Upload
srion-janeprapapong
View
18.431
Download
1
Embed Size (px)
Citation preview
Page 1
จัดท าโดย
อาจารย์ศรีอร เจนประภาพงศ์
สาขาวิชาสารสนเทศศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ปีการศึกษา 2553
บทที่ 1 บทน ำ
Page 2
หัวข้อบรรยาย
• ความหมาย
• ความส าคัญ
• ขอบเขต
• พัฒนาการ
การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
Page 3
• ก่อนอื่นมาทบทวนความหมายของค า 2 ค า คือ
“สารสนเทศ (Information)” และ
“ความรู ้(Knowledge)”
ก่อนเนื่องจากมีความสัมพันธ์โดยตรงกบัเรื่อง การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
Page 4
ความหมายของสารสนเทศ• มาจากภาษาอังกฤษว่า Information
• ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ประสบการณ์ จนิตนาการ
ที่ผ่านกระบวนการคัดเลือก รวบรวม วเิคราะห์
เรียบเรียง บันทกึ และเผยแพร่ลงในสื่อประเภทตา่งๆ
ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ ์ สื่อโสตทัศน ์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส ์
เพื่อน าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป
(แนวคิดของผู้สอน)
Page 5
ความหมายของสารสนเทศ (ต่อ)
• จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (2553)
คือ สิ่งที่ได้จากการน าข้อมูลทีเ่ก็บรวบรวมไว้มา ประมวลผล เพือ่น ามาใช้ประโยชน์ตาม
จุดประสงค ์
เป็นข้อมูลท่ีผ่านการเลือกสรรให้เหมาะสมกบั
การใช้งานให้ทันเวลา และอยู่ในรปูที่ใช้ได้
Page 6
ความหมายของสารสนเทศ (ต่อ)
• จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (2553)
• สิ่งที่ได้จากการประมวลผลข้อมูลและสามารถน าไปใช้ประโยชน์ในการวางแผน การตัดสินใจ
และการคาดการณ์ในอนาคตได้ โดยแสดงในรูปของข้อความ ตาราง แผนภูม ิหรือรูปภาพ
Page 7
สรุปความหมายของสารสนเทศ
(Information)
• ข้อมูล ข่าวสาร ความรู ้ ประสบการณ์ จินตนาการของมนุษย์
• ผ่านกระบวนการคัดเลือก รวบรวม วเิคราะห ์ เรียบเรียง บันทึก
• และเผยแพร่ลงในสื่อประเภทต่างๆ ได้แก ่ สือ่สิ่งพิมพ์ สื่อโสตทศัน ์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
• สารสนเทศเหลา่นั้นต้องอยู่ในรูปแบบที่น าไปใช้ได้เลย เช่น
เป็นสรุปรายงาน บทวิเคราะห ์ แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ
• และสอดคลอ้งกับความต้องการของผู้ใช้
• เพื่อน าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป ได้อย่างทันเวลา
Page 8
ความหมายของความรู้• มาจากค าภาษาอังกฤษว่า Knowledge
• จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542
(2553)
• สิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษาเล่าเรียน การค้นคว้า หรือประสบการณ์ รวมท้ังความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะ
• ความเข้าใจหรือสารสนเทศที่ได้รับมาจากประสบการณ์ สิ่งที่ได้รับมาจากการได้ยิน ได้ฟัง การคิด หรือการปฏิบัติ
• องค์วิชาในแต่ละสาขา เช่น ความรู้เรื่องเมืองไทย ความรู้เรื่องสุขภาพ
Page 9
ความหมายของความรู้ (ต่อ)
• จากวิกิพเีดีย สารานุกรมเสรี (2553)
• คือ สิ่งทีม่นุษย์สร้าง ผลิต ความคดิ ความเชื่อ ความจริง ความหมาย
โดยใช้ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ตรรกะ แสดงผ่านภาษา เครื่องหมาย และสือ่ต่างๆ
โดยมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เป็นไปตามผู้สร้างผู้ผลิตจะให้ความหมาย
Page 10
ความหมายของความรู้ (ต่อ)• จากประภาเพ็ญ สุวรรณ (อ้างถึงในอักษร สวัสด,ี 2542: 26) พบในวิกิพีเดีย
สารานุกรมเสร ี(2553)
• เป็นพฤติกรรมขั้นต้นท่ีผู้เรียนรู้เพียงแต่เกิดความจ าได้ โดยอาจจะเป็นการนึกได ้ หรือโดยการมองเห็น ได้ยิน จ าได้
• ความรู้ในชั้นนี้ได้แก ่ความรู้เกี่ยวกับค าจ ากัดความ ความหมาย ข้อเท็จจริง กฎเกณฑ์ โครงสร้างและวิธีแก้ไขปัญหา
• ส่วนความเข้าใจอาจแสดงออกมาในรูปของทักษะด้าน “การแปล” ซ่ึงหมายถึง ความสามารถในการเขียนบรรยายเกี่ยวกับข่าวสารนั้น ๆ
โดยใช้ค าพูดของตนเอง และ
• “การให้ความหมาย” ที่แสดงออกมาในรูปของความคิดเห็นและข้อสรุป
รวมถึงความสามารถในการ “คาดคะเน” หรือการคาดหมายว่าจะเกิดอะไรขึ้น
Page 11
ระดับของความรู้• จากเบนจามิน บลูม (Benjamin S. Bloom อ้างถึงในอักษร สวัสด,ี
2542: 26-28) พบในวิกิพเีดีย สารานุกรมเสรี (2553)
1. ความรู ้ (Knowledge)
2. ความเข้าใจหรือความคิดรวบยอด (Comprehension)
3. การน าไปปรับใช้ (Application)
4. การวิเคราะห์ (Analysis)
5. การสงัเคราะห์ (Synthesis)
6. การประเมินผล (Evaluation)
Page 12
ระดับของความรู ้ (ต่อ)
1. ความรู้ (Knowledge)
หมายถึง การเรียนรู้ที่เน้นถึงการจ าและการระลึกไดถ้ึงความคิด วัตถ ุ และปรากฏการณ์ต่างๆ ซึ่งเปน็ความจ าที่เริ่มจากสิ่งง่ายๆ ที่เป็นอิสระแก่กัน ไปจนถึงความจ าในสิ่งที่ยุ่งยากซับซ้อนและมีความสัมพันธ์ระหว่างกัน
Page 13
ระดับของความรู ้ (ต่อ)
2. ความเข้าใจหรือความคิดรวบยอด (Comprehension)
เป็นความสามารถทางสติปัญญาในการขยายความรู้ ความจ า ให้กว้างออกไปจากเดิมอย่างสมเหตุสมผล
การแสดงพฤติกรรมเมื่อเผชิญกับสื่อความหมาย และความสามารถในการแปลความหมาย การสรปุความ หรือการขยายความสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
Page 14
ระดับของความรู ้ (ต่อ)
3. การน าไปปรับใช้ (Application)
เป็นความสามารถในการน าความรู้ (knowledge)
ความเข้าใจ หรือความคิดรวบยอด (comprehension) ในเรื่องใด ๆ ที่มีอยู่เดิมไปแก้ไขปัญหาที่แปลกใหม่ของเรื่องนั้น
โดยการใช้ความรู้ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการกับความคิดรวบยอดมาผสมผสานกับความสามารถในการแปลความหมาย การสรุปความ หรือการขยายความสิ่งนั้น
Page 15
ระดับของความรู ้ (ต่อ)
4. การวิเคราะห์ (Analysis)
เป็นความสามารถ และทักษะที่สูงกว่าความเข้าใจ
และการน าไปปรับใช้ โดยมีลกัษณะเป็นการแยกแยะสิ่งที่จะพิจารณาออกเป็นส่วนย่อยที่มีความสัมพันธ์กัน
รวมทั้งการค้นหาความสัมพันธ์ของส่วนต่าง ๆ เพื่อดูว่าส่วนประกอบปลีกย่อยนั้นสามารถเข้ากันได้หรือไม่ อันจะช่วยให้เกิดความเข้าใจต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างแท้จริง
Page 16
ระดับของความรู ้ (ต่อ)
5. การสังเคราะห์ (Synthesis)
เป็นความสามารถในการรวบรวมส่วนประกอบย่อยๆ หรือส่วนใหญ่ ๆ เขา้ด้วยกัน เพื่อให้เป็นเรื่องราวอันหนึ่งอันเดียวกัน
การสังเคราะห์จะมีลักษณะของการเป็นกระบวนการรวบรวมเนื้อหาสาระของเรื่องต่าง ๆ เขา้ไว้ด้วยกัน
เพื่อสร้างรูปแบบ หรือโครงสร้างที่ยังไม่ชัดเจนขึ้นมาก่อน
อันเป็นกระบวนการทีต่้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ภายในขอบเขตของสิ่งที่ก าหนดให้
Page 17
ระดับของความรู ้ (ต่อ)
6. การประเมินผล (Evaluation)
เป็นความสามารถในการตัดสินเกีย่วกับความคิด ค่านิยม
ผลงาน ค าตอบ วิธกีาร และเนื้อหาสาระ
เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง โดยมีการก าหนดเกณฑ ์(criteria)
เป็นฐานในการพิจารณาตัดสิน
การประเมนิผล จัดได้ว่าเป็นขั้นตอนที่สูงสุดของพุทธิลกัษณะ
(characteristics of cognitive domain) ที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ การน าไปปรับใช ้ การวิเคราะห ์ และการสังเคราะหเ์ข้ามาพิจารณาประกอบกันเพื่อท าการประเมินผลสิ่งหนึ่งสิ่งใด
Page 18
สรุปความหมายของความรู้ (Knowledge)
• สิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษาเล่าเรียน การค้นคว้า หรือประสบการณ์
• เป็นสิ่งที่ได้รับมาจากการได้ยิน ได้ฟัง การคิด หรือการปฏิบัต ิ
• จนรู้แล้ว จ าได ้และเข้าใจ สามารถน าความรู้ไปปรับใช้(แก้ปัญหา) วิเคราะห ์ สังเคราะห์ และตดัสินความคิด ค่านิยม ผลงาน วธิีการ และเนื้อหาสาระได้
• เช่น องค์วิชาในแต่ละสาขา เช่น ความรู้เรื่องเมืองไทย ความรู้เรื่องสุขภาพ เป็นต้น
Page 19
ความหมายการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
• มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษว่า Information Storage and
Retrieval ใช้อักษรย่อ “ISAR” หรือ “ISR”
• “Operations performed by the hardware and software
used in indexing and storing a file of machine-readable
records whenever a user queries the system for
information relevant to a specific topic. For records to be
retrieved, the search statement must be expressed in
syntax executable by the computer.”
(Reitz, 2004-2010)
Page 20
ความหมายการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
• The linked activities of storing and retrieving
information, and the strategies and techniques
for doing so.
• The activities are linked because the means of
retrieving information are dependent on the
means by which it was stored.
• The storage strategy must be designed for the
most efficient retrieval, consistent with the
characteristics of the information and the time
and cost that can be tolerated.
(Daintith, 2004)
Page 21
ความหมายการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ(มาลี ล ้าสกุล, 2545: 1: 8)
• เป็นกระบวนการทั้งการคัดเลือก ควบคุมโครงสร้างสารสนเทศ
การจัดหา การจัดเก็บสารสนเทศเพื่อการเข้าถึง และกระบวนการส าคัญใด ๆ ในการแสวงหาทรพัยากรสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมการค้นหา การดึงสารสนเทศที่เขา้เรื่องเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งแหล่งจัดเก็บภายใน และแหล่งภายนอก
• เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับสารสนเทศ หรือรายการทรัพยากรสารสนเทศ
ซึ่งบรรจุเนื้อหาตรงตามต้องการ และในการบริการจะน าส่งให้ผู้ใช้อย่างรวดเร็วทันการณ ์
• ทั้งนี้การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศเป็นระบบที่จัดท าทั้งด้วยแรงงานคน และดว้ยคอมพิวเตอร์
Page 22
ความส าคัญ การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
• การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศมีความส าคัญต่อ
1. หน่วยงานบริการสารสนเทศ
(ห้องสมุด ศนูย์สารสนเทศ หน่วยงานจดหมายเหต ุฯลฯ)
2. ผู้ใช ้
Page 23
ความส าคัญ การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ1. ต่อหน่วยงานบริการสารสนเทศ
1.1 เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตสารสนเทศ แหล่งสารสนเทศ
และผู้ต้องการใช้สารสนเทศ
1.2 ท าให้การถ่ายโอนและไหลเวียนของสารสนเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
1.3 เป็นงานหลักที่เชื่อมโยงกับงานบริการและเผยแพร่สารสนเทศ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้สารสนเทศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
1.4 ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสารสนเทศที่ถูกต้อง โดยสามารถค้นคืนสารสนเทศได้ตรงกับความต้องการและได้รับสารสนเทศทันต่อเวลา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและวัตถุประสงค์ของหน่วยงานบริการสารสนเทศ
Page 24
ความส าคัญ การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ2. ต่อผู้ใช้
2.1 เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภททั้งภายในหน่วยงานบริการสารสนเทศและแหล่งทรัพยากรทั่วโลกอย่างเสรี ภายใต้ข้อก าหนดของกฎหมายในเรื่องสิทธิของการใช้สารสนเทศ
2.2 ให้ความส าคัญแก่ผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ โดยจัดท าเอกสารแนะน าการใช้ฐานข้อมูลต่าง ๆ จัดเครื่องมืออ านวยความสะดวก
เครื่องมือการค้นคืนที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ใช้ค้นคืนสารสนเทศได้ด้วยตนเอง หรือผ่านบรรณารักษ์ตอบค าถาม
Page 25
ความส าคัญ การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
2.3 มีการพัฒนารูปแบบการด าเนินงานจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
เพื่อให้เกิดความรวดเร็วทั้งวิธีการจัดหา จัดเก็บ และการค้นคืนสารสนเทศ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์สูงสุด
2.4 ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสารสนเทศที่ถูกต้องและตรงกับความต้องการเพื่อน าไปใช้ประโยชน์ตามที่ต้องการและตามความสนใจ
2.5 สนับสนุนผู้ใช้ให้สามารถประเมิน แยกแยะ ท าความเข้าใจ
เชื่อมโยงความคิดของสารสนเทศ เพื่อการเลือกสรร ศึกษา แสวงหา และติดตามสารสนเทศได้ด้วยตนเองเป็นผู้เรียนแบบพึ่งตนเองตลอดไป
Page 26
ขอบเขตการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
1. ทฤษฎีพื้นฐานและการประเมินระบบจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
2. เทคโนโลยีและมาตรฐานในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
3. การวิเคราะห์และตัวแทนสารสนเทศ
4. ผู้ใชร้ะบบค้นคืนสารสนเทศและพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ
5. การค้นคืนสารสนเทศ
Page 27
ขอบเขตการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ1. ทฤษฎีพื้นฐานและการประเมินระบบจัดเก็บและค้นคืน
สารสนเทศ
• องค์ประกอบของการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
• ตัวแบบพื้นฐานในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
• ระบบค้นคืนสารสนเทศ (องค์ประกอบ หนา้ที ่และระบบย่อย)
• ตัวแบบพฤติกรรมสารสนเทศและแนวคิดพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ
• การประเมนิระบบจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ (แนวคดิ ขั้นตอน)
Page 28
ขอบเขตการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ2. เทคโนโลยีและมาตรฐานในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ• เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ (คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
ฐานข้อมูล และการสื่อสาร)
• เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึก จัดเก็บ และแสดงผล
• เทคโนโลยีในการค้นคืนสารสนเทศ (ดรรชนีค าค้น เทคนิคการค้นคืน และการเลือกฐานข้อมูล)
• เครือข่ายอินเทอร์เน็ตและการค้นคืนสารสนเทศ
• การประยุกต์เทคโนโลยีไฮเปอร์มีเดียในการค้นคืนสารสนเทศ
• มาตรฐานส าคัญในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศซึ่งได้แก่ มาตรฐานการลงรหัสอักขระ มาตรฐานส าหรับการพรรณนาสารสนเทศ และมาตรฐานในการค้นคืนสารสนเทศจากฐานข้อมูลต่างระบบ
Page 29
ขอบเขตการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ3. การวิเคราะห์และตัวแทนสารสนเทศ• การวิเคราะห์เนื้อหาเพื่อก าหนดตัวแทนสาระ (ระบบการจัดหมวดหมู่
สารสนเทศ)
• การจัดท าโครงสร้างระบบจัดเก็บสารสนเทศเพื่อการค้นคืน (การท ารายการสารสนเทศ)
• ดรรชนีที่ใช้ในการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ (คือการน าค าในบริบทมาเป็นศัพท์ดรรชนี และดรรชนีที่สร้างโดยก าหนดค าขึ้นแทนสาระของเอกสาร)
• การควบคุมค าศัพท์ (หัวเรื่อง และอรรถาภธิาน)
• การจัดท าสาระสังเขปเพื่อการจัดเก็บเพื่อการค้นคืนสารสนเทศ
Page 30
ขอบเขตการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
4. ผู้ใช้ระบบค้นคืนสารสนเทศและพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ
• ผู้ใช้กับระบบสารสนเทศ
• การศึกษาผู้ใช้
• การศึกษาความต้องการสารสนเทศของผู้ใช้
• การศึกษาพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศ
• การศึกษาวิจัยพฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศเพื่อน าผลมาใช้ในการออกแบบระบบค้นคืนสารสนเทศ
Page 31
ขอบเขตการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
5. การค้นคืนสารสนเทศ• กระบวนการ/ ขั้นตอนการค้นคืนสารสนเทศ
• กลยุทธ์ในการค้นคืนสารสนเทศ
• เทคนิคการค้นคืน
• การใช้ศัพท์บังคับ ศัพท์ไม่ควบคุมหรือภาษาธรรมชาติ และค าสั่งต่าง ๆ
• การค้นคืนสารสนเทศจากฐานข้อมูลออนไลน์ / ฐานข้อมูลซีดีรอม/
อินเทอร์เน็ต
Page 32
พัฒนาการการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
• ระยะที่ 1 พัฒนาการของการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศก่อนทศวรรษ 1960
• ระยะที่ 2 พัฒนาการของการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศตั้งแตท่ศวรรษ 1960 เป็นต้นไป
Page 33
• ระยะที่ 1 พัฒนาการของการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศก่อนทศวรรษ 1960 แบ่งเป็น
1) การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศระยะแรกเริ่ม
เป็นการพัฒนาระบบ และเครื่องมือจัดเก็บส่ือบันทึกความรู้และการ ค้นหาทรัพยากรสารสนเทศในลกัษณะส่ิงพิมพ์ อาท ิระบบจัดหมวดหมู่ (DDC, LC)
การจัดท าดรรชนีและสาระสังเขปด้วยระบบมือ
2) การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีระยะแรก
มีการน าเทคโนโลยีไมโครกราฟิก (ถ่ายภาพย่อส่วนลงฟิล์ม) มาใช้จัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ โดยมีการใช้ระบบคอมและระบบคาร์ช่วย ต่อมาเกิดเทคโนโลยีท าดรรชน ี (ควิก) และริเริม่ใช้คอมพิวเตอร์ท าบัตรรายการ
พัฒนาการการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
Page 34
• ระยะที่ 2 พัฒนาการของการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศตั้งแตท่ศวรรษ 1960 เป็นต้นไป
เป็นพัฒนาการด้านการวิจัยและพัฒนาระบบจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศที่ส าคัญ โครงการต่าง ๆ อาท ิ การวิจัยกลุ่มแครนฟิลด ์ เมดลาร์ส สมาร์ท การวิจัยของซาระเซวิค และกลุ่มเทรค เกิดกลุ่มความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบริการสารสนเทศ รวมถึงบริการค้นคืนสารสนเทศเชิงพาณิชย์ และการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศบนอินเทอรเ์น็ต
พัฒนาการการจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ
Page 35
บรรณานุกรมเดชา นันทพิชัย. 2546. การค้นคืนสารสนเทศ (Information Retrieval).
พิมพ์ครั้งที ่2. นครศรีธรรมราช: หลักสูตรการจัดการสารสนเทศ ส านักวิชา
สารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.
พจนานุกรมฉบับราชบณัฑิตยสถาน [ออนไลน]์. 15 พฤษภาคม 2553.
เข้าถึงจาก: http://rirs3.royin.go.th/word3/word-3-a0.asp
มาล ี ล้ าสกุล. 2545. “ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการจัดเก็บและการค้นคืนสารสนเทศ.”
ใน ประมวลสาระชุดวิชาการจัดเก็บและการ ค้นคืนสารสนเทศ
(Information Storage and Retrieval), หน่วยที ่1-4, หน้า 1-29.
นนทบุร:ี สาขาวิชาศิลปศาสตร ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
Page 36
บรรณานุกรม (ต่อ)
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสร.ี 2553. สารสนเทศ [ออนไลน]์. เข้าถึงจาก:
th.wikipedia.org/wiki/สารสนเทศ
------------. 2553. ความรู้ [ออนไลน]์. เข้าถึงจาก: th.wikipedia.org/wiki/ความรู้Daintith, John. 2004. A Dictionary of Computing. Encyclopedia.com.
Available: http://www.encyclopedia.com
Reitz, Joan M. 2004-2010. ODLIS — Online Dictionary for Library
and Information Science [Online]. Available:
http://lu.com/odlis/odlis_i.cfm#information