7
62 หญิงสาวเกาะเสาป้ายจราจรลอยคอรอการช่วยเหลือบนถนนสายรังสิต ภาพโดย : (Paula Bronstein/Getty Images) ตุลาคม ๒๕๕๔

วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

Embed Size (px)

DESCRIPTION

บทความจากหนังสือเสียงจากถ้ำ

Citation preview

Page 1: วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

62

หญิงสาวเกาะเสาป้ายจราจรลอยคอรอการช่วยเหลือบนถนนสายรังสิต

ภาพโดย : (Paula Bronstein/Getty Images) ตุลาคม ๒๕๕๔

Page 2: วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

63

“มันจะมาไหมหนอ..?”

“มาแล้ว..มันจะหนักกว่าเดิมไหมหนอ..?”

ฉันเชื่อว่า.. ปีนี้คนไทยหลายคนคงกำาลังนั่งรำาพึงรำาพัน

แบบนี้เป็นแน่ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะกลัวว่าน้องน้ำาจะ

มาเยือนถึงหน้าบ้านอีกครั้ง

คราวที่แล้ว... ฉันบอกไว้ว่าวิกฤตการณ์น้ำาท่วม เป็น

เหมือนเครื่องวัดใจว่า ใจใครจะแข็งกว่ากัน ใครจะลุกได้ก่อน

กัน และใจใครที่เคยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คิดดี ทำาดี สม่ำาเสมอ.. คน

นั้นก็จะได้รับความช่วยเหลือ หรือรอดพ้นวิกฤต เปลี่ยนหนัก

เป็นเบาไปได้อย่างอัศจรรย์ใจ เพราะความดีที่ตนเคยสั่งสมไว้..

มาปีนี้ หากใครยังไม่แน่ใจในตนเอง คราวนี้จึงเปรียบ

เสมือนเครื่องย้ำาเตือน อีกครั้ง!

คุณ ๆ จะได้ตัดสินใจ และวัดความดีในตนเองได้ แบบ

ไม่ต้องลังเล เพราะฉันเคยได้ยินหลายคนมักพูดว่า...

“ไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองเป็นคนดีแค่ไหน ดีบ้างเลวบ้าง

สลับกันไป ที่ผ่านมา.. ความดีก็เคยทำา ความเลวก็มีมาก.. อย่าง

นี้จะวัดกันอย่างไร?”

Page 3: วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

64

ฉันขอบอกว่า.. ถ้าวัดด้วยตัวเองไม่ได้ ก็ให้ธรรมชาติ

และความจริงเป็นเครื่องวัด ถามตัวเองว่า ณ วันนี้วินาทีนี้ ชีวิต

คุณเป็นอย่างไร สุข ทุกข์ เศร้า แค่ไหน? หรือถ้ามองย้อนไป

ในอดีต คุณมองเห็นไหมว่า.. เหตุการณ์ชีวิตของคุณเป็นเช่นไร

เวลาเดือดร้อนมีคนยื่นมือมาช่วยเหลือได้ทันการ ทันเวลาหรือ

ไม่ คุณมีเพื่อนแท้ หรือคนที่จะคอยอุปถัมภ์หรือไม่.. ลองตรวจ

สอบชีวิตของคุณดู แล้วคุณก็จะรู้ว่าคุณทำาดีมาพอแล้วหรือยัง?

และมันมากน้อยแค่ไหน?..

ยกตัวอย่างเช่น...

เมื่อปีที่ผ่านมา.. ฉันยังจำาได้ว่ามีคุณลุงท่านหนึ่ง ที่เป็น

ข่าวเพราะคุณสรยุทธ จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ไปเยี่ยมถึงบน

ต้นไม้ เพราะคุณลุงไม่มีที่อยู่ น้ำาท่วมบ้านหมด มีรถสิบล้อเก่าๆ

อยู่คันหนึ่ง กลัวว่าเครื่องด้านหน้าจะจมน้ำา คุณลุงเลยทำานั่ง

ร้าน ยกสิบล้อขึ้น เพียงคนเดียวแล้วก็เลยติดเกาะอยู่อย่างนั้น

ถ้าทีมงาน และคุณสรยุทธไม่ไปเห็นเข้า คุณลุงก็คงต้องอดข้าว

อดน้ำา ชีวิตคงไม่รอด.. แต่นั่นเป็นเพราะคุณลุงคงเคยทำาความดี

ช่วยเหลือผู้คนอยู่บ้าง ครั้งนี้คุณลุงเลยรอดชีวิต นอกเหนือจาก

นั้น หลังน้ำาลดยังมีคนมาช่วยซ่อมรถให้ฟรี และบริจาคเงินให้

อีก จากโชคร้ายเลยกลายเป็นดี ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ..

Page 4: วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

หรือบางคน ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว.. เพราะข้าวของ

เครื่องใช้ลอยไปกับน้ำา ต้องไปอยู่ศูนย์อพยพ แต่พอไปอยู่ที่นั่น

ก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้พูดคุยกัน ช่วยเหลือกัน หลังน้ำาท่วมก็

กลับกลายเป็นเพื่อนสนิท รวมตัวช่วยเหลือกัน ชีวิตเลยดีขึ้น

กว่าเดิมอย่างนี้ก็มี

เพราะฉะนั้น.. ให้ทุกท่านลองย้อนดูใจตนเองตั้งแต่

วันนี้ ถ้าที่ผ่านมาเราไม่เคยแบ่งปัน ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือใคร

คอยคิดแต่จะมองคนอื่นในแง่ร้าย ถ้าใครไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ญาติ

ไม่ใช่คนรู้จัก ก็ต้องวางมาดไว้ก่อน.. ต้องคิดกับเขาไม่ดีไว้ก่อน..

หรือเป็นโรคกลัวคนอื่นจะเอาเปรียบ ได้แต่คอยคิดว่า.. ใครทำา

ไม่ดีกับเรา เราก็ต้องไม่ดีตอบ เพราะเดี๋ยวจะเสียเปรียบ..

ถ้าเป็นแบบนี้.. คุณก็จะกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน หรือ

มีเพื่อนก็ไม่ใช่เพื่อนแท้ พอเกิดอะไรขึ้นมา เพื่อนที่คุณคิดว่าเขา

จะช่วยเหลือ.. ก็กลับกระจัดกระจายหายไปแบบไม่ล่ำาลา ทิ้งให้

ถ้าวัดด้วยตัวเองไม่ได้ ก็ให้ธรรมชาติ และความจริง

เป็นเครื่องวัด

Page 5: วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

66

คุณต้องเผชิญความลำาบากแสนเข็ญอยู่ลำาพัง อย่างนี้ก็มี!

หรือบางคนแม้จะเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบทำาบุญ

สุนทาน แต่ก็ไม่ค่อยมีคนอุปถัมภ์ ทำาบุญคนไม่ขึ้น ถ้าเป็นอย่าง

นั้น.. คงต้องย้อนกลับไปดูที่ชาติก่อน.. เราเคยทำาอะไรไว้ ดีเลว

แค่ไหน.. ชาตินี้เลยต้องมารับกรรม.. เพราะธรรมชาติของกรรม

ที่ทำาไว้ ต้องตามมาส่งผล ไม่ช้าก็เร็วเป็นธรรมดา และรับรองว่า

ถูกตัวแน่นอน! ไม่มีผิดฝาผิดตัวเป็นอันขาด

เพราะฉะน้ัน นับแต่น้ีเป็นต้นไป หากเรารู้จักวัดใจตน

เองอยู่เสมอ คอยหมั่นตรวจตราหัวใจตนเองว่า.. วันนี้ ใจ

เราเป็นอย่างไร ใจเป็นพระ.. หรือเป็นมาร มากกว่ากัน แล้ว

ค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ เปลี่ยนให้ดีขึ้น ทำาให้ใจที่มืดมนค่อย ๆ

สว่างขึ้น สวยงามขึ้น ฉันรับรองว่า.. ชีวิตของคุณก็จะค่อย ๆ

เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเช่นกัน

อย่าปล่อยให้ใจเราหมองหม่น มืดมัว นอกจากจะไม่รู้

วิธีขัดถูทำาความสะอาดแล้ว ยังเผลอเอาโคลนดำา ๆ มาพอกพูน

ให้เพิ่มเติมตลอดเวลา

ถ้าเป็นอย่างนี้.. เมื่อเกิดวิกฤตขึ้นในชีวิต ยังไม่ต้อง

ถึงขั้นน้ำาท่วมบ้าน แค่กระเป๋าสตางค์หาย ก็คงเป็นทุกข์แทบ

ขาดใจตาย เพราะเป็นคนไม่เคยแบ่งปัน และหวงแหนไปซะทุก

Page 6: วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

67

สิ่งทุกอย่าง อย่างนี้ความสุขคงเข้ามาในใจยากแน่ ๆ ดังตัวอย่าง

หญิงคนหนึ่งที่ฉันได้เจอ...

เรื่องมีอยู่ว่า.. วันหนึ่ง ในขณะที่ฉันกำาลังนั่งทำาผมอยู่

ในร้าน ฉันก็ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ ๕๐ ปี ท่าทาง

เหมือนคุณหญิงผู้มั่งคั่ง เพราะใส่เครื่องประดับแพรวพราว

เธอทำาผมเสร็จ และกำาลังเดินออกจากร้าน ทันใดนั้น! เธอก็

โวยวาย ขึ้นมาดังลั่น หน้าตาดูดุร้ายขึ้นมาทันใด

“ร่ม!.. ร่มฉันหายไปไหน? ฉันวางไว้ตรงนี้.. มันหาย

ไปได้ยังไง” คุณผู้หญิงท่านนี้โวยวายเรื่องร่มหายอยู่เกือบครึ่ง

ชั่วโมง และทำาเสียงเกรี้ยวกราดดุร้าย ใส่พนักงานทั้งร้าน เธอ

ตำาหนิพนักงานว่าทำาไมไม่ดูแล คงมีลูกค้าคนไหนหยิบไป

เพราะร่มคันนี้สวยมาก เธอเพิ่งซื้อมาจากเมืองนอก ราคาพัน

หากเรารู้จักวัดใจตนเองอยู่เสมอ คอยหมั่นตรวจตราหัวใจตนเองว่า..

วันนี้ใจเราเป็นอย่างไร

Page 7: วิกฤตการณ์วัดใจ ตอนที่ ๒

68

กว่าบาท เธอโวยวายอยู่พักใหญ่ หน้าหงิกหน้างอ ร่มราคาพัน

กว่าบาท แต่ทำาให้หน้าของผู้หญิงท่านนี้หงิกงอ หมดสง่าราศี

อุตสาห์มาแต่งหน้าทำาผมซะสวย แต่ในตอนนั้น ผู้หญิงคนนี้ไม่

สวยและน่ากลัวมากในความรู้สึกของฉัน และคนทั้งร้านทุกคน

ไม่มีใครอยากสบตา บรรยากาศในร้านดูอึดอัดขึ้นมาทันที

สุดท้ายก็มีคนขับรถของเธอวิ่งมาบอกว่า.. เขาเองเป็น

คนเอาไปเก็บไว้ให้ ผู้หญิงท่านนี้เลยเพิ่งยิ้มออก เฮ้อ..!

งานนี้เลยได้เห็นไปถึงใจ.. แบบไม่ต้องส่องดู แค่ร่ม

คันเดียว สร้างความทุกข์ให้เกือบชั่วโมง เพราะความหวงแหน

และหลงคิดว่า ทุกอย่างเป็นของเรา และมันจะต้องอยู่กับเรา

ตลอดกาล

เอาเป็นว่า.. ปีนี้อีกไม่นานฝนก็จะเทลงมาไม่ขาดสาย

น้ำาจะมากหรือน้อย ก็ขอให้ใจของทุกท่านเข้มแข็ง สงบนิ่ง และ

มีความสุข พร้อมจะฝ่าฟันกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่กำาลังจะมา

ถึง.. แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี อย่างแน่นอน!