป็นเพลงได้หลายเพลงแล้ว ยิ่งถ้าเล่นกีตาร์ได้ก็เล่นอูคูเลเล่ได้เลย” เอก หรือที่ใครๆ พากันเรียกว่า เอก ชะเอม ตามชื่อวงดนตรีแนวบอสซาโนวาและอคูสติกที่เขาร้องและเล่นกีตาร์คู่กับเพื่อนสาวเมื่อ 2 ปีก่อน ผมมาพบเขาอีกครั้งหนึ่งในฐานะติวเตอร์สอนเวิร์กช็อปอูคูเลเล่ ซึ่งจัดโดย Ribbee Boutique เอกเหมือนหลายๆ คนที่หลงใหลอูคูเลเล่เพียงเพราะมัน

ให้ความรู้สึกถึงทะเลและติดหู ติดใจการเล่นเครื่องดนตรีจากฮาวายชิ้นนี้จากบทเพลงของ Israel Kamakawiwo’ole นักดนตรีชาวฮาวายเอียนชื่อดังจากอูคูเลเล่ “เสน่ห์ของอูคูเลเล่คือเสียงใสๆ ที่ให้ความรู้สึกทะเล เสียงมันคมและแหลมกว่ากีตาร์ธรรมดา ผมจำได้ว่าตอนหยิบอูคูเลเล่ครั้งแรกไม่ถนัด เล่นไม่ได้เลย เพราะสายน้อยกว่า คอก็เล็กกว่า เสียงก็สูงกว่า แต่ตอนนี้ชินแล้ว” ผมนึกถึงบทเพลงของ Priscilla Ahn, Colbie Caill at, Beirut, Elvis Costello, Jake Shimabukuro, Ingrid Michaelson, Zooey Deschanel, Jack Johnson หรือแม้กระทั่ง John Lennon ที่มีกลิ่นอายของอูคูเลเล่ และภาพอูคูเลเล่ที่ถูกแขวนไว้บนผนังบ้านเพื่อนในฐานะของตกแต่งบ้าน “ครั้งแรกทุกคนจะมองอูคูเลเล่เป็นเหมือนของโชว์มาก

กว่า เพราะดีไซน์มันเหมือนของเล่น มีหลายแบบ หลากสีสัน บางคนเอาไปตกแต่งบ้านหรือทำเป็นที่คั่นหนังสือก็มีนะ ในขณะที่บางคนซื้อให้ลูกๆ เล่นเพราะคิดว่าเป็นกีตาร์สำหรับเด็ก “ตอนนี้ผมรู้จักประมาณ 10 กว่ายี่ห้อ แต่ละยี่ห้อมีคาแร็กเตอร์เป็นของตัวเอง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราวๆ สองพันห้าร้อยบาท มันแพร่หลายเพราะราคาถูกด้วย ในขณะที่กีตาร์อย่างน้อยก็เจ็ดถึงแปดพันบาทแล้ว “เงินสามหมื่นบาทก็ซื้ออูคูเลเล่รุ่นท็อปได้ แต่ก็มีรุ่นที่ราคาเป็นแสน ประเภทที่ทำออกมาตัวเดียวในโลก เสียงเพราะมากๆ คงเป็นของสะสมของพวกเศรษฐี “ตัวนี้ทำมาจากไม้โคอา (Koa)” เขาให้ความรู้ผมเพิ่มเติมเมื่อเห็นผมนั่งลูบ คลำ เคาะอูคูเลเล่ตัวหนึ่ง “มันเป็นไม้ที่ขึ้นเฉพาะในฮาวาย เป็นไม้พื้นเมืองที่รัฐบาลของเขาอนุรักษ์และอนุญาตให้ตัดได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น เพราะมันจะหมดป่าแล้ว น้ำหนักเบามาก ทำให้ได้ อูคูเลเล่ที่ เสียงนิ่งมาก เหมาะสำหรับนักสะสมอูคูเลเล่ เพราะมีคุณค่าในการเก็บ” “ผมเล่นเพลงร็อกด้วยอูคูเลเล่ได้ไหมครับ” ผมคึกถามเพื่อความฮา “ได้ครับ มีคนเล่นเพลงของ Metallica ด้วยอูคูเลเล่ด้วยนะ” เข้าทางผมเลยครับ เดี๋ยวผมจะไปฝึกเล่นอูคูเลเล่ด้วยเพลงร็อกตามพวกคลิปในยูทูบ แล้วอัพโหลดขึ้นเว็บ www.ribbee.com ที่เขากำลังเปิดแข่งขันการเล่นอูคูเลเล่ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นั่นหมายถึงนิมิตหมายอันดีว่าอูคูเลเล่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเรา! “ในต่างประเทศแถบญี่ปุ่นหรือออสเตรเลียเล่นกันเยอะ

มาก แต่โซนยุโรปกลับหาซื้อเครื่องดนตรีชนิดนี้ตามร้านไม่คอ่ยได ้ตอ้งเขา้ไปซือ้ในอนิเทอรเ์นต็หรอือเีบย ์สว่นอเมรกิาก็ต้องนำเข้ามาจากฮาวายอีกทีหนึ่ง จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร “ส่วนในบ้านเราผมคิดว่าต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง เพราะตอนนี้ก www.ukulelethai.com ก็มีสมาชิกประมาณ 600 คนแล้ว” หลังจากที่นั่งฟังเอกทั้งเล่าและร้องเพลงด้วยอูคูเลเล่กว่าหนึ่งชั่วโมง เพื่อนผมสองคนที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยก็หยิบเครดิตสีเขียวและรูดบัตรถอยอูคูเลเล่ติดไม้ติดมือกลับบ้านคนละตัว ผมเดาว่าพวกเขาคงต้องมนต์เสียงใสๆ จากอูคูเลเล่กันเสียแล้ว

M PEOPLEM

APRIL �010 MARS �

Page 10: What's on Their Mind!?

M PEOPLE M

2 MARS JULY 2010

M PEOPLE M

จากวนันัน้ วนัทีบ่างกอกโดนปล้นเผาเมอืง ทัง้โรเลก็ซ์เรอืนทอง แบลค็เบอรี่รุน่ Curve และ Bold iPod ทชัสกรนี แว่นตาเรย์แบนด์ กระเป๋าชาแนล โทรทศัน์แอลซดี ีเหล่าซเูปอร์ฮโีร่อย่างแบทแมน สญัญาณค้างคาวดนัไม่ท�างาน ซเูปอร์แมนหากางเกงในไม่เจอ อศัวนิกค็ว้าม้าขาวไม่ทนั ได้แต่นัง่เหม่อมองการถ่ายทอดสด ถอนหายใจและรอคอยแสงสทีองของเช้าวนัใหม่ด้วยความหวงั (และลุน้ว่าตรอกซอกซอยของตวัเองจะตดิร่างแหไปด้วยหรอืไม่!)

จนถงึวนันี ้วนัทีไ่ม่มใีครกอบกูเ้อกราชให้เราได้นอกจากสต ิสมอง สองมอืของตวัเอง และน�า้จติน�า้ใจจากคนไทยด้วยกนั เช่นเดยีวกบักลุม่คนเลก็ๆ กลุม่นี ้พวกเขาอาจไม่ได้ออกมาช่วยกวาดถนนหรอืเกบ็ซากปรกัหกัพงั แต่พวกเขามีอาวุธที่ไม่เป็นรองใคร นั่นคือวิชาชีพ ‘กราฟฟิกดีไซน์’ “งานกราฟฟิกดีไซน์อยู่รอบตัว เราเห็นมันตั้งแต่ลืมตาตอนเช้า มีตัวอกัษร มภีาพอยูท่กุที ่มนัทรงพลงัมากเลยครบั มนัสามารถถ่ายทอด สือ่สาร

เรื่อง > นันทรัตน์ สันติมณีรัตน์ ภาพ > สุวิทย์ กิตติเธียร

Fix Bangkok

Page 11: What's on Their Mind!?

M PEOPLEM

JULY 2010 MARS 3

ไปถึงผู้รับได้ง่ายและเร็ว บังเอิญมันอยู่รอบตัวเราเสียจนกลายเป็นสิ่งคุ้นเคยและให้ความส�าคัญกันน้อย “งานกราฟฟิกดไีซน์เข้ามาในบ้านเราและมอีทิธพิลจรงิๆ เมือ่ประมาณ 20 ปีก่อน แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปอีก มันมีมาตั้งแต่ 700-800 ปีที่แล้ว เช่น สัญลักษณ์ตราราชวงศ์ ธงในงานพระราชพิธี” ฉี-โอภาส ลิมปิอังคนนท์ นายกสมาคมนักออกแบบเรขศิลป์ไทย และแต๊บ-วรวิทย์ เครือวาณิชกิจ ดีไซเนอร์/ไดเร็กเตอร์ บริษัท Farm Group ปูพื้นฐานให้เราฟังก่อนจะเล่าถึงโครงการ ‘Grafix: Design Thailand’ หนึ่งในโปรเจ็กต์กู้กรุงเทพฯ! “‘Grafix: Design Thailand’ เรียกได้ว่าเป็นโปรเจ็กต์เฉพาะกิจของสมาคมนักออกแบบเรขศิลป์ไทย หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบใน กทม. พวกเราคิดว่าน่าจะท�าโครงการร่วมกันสักหนึ่งโครงการ เพื่อช่วยเหลอืผูป้ระกอบการผูไ้ด้รบัผลกระทบหรอืหน่วยงานทางภาครฐัทีต้่องการความช่วยเหลือทางด้านกราฟฟิกดีไซน์” ใน www.thaiga.or.th/grafix มรีายชือ่ ข้อมลูตดิต่อ และตวัอย่างผลงาน (portfolio) ของนักออกแบบอาสาสมัครกว่าร้อยคน ทั้งที่เป็นบริษัทและบุคคล ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ผ่านมา สามารถเข้าไปดผูลงานการออกแบบของดไีซเนอร์แต่ละคนและสามารถโทรตดิต่อกันได้โดยตรง “เราตั้งเว็บไซต์อันหนึ่งขึ้นมา มีไอคอนของอาสาสมัครเพื่อกดเข้าไปลิงก์สู่เว็บพอร์ตโฟลิโอของแต่ละคน ผู้ประกอบการสามารถเลือกงานของ ดีไซเนอร์ที่ชอบได้เลย” โลโก้ นามบัตร แบนเนอร์ ป้ายร้าน เว็บไซต์ เมนูอาหาร แพ็กเกจ ผูป้ระกอบการทีป่ระสบภยัทกุพืน้ทีส่ามารถพึง่พากราฟฟิกดไีซเนอร์อาสาสมัครได้ คล้ายน�้าพึ่งเรือเสือพึ่งป่า “การเข้าร่วมโครงการนี้ดีไซเนอร์ที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา แต่มีเงื่อนไขความเป็นจิตอาสาเพิ่มเข้ามาด้วยนอกเหนือจากวิชาชีพ หมายความว่าไม่ได้เข้ามาเฉยๆ คุณจะต้องมีใจที่อยากช่วยเหลือคนอื่น บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยจากหนักให้เป็นเบา” แต่ของฟรีมันมีในโลกจริงหรือ!? “เราเขยีนไว้ในข้อตกลงทางหน้าเวบ็แล้วว่าถ้าเป็นไปได้และไม่ได้หนกัหนาอะไร เราก็ยินดีท�าให้ฟรี แต่ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี บางคนร้านเสียหาย แต่ได้ทุนมาก้อนใหญ่ อยากสร้างแบรนด์ใหม่ ขายทั่วโลก มันกลายเป็นงานทีโ่คตรใหญ่ รายนีก้ค็งต้องมกีารคยุกนั อาจท�าให้ฟรหีรอืเกบ็ค่าแรงน้อยกว่าปกติแน่นอน “ระหว่างผูป้ระกอบการทีเ่สยีหายและกราฟฟกิดไีซเนอร์ในโครงการนี้ เราอยากให้เป็นแบบ 50-50 คือการออกแบบเป็นงานศิลปะ บางคนชอบแบบนี ้บางคนไม่ชอบแบบนี ้เราอยากให้รบัผดิชอบร่วมกนั ผมไม่อยากให้เกดิเหตกุารณ์ทีว่่ามคีนโทรมาทีส่มาคมแล้วบอกว่าคนนีอ้อกแบบไม่ได้เรือ่ง การควบคุมความพึงพอใจมันคงล�าบาก “ส่วนเรื่องราคา เรามีกฎหลวมๆ อยู่ คือมันก็มีนักออกแบบส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเหมือนกัน เรามองว่าเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หางานให้นักออกแบบที่ได้รับผลกระทบด้วย เขาอาจจะคิดราคาถูกแต่ก็ยังดี

กว่าเขาไม่มีงานท�าเลย” พวกเขาเปรยีบเทยีบงานสเกลใหญ่ทีอ่าจต้องขออนญุาตคดิมลูค่าเป็นตัวเงินว่า เหมือนได้ถือกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ราคา 50,000 บาท ในราคาเพียง 25,000 บาท เพราะฝีมอืของบรรดานกัออกแบบอาสาสมคัรทีม่าเข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 4-5 ดาว! “ความพึงพอใจต่างๆ มีมูลค่าอยู่แล้ว ผู้ประกอบการอาจต้องท�าการบ้านนดินงึว่าทีไ่หนให้ความพงึพอใจได้ ทีท่ีเ่รารูส้กึว่าไว้ใจได้ เรือ่งของราคาสูงต�่ามันมีหลายบริษัทให้เลือก นักศึกษาปริญญาตรีก็สามารถช่วยคุณได้ แต่ผมเชือ่ว่าถ้าไม่เหนอืบ่ากว่าแรง ดไีซเนอร์ทีเ่ข้าร่วมโครงการยนิดที�าให้ฟรีๆ ” คุณแต๊บท�างานโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายไว้ในงานคอนเสิร์ต รัก ณ สยาม ร่วมกับออร์แกไนเซอร์และครีเอทีฟกลุ่มหนึ่งที่ผูกพันกับโรงหนังสยามที่กลายเป็นสถานที่แห่งความหลังไปแล้ว “ผมมีส่วนช่วยในส่วนของการออกแบบตั๋ว ออกแบบโลโก้ โปสเตอร์ ป้ายโฆษณาภายในงาน พวกเราเคยท�างานกบัเครอืเอเพก็ซ์และผกูพนักนั เขาเป็นพนัธมติรทีน่่ารกัมาก เมือ่เพือ่นเจบ็แล้วเราจะไม่ช่วยเลยหรอื กลุม่คนทีม่าช่วยจัดงานครัง้นีก้ไ็ม่มใีครคดิค่าตวัเลย แม้กระทัง่พวกศลิปินทีม่าแสดงโชว์” ในขณะที่หนึ่งในงานออกแบบของคุณฉีส�าหรับโปรเจ็กต์นี้คือ ดีไซน์ป้าย โลโก้ แบนเนอร์ เซ็ตร้านอาหารอิตาเลียนโฉมใหม่ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่โดนเผาราบเป็นหน้ากลองย่านสยามสแควร์ และท�างานร่วมกับหน่วยภาครัฐอย่างททท. ในงาน ‘Smile at Ratchaprasong’ หรือตลาดนัดน�้าใจ ช่วยสร้างภาพรวม ออกแบบโลโก้ ท�าภาพประกอบ โดยไม่หวังผลตอบแทน “อย่างร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ แถวสยาม เขาได้รับความเสียหายและเขาอยากเปิดร้านใหม่ แต่อาจไปเปิดที่สวนจตุจักร ไม่จ�าเป็นต้องสร้างร้านทีเ่ดมิกไ็ด้ ขอให้คณุเป็นคนทีไ่ด้รบัผลกระทบจรงิๆ และพร้อมลกุขึน้มาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นที่โลเคชั่นไหนก็ตาม เรายินดีออกแบบให้ “‘Grafix: Design Thailand’ เป็นเหมือนไดเร็กทอรี่ของอาสาสมัครกราฟฟิกดีไซเนอร์ คือไม่เคยมีใครรวมนักออกแบบเยอะขนาดนี้มาก่อน อพัเดตล่าสดุกป็ระมาณหนึง่ร้อยกว่าคนแล้ว ถ้าพวกผมไปชวนคนรูจ้กัด้วยตัวเองคงท�าได้ไม่เกิน 20 คน มันยังมีคนเล็กคนน้อยที่เราไม่เคยเห็นอีก ผมคลิกเข้าไปดูพอร์ตงานของแต่ละคน งานดีทั้งนั้นเลย บางงานเจ๋งๆ ทีเ่คยคดิว่าเอเยนซีท่�า กลายเป็นว่าเขาเป็นฟรแีลนซ์ต่างหาก ซึง่ตรงนีม้นักลายเป็นเน็ตเวิร์กที่ใหญ่มาก” เราต่างรู้กันดีว่างานดีไซน์ในยุคนี้ไม่ใช่ถูกๆ ห้าหมื่น สองแสน สี่ล้าน อาจเป็นตัวเลขโค้ตราคามูลค่างานออกแบบที่พวกเขาอาสาท�าให้ “สิ่งที่พวกเราท�าให้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี ผมว่าการให้เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว จากงานนี้ท�าให้เราเห็นสังคมกันเยอะขึ้น สิ่งไม่ดีที่ผ่านมากลับท�าให้เห็นสิ่งใหม่ๆ ผมได้เจอเพื่อนใหม่ ได้ท�างานกับทีมงานใหม่ มีโอกาสใหม่ๆ เข้ามา ได้ท�าสิ่งดีๆ ร่วมกับคนอื่น แม้แต่การที่คุณมาสัมภาษณ์เราเองก็เป็นเรื่องใหม่ๆ เหมือนกัน เรามองว่าไอ้สิ่งไม่ดีที่ผ่านมา มันมีสิ่งดีๆ เข้ามาด้วย และเราต้องเก็บสิ่งดีๆ หรือโอกาสดีๆ เหล่านั้นให้มันดีต่อไป”

Page 12: What's on Their Mind!?

S PEOPLE S

� MARS JUNE �009

S PEOPLES

DECEMBER �009 MARS �

เรื่อง > สันติ มณีรัตน ์ ภาพ > อนุชิต นิ่มตลุง

Mashroom’ll Glow in the Dark!

ย่านอโศกช่วงบ่ายโมง คงไม่มีตึกไหนวุ่นวายเท่าอาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ที่เต็มไปด้วยผู้คนในอุตสาหกรรมเพลง ผมเดินผ่านดารา นักร้องหน้าตาคุ้นเคย, ชายมาดเซอร์ มีคนอื่นตะโกนเรียกพี่โปรดิวเซอร์, สาวๆ พนักงานคนสวยของขึ้นชื่อของที่นี่ แต่ดันมีอาตี๋พันธุ์สยามสแควร์ที่ดูเหมือนเด็กห นุ่ ม เ พิ่ ง ส่ ง เ ด โ ม ว ง ด น ต รี ใ ห้ครีเอทีฟเดินตัดหน้าบังสายตาให้เสียอารมณ์นิดหน่อย ไม่เป็นไร จุดหมายของผมอยู่ที่ชั้น 26 ไม่ใช่การเฝ้ามองคนดังเหมือนบรรดาแฟนคลับหน้าประตู ผมถูกเชิญเข้ามาในห้องโล่งกว้าง บรรยากาศช่างแตกต่างจากข้างล่างโดยสิ้นเชิง และนั่งลงรอ ฟา้ใหม ่ดำรงชยัธรรม เพือ่สมัภาษณ ์เขาลงคอลัมน์ S PEOPLE ฉบับเดือนธันวาคมนี้ เพราะได้ข่าวมาว่าลูกชายคนโตของอากู๋ บอสใหญ่แห่งแกรมมี่ กำลังเติบโตเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นด้วยการลงมือสร้างธุรกิจของตัวเอง 5 นาทีต่อมาอาตี๋พันธุ์สยาม สแควร์ที่ดูเหมือนเด็กหนุ่มเพิ่งส่งเดโมวงดนตรีคนเดิมเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับแนะนำตัวเองว่า “ฟ้าใหม่ครับ” ผมกะพริบตา 2 ที! แล้วเหลือบไปมองภาพถ่ายของเขาในชุ ด สู ท ส ไตล์ ผู้ บ ริ ห า รบนหน้ าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับหนึ่ง เซ็กชั่น Business อือ... ตัวจริงของฟ้าใหม่ช่างดูเรียบง่ายและ

ท่าทางสบายๆ กว่าที่คิด เสื้อยืดสีดำพอดีตัว กางเกงยีนส์สีเข้ม รองเทา้ผา้ใบ (นา่จะเปน็) คอนเวอรส์ ผมพยายาม มองหาของแบรนด์ในตัวเขา แต่ยังไม่พบ! “ปกติก็แต่งตัวแบบนี้มาทำงานครับ ไม่ได้สวมสูทหรือผูกเน็กไทอย่างในภาพที่เห็น” งานที่ว่าของเขาในตอนนี้คือ Mashroom โปรเจ็กต์ดนตรีอิเล็กทรอนิกปาร์ตี้ที่เขาเก็บ สะสมไอเดียมาตั้งแต่สมัยไปเรียนหนังสือที่อเมริกาและกลับมาฝึกงานที่แกรมมี่ “ตลาดเพลงอิ เ ล็ กทรอนิกที่ อ เมริ กา ค่อนข้างใหญ่ เขาจัดเป็นเฟสติวัลกันอยู่เรื่อยๆ คนเข้าร่วมงานครั้งละหลายหมื่นคน ทำให้ผมอินกับเพลงแนวนี้มากสมัยที่ไปเรียนที่นั่น แต่เมื่อมองย้อนกลับมาสังเกตดูว่าแถวเอเชียมีบ้างไหม มันมีแค่เทศกาลดนตรีของ Zouk Out ที่สิงคโปร์ และ House Nation ที่ญี่ปุ่น ผมจึงมีไอเดียอยากให้เมืองไทยมีปาร์ตี้หรือเฟสติวัลแบบนี้บ้าง” ในช่วงเวลาที่ ใครๆ ก็ยังเต้นตามหนุ่มเกาหลี ฮัมเพลงรักน้ำเน่าที่มีท่อนฮุกฮิตๆ แบบนี้หรือครับ “เทรนด์ของเพลงเมนสตรีมช่วงนี้มีส่วนผสมของอิเล็กทรอนิกเข้าไปไม่น้อยนะครับ อย่างมาดอนนา, แบล็กอายด์พีส์ (Black Eyed Peas) ผมดูแล้วว่าคนไทยที่ฟังเพลงแบบนี้มีเยอะพอสมควร เพราะเมื่อมีเฟสติวัลที่ประเทศเพื่อนบ้าน คนไทยก็บินไปดูกันไม่น้อย หรือในเมืองไทยเองมีการจัดปาร์ตี้ตามคลับและเชิญดีเจเมืองนอกมาเล่นเช่นกัน” ฟังดูไม่ต่างอะไรกับงานปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยเด็กแนว มีฝรั่งหัวทองหน้าตาเหมือนเคยเจอที่ข้าวสารเปิดเพลง และฟรีบาร์ถึง(แค่)สี่ทุ่ม! “ผมอยากแตกต่างจากเจ้าอื่นด้วยการทำให้เป็นกิจจะลักษณะมากกว่านี้ ไม่ใช่แต่เชิญ

ดีเจเมืองนอกมา ผมจะเติมในส่วนของโปรดักชั่นเข้าไปโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของสถานที่ ซึ่งปกติการจัดปาร์ตี้แบบนี้ต้องประจำ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ผมอาจจัดในที่เล็กๆ หรือใหญ่ๆ ไปเลยก็ได้ เช่น โกดัง ดาดฟ้าตึก มันยืดหยุ่นและสร้างสรรค์กันได้ครับ” คงเหมือนกับการที่ฟ้าใหม่ตัดสินใจเลือก ‘Maya’ ผับหรูรายล่าสุดใจกลางทองหล่อด้วยเหตุผลว่าไม่ต้องการพื้นที่เพดานอับและเตี้ยเหมือนผับทั่วไป “ไปเที่ยวที่เดียวซ้ำๆ มันก็เบื่อ เช่นเดียวกับดีเจ คนที่มาเล่นที่เมืองไทยบ่อยๆ จนคนไทยรู้จัก เขาอาจจะไม่ใช่ดีเจที่เก่งที่สุด ผมอยากนำเสนอดีเจที่ไม่ฉาบฉวยและไม่เคยมีใครเชิญมาบ้าง บางคนมาบ่อยเกินไปแล้ว” เขาพยักหน้าเห็นด้วยกับผมเมื่อพูดถึงความหอมหวานปลอมๆ ของคำว่า ‘ฟรีบาร์’ อย่างน้อยผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่เคยได้สัมผัสแอลกอฮอล์ในงานปาร์ตี้โดยไม่เสียสตางค์ของตัวเอง บางทีได้รับคำติเตียนจากบรรดาเด็กเสิร์ฟว่า ฟรีบาร์ถึงแค่สี่ทุ่มครับพี่! นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มวัย 23 ปีคนนี้หงุดหงิดใจ เขาบอกว่าในงานปาร์ตี้ของเขาถ้าแอลกอฮอล์หมด ยินดีออกเงินของตัวเองและวิ่งไปซื้อให้ใหม่ นี่คือเซอร์วิสที่ขาปาร์ตี้ควรได้จาก Mashroom เห็ดที่ต้องเติบโตในที่มืดดอกนี้จะไม่น่าสนใจถ้าเจ้าของปาร์ตี้โปรเจ็กต์ใหม่ครั้งนี้ไม่ใช่ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ผู้มีทีเด็ดเป็นเทรนด์เซ็นเตอร์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเพลงไทยอย่างแกรมมี่ที่มีไม้ตายและอาวุธลับเป็นอุปกรณ์การทำงานโปรดักชั่นรุ่นใหม่ล่าสุด “ผมได้เปรียบเจ้าอื่นเพราะว่าผมมีทุกอย่างครบครันอยู่แล้ว และผมจับมือกับบริษัทมีเดีย วิชั่น ในเครือแกรมมี่ ซึ่งเป็นแนวหน้าใน

การจัดพวกคอนเสิร์ตอยู่แล้ว เขากว้านซื้อของใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลา เช่น พวกจอ LED เครื่องปล่อยควัน ปล่อยลูกโป่ง เท่ากับว่าผมมีของเจ๋งๆ มากกว่าในผับทั่วไป และแกรมมี่เองก็มีทั้งมีเดียหลายด้าน มีพีอาร์ที่แข็งแรง พอคิดแบบนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่ลองทำ” ผมเห็นด้วยยิ่งขึ้น เมื่อได้สนทนาเรื่องดนตรีและเพลงกับเขา “โดยส่วนตัวแล้ว ผมฟังเพลงได้ทุกแนว ตั้งแต่เพลงแจ๊ซ บลูส์ ร็อก ดนตรีพวกเมนสตรีมผมก็ฟัง และอิเล็กทรอนิกเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ชื่นชอบเพิ่มขึ้นมา” ได้ยินมาว่าคุณพ่อบอกว่า ‘ทำอะไรก็ทำ แต่อย่าขาดทุนแล้วกัน!’ ฟ้าใหม่หัวเราะจนตาหยีกับคำหยอกล้อ “ผมเพิ่งเริ่มทำงานโปรเจ็กต์นี้ครั้งแรก ทำมาได้ 2-3 เดือน ถ้าถามว่ากดดันไหม ต้องยอมรับว่ากดดันครับ ผมใช้วิธีปลอบใจตัวเองว่า นี่คืองานครั้งแรกของผม ผมไม่คาดหวังให้ปาร์ตี้ครั้งนี้สำเร็จเป็นพุลแตกและทุกคนต้องรู้จัก Mashroom หรือครั้งที่สองต้องมีคนร่วมงานนับหมื่นคน ผมยังไม่ได้หวังขนาดนั้น แต่จะทดลอง เก็บข้อมูลและพัฒนาไปเรื่อยๆ “ในอนาคตถ้าโปรเจ็กต์นี้เติบโตได้อีก ผมฝันไว้ว่าผู้คนจากประเทศเพื่อนบ้านบินมางานปาร์ตี้ของผมโดยเฉพาะ” ว่าแล้วผมก็ไม่ลืมตบท้ายด้วยคำถามปลายปิดเหมือนนักข่าวคอลัมน์ซุบซิบดารา “ทำงานแบบนี้ก็ต้องไปเที่ยวกลางคืนสำรวจตลาดบ่อยสิครับ ปาร์ตี้บ่อยแน่ๆ เลย” “ไปบ้างครับ แต่ไปเฉพาะคืนวันศุกร์นะครับ ผมไม่เที่ยววันทำงาน เคยลองแล้วมันไม่ไหวและไม่เวิร์กจริงๆ ครับ” ปัดโธ่! ตอบชัดเจนแบบนี้นักข่าวบันเทิงก็เซ็งสิครับคุณฟ้าใหม ่

Page 13: What's on Their Mind!?

L PEOPLE L

� MARS OCTOBER �008

L PEOPLEL

OCTOBER �009 MARS �

ถ้าเลือกได้ ชาติหน้าผมขอเกิดเป็นหมา! แต่ขอเป็นหมาที่อยู่ในสังกัด ‘ศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์’ หรือที่รู้จักกันในนามของโมเดลลิ่งสุนัขแห่งแรกของเมืองไทย เพราะนักแสดงหูตูบเหล่านี้มีรายได้รวมสุทธิมากกว่าพนักงานบริษัทที่มีเงินเดือน รวมโอที บวกโบนัสของผมเสียอีก ไม่ได้น้อยใจ ไม่ได้ตัดพ้อ ไม่ได้หดหู่ในโชคชะตา แต่อดอิจฉาไม่ได้จริงๆ “มันแล้วแต่ชนิดของงานนะ อย่างตอนที่น้องส้มจี๊ดถ่ายโฆษณาของญี่ปุ่น ค่าตัวเป็นเลขหกหลัก ใช้เวลาถ่ายทำอยู่ 2 วัน” อาจเพราะการสื่อสารของสัตว์สองขาอย่างมนุษย์เรากับสัตว์สี่ขาอย่างเขาไม่ใช่เรื่องง่าย บอกให้กิน นอน นั่ง กระดิกหางยังพอว่า แต่นี่ถึงขั้นให้ตีหน้าเศร้า ทำหน้ายิ้ม ทำท่างงปนสงสัย ยักคิ้ว ปลิ้นตา สารพัดอารมณ์และพฤติกรรม โปรแกรมตัดต่อหนังระดับฮอลลีวูดคงสู้แอ็กชั่นจริงของบรรดาหมาๆ ไม่ได้ “การสอนสุนัขมีหลายรูปแบบ ซึ่งคนส่วนใหญ่คงนึกว่าการที่สัตว์ตัวหนึ่งเชื่อฟังคนได้ขนาดนี้ เขาคงต้องใช้ความรุนแรงโดยการเฆี่ยนตี จริงๆ ไม่ใช่เลย พวกเราเป็นเหมือนครูรุ่นใหม่ที่ใช้การพูดจา ใช้เทคนิคที่นุ่มนวล ที่สำคัญคือความเข้ า ใจซึ่ งกันและกันและพยายามจูนเข้าหากันให้ได้” ผู้คนประเภท love me, love my dog ทีไ่หนกท็ำไดน้ะ่ส ิหรอืคณุไมแ่อบคดิแบบนัน้!? แต่คุณวันไชยและคุณนงพร เจียมภักดี สองสามีภรรยาผู้บุกเบิกแนวความคิดของศูนย์ฝึกและโมเดลลิ่งสุนัขแห่งนี้ขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว มีมากกว่าแค่ความรัก นั่นคือความใกล้ชิด ความอดทน และประสบการณ์ “น้องหมาจะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความใกล้ชิด ความผูกพันที่เรามีให้เขาด้วย ที่สำคัญคือต้องมีความอดทน ทั้งเขาและเราต้องมีให้กัน เขาอดทนทำเพื่อเรา เราก็ต้องอดทนรอคอยเขา ต้องอดทนกันมากๆ เลย” สุนัขกว่าหนึ่งร้อยตัวอดทนเพื่อเขาและเธอ

จน 85 เปอร์เซ็นต์ของนักแสดงสุนัขบนจอเงิน จอแก้ว หนังโฆษณา โปสเตอร์ งานอีเวนต์ทั่วฟ้าเมืองไทยถูกปั้นจากที่นี่ รวมไปถึงไอ้หมาน้อยสะพานลอยในหนังเรื่อง ‘ความจำสั้น แต่รักฉันยาว’ และแก๊งหมาๆ ใน ‘มะหมาสี่ขา’ “สุนัขที่นี่มาจากหลายแหล่ง ตั้งแต่สุนัขที่ซื้อมาเพราะพวกเราอยากได้ สุนัขที่เพื่อนๆ ฝากเลี้ยงเพราะไม่มี เวลาดูแลหรือไปต่างประเทศ สุนัขที่เฟ้นหามาตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ ไปจนถึงสุนัขที่เก็บมาเพราะความสงสารและอดช่วยเหลือไม่ได้ “เริ่มแรก เราใช้ตัวเองเป็นหลักว่าอยากได้อะไรจากเขา แล้วลองจากสุนัขของตัวเองก่อน ลองไปลองมาประมาณ 4-5 ครั้ง เราจะได้สมมุติฐานว่าถ้าเราอยากได้แบบนี้ต้องทำแบบไหน แล้วเราก็ทดลองกับตัวอื่นๆ ซึ่งมันได้ผล แสดงให้เห็นว่าพื้นฐานของสุนัขแต่ละตัวใกล้เคียงกัน” คนหลายยุคหลายสมัยเห็นพ้องต้องกันว่าสุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่ในฐานะเพื่อนร่วมงาน พวกมันเป็นหนึ่งในสิ่งน่าขยาดที่ตีคู่มากับเด็ก เอฟเฟ็กต์ สลิง “สัตว์เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม บางทีมันเปลืองทั้งฟิล์มและเวลา โดยเฉพาะในหนังโฆษณาที่ฉายได้เพียงแป๊บเดียว ทุกอย่างต้องเนี้ยบและตรงเป๊ะ เพราะในเฟรมกล้องมีจุดโฟกัสไว้อยู่แล้ว “เมื่อก่อนในการถ่ายคนและสุนัขใช้เวลาแตกต่างกันเยอะมาก แต่เดี๋ยวนี้ผมเชื่อว่าความแตกต่างนั้นลดลงเยอะ ไม่เช่นนั้นผู้กำกับหลายคนคงไม่มอบความไว้วางใจให้เรา” หรือพวกเขาจะทำให้ครีเอทีฟ ผู้กำกับ สปอนเซอร์ ลูกค้า ฯลฯ เริ่มเอาแต่ใจตัวเองด้วยความต้องการและจินตนาการอันหลุดโลก “คือบางคนอาจหลับตานึกภาพว่าสุนัขทำอะไรได้บ้าง และคิดว่าคงทำได้แค่นั่ง นอน เดิน พอวันถ่ายทำ ผู้กำกับเริ่มเห็นว่าจริงๆ แล้วสุนัขทำได้มากกว่าที่คิด ก็เริ่มมีบทงอกขึ้นมาเรื่อยๆ เช่น จากฉากที่สุนัขต้องเดินผ่าน

เรื่อง > สันติ มณีรัตน ์ ภาพ > อนุชิต นิ่มตลุง

เรื่องของหมาที่ไม่หมาอย่างที่คิด

นางเอกไปเลย อาจเปลี่ยนเป็นให้สุนัขยกขาสะกิดนางเอกก่อนเดินผ่าน “มันดีสำหรับทั้งสองฝ่าย เราสองคนชอบ รู้สึกสนุก ท้าทายที่ได้ลองทำ เท่ากับเราได้ปั้นสุนัขของเราให้มีความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้โลกได้รู้ว่าน้องหมาไม่ใช่แค่หมานะ มันยังมีคุณค่าในตัวเขา และเราทำให้คุณค่าของเขาหลุดออกมาด้วย ส่วนทีมสร้างก็ได้ภาพแปลกๆ และน่ารักมากขึ้น “บางเรื่องผู้กำกับจะเข้ามาคัดเลือกสุนัขด้วยตัวเอง ในขณะที่บางคนไว้ใจให้เราเลือกให้เลย ซึ่งเราก็ต้องมาตีโจทย์กันเองว่านักแสดงที่ เขาอยากได้ควรมีคาแร็กเตอร์และลักษณะอย่างไร” นักเรียนการแสดงของพวกเขาไม่ได้มีเพียงสุนัขนับร้อยตัว แต่ยังมีแมว นก ไก่ แกะ อีกหลายสิบชีวิตให้ศึกษา เรียนรู้ นั่งดูพฤติกรรมและวิถีชีวิตกันอีกหลายวัน เพื่อเตรยีมตวัฝกึสอนแอก็ติง้ลงโฆษณาอกีหลายตวั “การฝึกสัตว์แต่ละชนิดต่างกันมากเลย อย่างแมวมีความรักอิสระเยอะมาก ต้องใช้เวลากับเขาเยอะๆ แถมทำงานได้นิดเดียวก็ไม่เอาแล้ว จะนอนอย่างเดียว โลกส่วนตัวสูง ความอดทนสู้สุนัขไม่ได้ ถ้าเทียบกันระหว่างแมวใหม่กับหมาใหม่ การฝึกหมาง่ายกว่ามาก ส่วนนกฝึกได้ค่อนข้างจำกัด ต้องฝึกตามช็อตเป๊ะๆ และฝึกได้แค่นั้นเลย “เมื่อถึงคราวที่ต้องฝึกสัตว์แปลกๆ เราต้องดูบทและคิดว่าเราเป็นสัตว์ตัวนั้น ที่สำคัญคือต้องศึกษาธรรมชาติของสิ่งที่เราจะฝึกด้วย ซึ่งมันต้องนั่งดูกันเป็นวันๆ เลยทีเดียว” ฟังดูเหนื่อยและยากทั้งคนและสัตว์ ทั้งเจ้าของและพนักงาน แต่ด้วยความรักและการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของสัตว์เป็นอันดับแรก พร้อมด้วยความคิดที่ว่าไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทใด ล้วนแล้วแต่ต้องการความรักและการดูแลเอาใจใส่เหมือนกัน แค่นี้ก็ทำให้ ‘ศูนย์ฝึกสุนัขไชยภักดิ์’ กลายเป็นทั้งโรงเรียนและโมเดลลิ่งชั้นดีชื่อดังแล้ว

Page 14: What's on Their Mind!?

M PEOPLE M

� MARS JUNE �009 MARCH �010 MARS �

S PEOPLES

วันหนึ่งในปีที่แล้ว ผมได้ยินเสียงดนตรีพร้อมเนื้อร้องภาษาไทย “ฉันเคย อยากลองเป็นพระจันทร์ ลอยขึ้นฟ้าสักวัน ได้งั้นคงดี “พบเธอ จึงเข้าใจได้ทันที บนท้องฟ้ามีแต่ฟ้า ไม่มีของดี” ฟา้และพระจนัทรใ์นเพลงนีท้ำใหผ้มนกึถงึนทิานปรมัปราสมยัเดก็ทนัท ีและถงึแมผ้มไมใ่ชน่กัวจิารณเ์พลงตวัยง นกัฟงัเพลงชัน้เยีย่ม แตผ่มออกปากกบัเพือ่นไวว้า่ “เดีย๋วเพลง ‘ถามจนัทร’์ และวง 25 hours กด็งั เชือ่ด”ิ แต่สำหรับพวกเขา ความดังกลายเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์ “ตอนแรกพวกเราคิดว่าเพลง ‘ถามจันทร์’ จะจำกัดอยู่ในคนฟังวงเล็กๆ กลายเป็นว่าเพลง ‘ถามจันทร์’ นี่แหละที่ทำให้วง 25 hours เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ไม่นึกว่าจะถูกหูคนฟังมากขนาดนี้ “ตอนนี้วงการเพลงคาดเดาอะไรไม่ได้หรอกครับ มันไม่มีสูตรสำเร็จ และเด็กทุกวันนี้ฟังเพลงเยอะมาก เพราะเขาอยู่หน้าอินเทอร์เน็ตกัน เขาเลือกได้แล้วว่าจะดูหรือฟังอะไร ไม่ใช่สื่อส่งให้เขาเพียงฝ่ายเดียว เขาอาจหันไปฟังวงใหม่ๆ จากฝั่งอังกฤษผ่านพวกมายสเปซ (myspace) หรือ youtube ‘ถามจันทร์’ มันเลยฟังง่ายสำหรับคนยุคนี้” และแล้ววันนี้ แหลม-สมพล รุ่งพาณิชย์ นักร้องนำที่ถูกคอรสชาติดนตรีของวง Oasis มากที่สุด, โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ มือกีตาร์ผู้เติบโตมากับเสียงดนตรีของ The Beatles วงที่เขามองว่าเป็นเหมือนรากเหง้าของทุกสิ่ง, ปู๋-ปิยะวัฒน์ มีเครือ มือกีตาร์อีกหนึ่งคนที่มีบุคลิกคล้าย John Mayer ไอดอลของเขา, บัง-เอกศิริ กำบังภัย มือเบสผู้ชื่นชอบ Freddie Mercury นักร้องนำวงควีน และจ๊อบ-กฤตพงษ์ สกุลนามอเนก มือกลองที่มองว่าวง The Dave Matthew Band เป็นฮีโร่ของเขา พาวง 25 hours พร้อมเพลง ‘ถามจันทร์’, ‘วันดีดี’, ‘สัญญา’ และ ‘ทำได้เพียง’ ขึ้นชาร์ตเพลงหลายคลื่นวิทยุ หรือพวกเขากำลังกลายเป็นหนึ่งในวงดนตรีชื่อดังไปแล้วจริงๆ “อย่าใช้คำว่าดังเลยครับ เรียกว่าได้รับความนิยมดีกว่า พวกผมถือว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะก่อนออกเทปก็ไม่ได้คิดถึงขั้นนี้ มันเร็วมากๆ แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ “ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ดังเปรี้ยงปร้าง แต่ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ชื่อ 25 hours ถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งในวงการเพลง ไปที่ไหนก็เริ่มมีคนจำเราได้บ้าง” ท่ามกลางกระแสการผุดของบรรดาวงอินดี้ที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย เร็วกว่าดอกเห็ด พวกเขายอมรับว่ามีความกลัวเช่นเดียวกัน

“ต้องยอมรับว่ากลัว แต่กลัวแล้วมันทำให้เราฝ่อ มันต้องกล้าที่จะยืนบนถนนสายนี้ให้ได้ แต่พวกเราทุกคนเคยทำงานในวงการดนตรีกระแสหลักมาแล้ว และศึกษากันมาตลอดว่าตอนนี้คนเขาฟังเพลงอะไรกัน ทำให้พวกเรามองกว้างๆ ยาวๆ ว่ามีหนทางไปต่อได้ “ข้อดีของวงเราคือไม่ได้ทำเพลงที่อินดี้หรือสนองตัณหากันอย่างเดียวชนิดที่ว่านอกกระแสจนขายไม่ได้เลย เพราะถึงแม้ว่า 25 hours จะได้ชื่อว่าเป็นวงอินดี้ แต่พวกเราก็ยังอยากให้คนฟังเพลงเพราะๆ มีความสุขกับเพลงของเรา “ทุกวันนี้วงดนตรีเล่นดนตรีอย่างเดียวไม่พอ ต้องคิดถึงองค์ประกอบหลักๆ ด้วยว่าพวกเราเปรียบเสมือนบริษัทแห่งหนึ่ง เช่น ต้องแต่งตัวอย่างไร ทำอะไรบ้าง พยายามหาจุดตรงกลางให้ได้” ผลลัพธ์ของจุดตรงกลางสำหรับพวกเขาคือดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟผสมวินเทจซาวด์ “เราไม่ได้พูดถึงเพลงอัลเทอร์เนทีฟแบบ Nirvana หรือยุคหนึ่งในบ้านเราจะนึกถึงวงโมเดิร์นด็อก แต่เราหมายถึงการหยิบดนตรีใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ ทางเลือกใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาผสมผสานกับวินเทจซาวด์แบบโบราณในยุค 60s หรือ 80s อย่างเช่น The Beatles และใส่กลิ่นอคูสติก กีตาร์ เสียงประสานต่างๆ เข้าไปด้วย” 25 hours ของพวกเขาแปลตรงตัว ไม่มีรหัสแอบแฝงหรือต้องการการวิเคราะห์แต่อย่างใด และเปิดกว้างให้เราค้นหาความหมายและคำตอบด้วยตัวเอง “พวกเราไม่ได้ตั้งชื่อวงกันตั้งแต่ตอนแรก อยากทำเพลงกันอย่างเดียว พอถึงช่วงที่ไปขายอัลบั้มที่งานแฟต พวกเราไม่รู้จะบอกคนอื่นว่าชื่อวงอะไร และมาลงตัวที่ 25 hours “ถ้าแปลตรงตัวมันคือ 25 ชั่วโมง ตอนแรกเราก็พยายามหาความหมายเฉพาะของเรา แต่สุดท้ายแล้วพวกเราคิดว่ามันจะเป็นอะไร ทิ้งเป็นคำถามปลายเปิดไว้ก็น่าจะเพียงพอ “แต่จริงๆ แล้วตลอดทั้งวันที่ถูกจับจองด้วยกิจกรรมประจำวันมากมาย หากมีเวลาเพิ่มอีกสักหนึ่งชั่วโมงเป็น 25 hours เพื่อทำสิ่งที่เรารัก แค่นี้ก็น่าจะสามารถเปลี่ยนให้วันนั้นเป็นวันที่มีความหมายได้” ในยามที่คนเราใช้เวลาสิ้นเปลืองอย่างทุกวันนี้ ใครๆ ก็คงต้องการชั่วโมงที่ยี่สิบห้า (25 hours) กันใช่ไหมครับ

เรื่อง > สันติ มณีรัตน ์ ภาพ > อนุชิต นิ่มตลุง

When A Day Has 25 Hours