27
Your count Home Explore Search You slideshare Upload Login Signup Search Home Leadership Technology Education Marketing Design More Topics Search Your SlideShare is downloading. × × Saving this for later? Get the SlideShare app to save on your phone or tablet. Read anywhere, anytime – even offline. Text the download link to your phone Your phone number Send Link Standard text messaging rates apply แนวข อสอบภาค . .. ดท 1 381

แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

  • Upload
    karicim

  • View
    380

  • Download
    9

Embed Size (px)

Citation preview

Page 1: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

Your country code

Home Explore Search You

slideshare

Upload LoginSignup

Search

HomeLeadershipTechnologyEducationMarketingDesignMore Topics

Search

Your SlideShare is downloading. ××

Saving this for later?

Get the SlideShare app to save on your phone or tablet. Readanywhere, anytime – even offline.

Text the download link to your phone

Your phone number

Send Link

Standard text messaging rates apply

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 1

381

Page 2: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

Prapun Waoram (3978 SlideShares) , Working at napasang

Follow0 12 0 0

Published on Feb 28, 2015

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 1 …

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 1 http://waoram.myreadyweb.com

Published in: Education

0 Comments1 LikeStatisticsNotes

Full NameComment goes here.12 hours ago Delete Reply Spam BlockAre you sure you want to Yes NoYour message goes here

Share your thoughts...

Post

Be the first to comment

nisakon321 week ago

No DownloadsViewsTotal Views381On Slideshare0From Embeds0

Page 3: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

Number of Embeds0ActionsShares12Downloads40Comments0Likes1Embeds 0No embeds

Report contentFlag as inappropriateCopyright ComplaintNo notes for slide

Transcript

1. ขอสอบแขงขันเพื่อบรรจแุละแตงตัง้บคุคลเปนขาราชการ ชดุที่ 1 วชิาความรูความสามารถทัว่ไป เวลา 2.30

ชัว่โมง คะแนนเตม็ 100 คะแนน 1. 25 33 43 61 89........... ก. 102 ข. 125 ค. 135 ง. 140 2. 41 121 259 241

65........... ก. 0 ข. 1 ค. 2 ง. -1 3. 65 245 259 129............. ก. 79 ข. 53 ค. 41 ง. 39 4. 39 416 525 636....... ก. 749

ข.747 ค. 684 ง. 648 5. 25 21 17 23 19 15 18........ ก. 17 ข. 16 ค. 15 ง. 14 6. ผูวาราชการจังหวัด: 7-> ?:? ก. นา

ยอาําเภอ : 6 ข. เจาพนักงานปกครอง : 3 ค. เจาหนาที่ทะเบยีน :5 ง. ปลักจังหวัด : 3 7. หอเอนเมอืงปซา : สโตนเฮ

นท -> ?:? ก.กาําแพงเมอืงจนี : ปรามคิ ข. ทัชมาฮาล:กาําแพงเมอืงจนี ค. ทัชมาฮาล:หอไอเฟล &n bsp; ง. ปรา

มคิ:แกรแคยอน 8. กฬีา : พระ ->กตกิา :? ก.วัด ข. ศลี ค. ขอกาําหนด &nbs p; ง. ธรรม 9. รุงกนินาํา้ : เขยีว -

>ธงชาตไิทย :? ก. ขาว ข.แดง&nbs p; ค.นาํา้เงนิ &nb sp; ง.เหลอืง 10. แสง:เสยีง -> ?:? ก. จักรยาน:จักรยานยนต

ข. เครื่องบนิ:รถยนต ค. เดนิเทา: วิ่ง ง. วิ่ง:i5wa 11. แดงขี่จักรยานจากบานไปโรงเรยีน ซึ่งหางกัน 15 ไมล ดวย

ความเรว็ เฉลี่ย 15 ไมล ตอชัว่โมงแตในขา กลับแดงเดนิกลับบานดวยความเรว็เฉลี่ย 5 ไมลตอชัว่โมง จง

หาความเรว็เฉลี่ยในการเดนิทางของแดงทัง้ไปและกลับ ก. 7.5 ไมล/ชม. ข.10 ไมล/ชม. &nbs p; ค. 12.5 ไมล/

ชม. &nbs p; ง. 3 ไมล/ชม.

2. 12. หาก 3*9=3 4*8=8 ดังนัน้ 5*5=? ก. 1 ข. 5 ; ค. 25 ง.50 13.ซื้อไขไกมา ราคา 10 ฟอง 19 บาท ขายไปใน

ราคา 6 ฟอง ไดกาําไรรอยละ เทาใด ก.28.7 ข. 31.6 ค. 41.2 ง.ไมมคีาําตอบที่ถกู 14. วงกลมวงหนึ่งมเีสนรอบวง

ยาว 88 นิ้ว และสี่เหลี่ยมผนืผารปูหนึ่ง มดีาน กวาง = 4 นิ้ว มดีานยาว = 120 นิ้ว จงหาวาวงกลมจะมพีื้นที่มากกวา

สี่เหลี่ยม ผนืผารอยละเทาใด ก.56.67 ข. 61.23 & nbsp; ค.65.14 ง.ไมมคีาําตอบที่ถกู 15. นักเรยีนชัน้ ม. 5 หอง

หนึ่ง มนีักเรยีน 22 คน ที่เรยีนวชิาชวีวทิยา ม ี30 คนที่เรยีนวชิาเคม ีและม ี9 คน ที่เรยีนทัง้สองวชิา อยากทราบวา

นักเรยีนหอง ดังกลาวมกีี่คน หาก นักเรยีนในหองดังกลาวไมมนีักเรยีนคนใดเลยที่ไมเรยีนวชิาชวี วทิยา หรอื วชิา

เคม ีก. 40 คน ข. 42 คน &nbs p; ค. 43 คน &nbs p; ง. ไมมคีาําตอบที่ถกู คาําสัง่ ขอ 16-20 คาําถามแตละคาําถาม

จะใชขอมลูประกอบ 2 ชดุคอืขอมลูที่ 1)และขอมลูชดุที่ 2)ผูตอบขอสอบไมจาําเปนตองหาคาําตอบของคาําถาม

ดังกลาวแต ใหพจิา รณาวาขอมลูใดมปีระโยชน ตอการตอบคาําถามใหตอบดังนี้ ก.ถาขอมลูที่ 1) แตพยีงลาําพัง

เพยีงพอตอการตอบคาําถาม แตขอมลู 2) เพยีง ลาําพังไมเพยีงพอ ตอการตอบคาําถาม ข. ถาขอมลูชดุที่2)แต

เพยีงลาําพังเพยีงพอตอการตอบคาําถาม แตขอมลู 1)เพยีง ลาําพังไม เพยีงพอ ตอการตอบคาําถาม ค. ถาตอง

ใชขอมลูที่ 1)และ 2)รวมกันจงึจะพยีงพอตอการตอบคาําถาม ไม สามารถใชขอมลู หนึ่งเพยีงลาําพังได ง. ถา

ขอมลูที่ 1)หรอื 2)แตเพยีงลาําพังกเ็พยีงพอตอการตอบคาําถาม

3. จ.ถาใชขอมลูที่ 1)และ 2)รวมกันแลวยังไมเพยีงพอตอการตอบคาําถามจาําเปนตอง ใชข อมลู เพิ่มเตมิ 16. ถา

ความสงูโดยเฉลี่ยของคน 3 คน คอื 68 นิ้ว คนที่เตี้ยที่สดุ จะสงูมากกวา 60 นิ้ว หรอืไม 1) คนที่สงูที่สดุ สงู 72 นิ้ว

Page 4: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

2) ม ีคนหนึ่งสงู 70 นิ้ว 17. ในป พ.ศ.2538 บรษิัทไดกาําไร 6,000,000 บาท ในป พ.ศ. 2539 บรษิัท ไดกาําไรเทาใด

1) ในป พ.ศ.2539 บรษิัทมรีายรับเพิ่มขึ้น 20% 2) ในป พ.ศ.2539 บรษิัทมรีายจายเพิ่มขึ้น 25% 18.ถาม ีa+b+c = 50

จงหาคา a 1) c = 4a - b 2) คาเฉลี่ยของ b และ c เทากับ 2a 19. จงหาคา (x+y)(x-2)=? 1) y+2=10 2) x+ y=5 20.

นักศกึษาจาํานวน 120 คน ลงทะเบยีนเรยีนวชิาภาษาฝรัง่เศส หรอืภาษ อังกฤษ หรอืทัง้ 2 วชิาจะมนีักศกึษากี่คน

ที่ลงทะเบยีนเรยีนวชิาภาษาอังกฤษ 1) มนีักศกึษา 10 คน ที่ลงทะเบยีนเรยีนทัง้วชิาภาษาอังกฤษและ วชิา

ฝรัง่เศส 2) มนีักศกึษา 50 คน ที่ลงทะเบยีนเรยีนวชิาฝรัง่เศส คาําสัง่ ขอ 21-30 การตอบใหตอบดังนี้ ก. ถาขอสรปุ

ทัง้สองถกูหรอืเปนจรงิตามเงื่อนไข ข. ถาขอสรปุทัง้สองผดิหรอืไมเปนจรงิตามเงื่อนไข ค. ถาขอสรปุทัง้สองไม

สามารถสรปุไดแนชัดวาถกูหรอืผดิตามเงื่อ นไข

4. ง. ถาขอสรปุทัง้สองมขีอสรปุใดขอสรปุหนึ่ง ที่เปนจรงิหรอืไมจรงิ หรอืไมแนชัดซึ่งไมซาํา้ กับอกีขอสรปุหนึ่ง

เงื่อนไข 2a>b/4≥(k-2r)= (s-r) s> 0 = t≤(p/2+m) ทกุคาเปนจาํานวนเตม็ และมคีามากกวาศนูย 21. (1) s ≠ P / 2 (2)A < 0 22. (1) 5 > s (2) 3k ≥ T 23. (1) R ≤ B (2) B = M 24. (1) K = R (2) 2A/3≠P/2 25. (1) (A – 3T ) ≤ S (2) (4B

+ M) < 8 เงื่อนไข &nbs p; (A+45)<(C+50)=(B+60) ≥ D ≥ E ( F + G) = B < ( H + 36) = ( C + 15) ≤ K/5 ทกุคา

เปนจาํานวนเตม็และมคีามากกวาศนูย 26. (1) C < B (2) A > (B + 15) 27. (1) (B+50) > (D-11) (2) ( F+G+30) <(B+50)5. 28. (1) H > G (2) K > 6G 29. (1) ( C - 15) = (B-5) (2) B > E 30. (1) ( A+100) > (D+200) (2) (K+40) >

(B+100) คาําสัง่ ขอ 31-40 ในคาําถามแตละขอจะมขีอสรปุ 1) และขอสรปุ 2) ใหพจิารณา ขอสรปุดังกลาวโดย

อาศัยเงื่อนไขตามโจทยกาําหนดและให ตอบดังนี้ ก.กรณทีี่ขอสรปุทัง้สองเปนจรงิ ข. กรณทีี่ขอสรปุทัง้สองไม

เปนจรงิ ค. กรณทีี่ขอสรปุทัง้สองไมแนชัด ง. กรณทีี่เปนขอสรปุ 1)และขอสรปุขอ 2) ขอสรปุใดขอสรปุหนึ่ง เปน

จรงิไมเปนจรงิ หรอืไมแนชัด ซึ่งซาํา้กับอกีขอสรปุหนึ่ง เงื่อนไข -โครงพยาบาลเปดใหมแหงหนึ่งมแีพทยรักษาอยู

3 แผนก คอื แผนก ก. แผนก ข. และแผนก ค. -แพทยแผนก ก. รักษาไดเฉพาะโรคตาอยางเดยีว มแีพทยทัง้หมด 6

คน - แพทยแผนก ข.รักษาไดทัง้โรคตาและโรคหัวใจ มแีพทยทัง้หมด 4 คน - แพทยแผนก ค.รักษาไดทัง้โรคตา

โรคหัวใจ และโรคผวิหนัง มแีพทยทัง้หมด 5 คน - แพทยทกุคนจบจากมหาวทิยาลัยเชยีงใหม รามคาําแหง และ

เกษตร ทาํางานอยู แผนก ก.ข.และ ค. ตามลาําดับ - สมชายและสมชาตเิปนแพทยอยูแผนก ก. สมศรแีละสมศักดิ์

จบจาก มหาวทิยาลัยเชยีงใหม - สมจติ และสมใจจบจากมหาวทิยาลัยรามคาําแหง ละเอยีดและลออเปนแพทย

อยู แผนก ค. - มคีนเขามารักษาในวันที่โรงพยาบาลเปดบรกิารคอื คนที่เปนโรคตาอยางเดยีวม ี84 คน คนที่เปน

โรคตาและโรคหัวใจ ม ี76 คน คนที่เปนโรคตา โรคหัวใจ และ โรคผวิหนังม ี55 คน - วันโรงพยาบาลเปดใหบรกิาร

แพทยแผนก ข. และ ค. ไมมาแผนกละ 2 คน แพทยแผนก ก. จงึตองมาประจาําแผนก ข. 2 คน และ แผนก ค. 1 คน

- โรงพยาบาลใหคนไขแตละคนพบแพทยไดคนเดยีว และโรคทกุชนดิแพทยจะ รักษาครัง้เดยีวหาย

6. ขอสรปุ 31 (1) มหาวทิยาลัยรามคาําแหงไมเปดสอนแพทย (2) คนไขที่มารักษาแตยังไมไดพบแพทยม ี31 คน

32 (1) คนไขที่พบแพทยแลวยังไมหายจากโรคม ี60 คน (2) คนไขทัง้หมดที่มารักษา ม ี131 คนที่ยังไมหายจาก

โรค 33. (1)คนไขที่ยังไมไดรักษาโรคตาม ี30 คน (2) มหาวทิยาลัยเกษตรไมเปดสอนแพทยมแีตละคณะ

สัตวแพทย 34. (1) สมชาตจิบจากมหาวทิยาลัยเชยีงใหม (2)คนไขที่มารักษายังไมไดรักษาโรคหัวใจม ี71 คน 35.

(1) โรงพยาบาลเปดใหมม ี3 แผนก (2) มหาวทิยาลัยเชยีงใหมผลติแพทยไดมากกวา มหาวทิยาลัยเกษตรศาสตร

เงื่อนไข -นักทองเที่ยวกลุมหนึ่งม ี5 คน เปนชาวรัสเซยี เยอรมัน อังกฤษ และฝรัง่เศส แตละคน ใส เสื้อผาสตีางๆ

กัน คอื แดง นาํา้ตาล ขาว ฟา และเทา แตละคน มอีายตุางกัน คอื 44 35 38 33 และ 40 ป - กระเปาเดนิทางของ

นักทองเที่ยวกลุมนี้มนีาํา้หนักตางๆกัน คอื 20 25 15 18 และ 22 กโิลกรัม และสตีางๆกันคอื ขา ดาํา แดง นาํา้ตาล

และนาํา้เงนิ - ชาวอังกฤษใสเสื้อผาสฟีา และถอืกระเปาที่มนีาํา้หนักรองจาก กระเปาสดีาํา - ชาวฝรัง่เศส ใสเสื้อสี

ไมเหมอืนสขีองกระเปาเดนิทางที่มนีาํา้หนัก นอยที่สดุ และถอืกระเปา เดนิทางนาํา้หนัก 22 กโิลกรัม - นักทอง

เที่ยวชาวอเมรกิามอีายนุอยกวานักทองเที่ยวชาวฝรัง่เศ ส 5 ป - กระเปาเดนิทางสนีาํา้ตาลหนักกวากระเปาเดนิ

ทางสนีาํา้เงนิและสดีาํา 5 และ 3 กโิลกรัม ตาม ลาําดับ

7. - นักทองเที่ยวชาวเยอรมันอายนุอยที่สดุ และมอีายอุอนกวานัก ทองเที่ยวชาวอังกฤษอยู 5 ป - นักทองเที่ยวที่

ใสเสื้อสฟีา ไมถอืกระเปาเดนิทางสดีาํา - นักทองเที่ยวชาวเยอรมัน ถอืกระเปาเดนิทางที่มนีาํา้หนักมากที่สดุ และ

มสีเีดยีวกับเสื้อท ี่่ใส ขอสรปุ 36. (1)นักทองเที่ยวชาวเยอรมันใสเสื้อสนีาํา้ตาล (2) นักทองเที่ยวชาวอังกฤษถอื

กระเปาเดนิทางหนัก 20 กโิลกรัม 37. (1) กระเปาเดนิทางสขีาว เปนของนักทองเที่ยวชาวรัสเซยี (2)กระเปาเดนิ

ทางสรแดงมนีาํา้หนัก 15 กโิลกรัม 38. (1) กระเปาเดนิทางสดีาํา หนัก 20 กโิลกรัม (2) นักทองเที่ยวชาวรัสเซยีใส

เสื้อสแีดง 39. (1) อายขุองนักทองเที่ยวชาวอังกฤษรวมกับอายขุองนักทอง เที่ยวชาวอเ มรกัิน เทากับ 75 ป (2)

กระเปาของนักทองเที่ยวชาวฝรัง่เศสหนักกวากระเปา ของชาวอเมร ิกัน 2 กโิลกรัม 40. (1) กระเปาเดนิทางของ

Page 5: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

ชาวอังกฤษสนีาํา้เงนิ (2) นักทองเที่ยวชาวอเมรกัินถอืกระเปาเดนิทาง หนัก 18 กโิลกรัม 41. “ คนเจาระเบยีบมี

เหตผุลของตนเอง.....อยากจะมคีวามสขุ........รับ เหต ุของความไมมรีะเบยีบของ คนอื่น.........ไมใชจะเคี่ยวเขญ็

ใหคนอื่นมรีะเบยีบเหมอืนตนเ อง ......มาตรฐานความมรีะเบยีบ ของคนไมเทากัน” ขอใดนาํามาเตมิลงในชองวาง

ไดเหมาะสมที่สดุ ก. ถา ควร ดวย เพราะ ข. ในเมื่อ ตอง บาง ซึ่ง

8. ค. เพื่อ อาจ ดวย เนื่องจาก ง. เนื่องจาก ควร บาง ทัง้นี้ 42. ขอใดนาํามาเตมิลงในชองวางไดเหมาะสมที่สดุ

.........เรานับถอืพทุธศาสนา ฉะนัน้............วันวสิาขบชูาเรา........รวม กันบาําเพญ็บญุกศุ ล ก. เนื่องจาก เมื่อถงึ จงึ

ข. เหตทุี่ ใน จงึ ค. เพราะ เมื่อ จะ ง. เนื่องจาก ถงึ จงึ 43. ขอความใดที่เหมาะจะเตมิลงในชองวาง เมื่อลมโชยพัด

มา.............................กแ็กวงไกว ก. ผมของวภิาดา ข. ผามานที่หนาตาง ค. ธงที่หนาโรงเรยีน ง. กิ่ง กหุลาบ 44.

คาําใดใชเตมิชองวางในประโยคตอไปนี้ “ ความจรงิไมใชฟา สิ่งที่ปรากฏเปนสคีรามนัน้ คอืฝุนละอองที่ลอยอยู

ใน อากาศ..........” ก. นัน่เอง ข. แนนอน ค. ตางหาก ง. เทานัน่ 45. คาําใด ไมอาจใชเตมิในชองวางในประโยคตอ

ไปนี้ “ คนมสีต.ิ............ตกอยูในอันตราย กส็ามารถคดิหาทางเอาตัวรอดได” ก. แม ข.แมน ค. ถงึ ง. หาก

9. 46. “ แมไมเหน็ดวยที่ลกูทาําํตัวเหลวแหลก..........................พ ่่อแมอยํ่างนี้ แคนี้พอแมก.็........ ญาํตพิี่นองจะแย

อยูแลว อยํ่าทาําํใหแม....มาํกกวํ่านี้ จะทาําํอะไร ก.็.............พอแมบํ้าง” ก. ขาํยหนํ้า เสยีหนํ้า ฉกีหนํ้า รักหนํ้า ข.

ฉกีหนํ้า เสยีหนํ้า รักหนํ้า ขาํยหนํ้า ค. ขาํยหนํ้า เสยีหนํ้า รักหนํ้า ฉกีหนํ้า ง. ฉกีหนํ้า ขาํยหนํ้า เสยีหนํ้า รักหนํ้า 47. “

ถํ้าไมเยํ้าแหยใครแลวเขาํ .........กแ็สดงวํ่าไมสบอาํรมณ และถํ้า เขาํ........ยังกับแสงไฟ กใ็หระวังตัวใหด ีเขาํอาํจ

ทาําํรํ้ายเราํไดงํ่ายๆที่เตอืนเทํ่านี้ไมตองมาํ ทาําํ.......ทาําํเป ่็นคนบอ นาํํ้าตาํตื้นไปได แลวกไ็มตองคอนพี่

จน...........ดวยละนะ” ก. ตาํควาํํ่า ตาํเขยีว ตาํแดงๆตาํแดง ข. ตาํแดงๆตาํแดง ตาํควาํํ่า ตาํเชยีว ค. ตาํเขยีว ตาํ

แดง ตาํแดงๆ ตาํควาํํ่า ง. ตาํเขยีว ตาํแดงๆ ตาํแดง ตาํควาํํ่า 48. คาําํที่มคีวาํมหมาํยเหมอืนกันในขอใด ใชไดถกู

ตองเหมาํะสมที่สดุ ก.ดซูปิลาํกเ็นํ่าผักกบ็ดูจะเหลอือะไรกนิ ข. ฝนตก ชกุโจรกช็มุมันนํ่าไปเหรอแถวนัน้ ค. คนขับก็

ดบูาํงรถกด็ผูอมลบีเลก็เหมาํะกันด ีง. งาํนชํ้างสรุนิทรปนี้ไมนํ่าดหูรอก เพราํะชํ้างสมไปตัง้หลาํยเชอืก แถมครวญ

ชํ้างก ็ควาํํ่าไปอกีหลาํยคน

10. 49. “เขาํออกจะสนใจในลัทธคิอมมวินสิตมาํกเกนิไป จงึไมสนใจที่จะศกึษาํและ ทาําํควาํมเขํ้าใจกับประชาํธปิ

ไตย ทัง้ดูๆกอ็อกจะสนใจในอบาํยมขุมาํกขึ้นทกุท ีดวย” ก. งมงาํย ใฝใจ ฝกใฝ ข.หมกมุน ใสใจ งมงาํย ค. ฝกใฝ

ใสใจ มัวเมาํ ง. มัวเมาํ ใฝใจ หมกมุน 50. ขอใดไมใชลักษณะนาํมวํ่า องค ก. พระมาํลาํ ข. พระทนต ; ; ค. พระ

ภกิษ ุง.พระศร ี51. ขอใดใชเริ่มตนเนื้อเรื่องในหนังสอืราํชกาํร ในกรณทีี่อํ้างเปนเหตหุนักแนน ที่ จาําํเปนตองมี

หนังสอืไป เพื่อใหผูรับหนังสอืดาําํเนนิกาํรอยํ่างใดอยํ่างหนึ่ง ก. ดวย ข. เนื่องจาํก ค. ตาํม ที่ ง. อนสุนธ ิ52. ควาํม

ในขอใดเหมาํะที่จะใชในหนังสอืราํชกาํร ก. ประชาํชนไดรับควาํมเดอืดรอนแสนสาํหัส ข. คาําํอทุธรณของผูรอง

ไมมขีอเทจ็จรงิอะไรเพิ่มเตมิ ค. พรอมกันนี้ไดแจงใหจังหวัดทราํบแลวเหมอืนกัน ง. จงึเรยีนมาํเพื่อโปรดพจิาํรณาํ

และแจงผลใหคณะมนษุยศาํสตร ทราํบดวย จักขอบคณุมาํก 53. หนังสอืภาํยนอกจาํกอธบิดถีงึนาํยกรัฐมนตรี

เขยีน “จดุประสงค” ของเรื่อง วํ่าอยํ่างไร ก. จงึเรยีนมาํเพื่อทราํบ ข. จงึ เรยีนมาํเพื่อโปรดทราํบ ค. จงึกราํบเรยีน

มาํเพื่อโปรดทราํบ ง. จงึขอ ประทาํนกราํบเรยีนมาํเพื่อโปรดทราํบ 54. หนังสอืภาํยนอกจาํกอธบิดถีงึรัฐมนตรวีํ่ากาํ

รกระทรวง ใชคาําํลงทํ้ายวํ่า อยํ่างไร ก. ดวยควาํมเคาํรพ ข. ขอแสดงควาํมนับถอื

11. ค. ขอแสดงควาํมนับถอือยํ่างสงู ง. ขอแสดง ควาํมนับถอือยํ่างยิ่ง 5. คาําํใดใชราํชาํศัพทผดิ พระบาํมสมเดจ็

พระเจํ้าอยูหัว เสดจ็ออก ณ พระตาําํหนักจติรลดาํรโหฐาํน พระราํชวังดสุติ พระราํชทาํนพระราํชวโรกาํส ใหเอก

อัครราํชทตูกัมพชูาํประจาําํ ประเทศไทย เฝาทลูละอองธลุพีระบาํท ก. เสดจ็ออก ข. พระราํชทาํน ค. พระราํชวโร

กาํส ง. เฝาทลู ละอองธลุพีระบาํท 56. ถํ้านักเรยีนตองกาํรบอกใหเพื่อนรูวํ่า หลวงปูเทสกอยูประจาําํที่วัดหนิหมาํก

แปง นักเรยีนจะใชคาําํในขอใด ก. หลวงปูเทสกอยูที่วัดหนิหมาํกแปง &nb sp; ข. หลวง ปูเทสกบวชที่วัดหนิหมาํก

แปง ค. หลวงปูเทสกจาําํวัดอยูที่วัดหนิหมาํกแปง &nbs p; ง. หลวง ปูเทสกจาําํพรรษาํที่วัดหนิหมาํกแปง 57. ขอ

ใดเปนประโยคที่ใชภาํษาํแบบแผน ก. เขาํพดูเปนตอยหอย ข. เขาํพนเปนคุงเปนแคว ค. เขาํพดูพลํ่ามไมหยดุฟง

คนอื่น ง. หมอนัน่ พดูบํ้านาํํ้าลาํยอยูคนเดยีว 58. กาํรจัดลาําํดับคาําํในขอใดถกูตองชัดเจน ก. เขาํฟงเพลง จาํก

วทิยทุี่นาําํตดิตัวมาํเพยีงเบาํๆ ข. นักเรยีนตองใชรองเทํ้าหนังสดีาําํหุมสนมเีชอืกผกู ค. เครื่องบนิของขํ้าศกึถกูยงิ

ตกขณะบนิลวงลาํํ้าเขตแดนหลาํย เครื่อง ง. บาํงคนขยัน บาํงคนเกยีจครํ้าน จงึทาําํใหบาํงคนยาํกจน บาํง คนราํํ่า

รอย 59. ขอใดเปนประโยคที่มคีวาํมหมาํยกาําํกวม ก. นาํยอนิถาํผูนาําํชาํวนาํคนสาําํคัญถกูฆํ่าตาํย ข. กาํรทอง

เที่ยวเพื่อหาํควาํมรู เพิ่มกาําํไรแกชวีติ ค. ลกูชาํยของนาํยแดงซึ่งบวชเมื่อปกลาํย ตาํยเสยีแลว ง. ทํ้าวสรุนาํรี

วรีสตรผีูกลํ้าหาํญเปนตัวอยํ่างนักรบหญงิไทย ่์ 60. “เขาํเดนิกมหนํ้าอยํ่างตัง้ใจจะไปให และกระชับโดยไดควาํมเท

าํเดมิและ ตรงควาํมหมาํยที่สดุ

12. ก. เขาํกมหนํ้ากมตาํเดนิไปบํ้านคณุปา ข. เขาํตัง้อกตัง้ใจเดนิไปบํ้านคณุปา ค. เขาํเดนิดุมๆไปบํ้านคณุปา ง.

Page 6: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

เขาํเดนิดุยๆๆไปบํ้านคณุปา 61. ควาํมเปรยีบในขอใดใชไดถกูตองตาํมสาําํนวนไทย ก. เธอตกใจกลัวหนํ้าซดีขาํว

ราํวกับสาําํล ีข. นาํํ้าในบอหนํ้าบํ้านเธอใสราํวกับใยบัวเลยนะ ค. แมมาํบํ้านแรกอยํ่างนี้ ตองบนเปนหมกีนิผึ้งอกีแน

เลย ง. ฉันไมกลํ้าไปขอขนมจาํกเขาํหรอก คนอะไรใจแขง็เปนหนิเลย 62. ขอควาํมที่วํ่า “เมื่อยังตดิขัดกถ็าํมทํ่านผู

รูอื่นๆ ตอไป และไมควรที่จะ กระดาํกอาํยในกาํรไตถาํม สิ่งที่เราํไมรู เพราํะวํ่ากาํรทะนงตัววํ่าเราํรูมาํก 1 ดถูกูผูอื่น

วํ่าไมรู 1 และ กาํรถอืเกยีรตวิํ่าไมควร ถาํมคนตาํํ่าตอยกวํ่าตน 1 ทัง้ 3 นี้เปนมาํรที่จะรัง้เราํใหลงจาํก ฐาํนะเปนนัก

ปราํชญ”นัน้ผูแตงตัง้กาํร จะสื่อ ใหผูอํ่านเขํ้าใจวํ่าอยํ่างไร ก. อยํ่าคดิวํ่าตัวรูมาํกอยูแลว ข. อยํ่าคดิวํ่าคนอื่นไมมี

ควาํมรู ค. อยาํกรูตองถาํมคนอื่นที่เรยีนนอยกวํ่าตน ง. อยาํกมคีวาํมรูตองไมอาํยที่จะถาํม 63. “ชวีติมเีกดิกย็อมมี

ดับ เมื่อมกีาํรอยูดวยกันกย็อมมกีาํรพลัดพราํกจาํก กัน.............. .......หมนุเวยีน เปลี่ยนแปลงไป” ก. ชวีติเปน

อนจิจัง ข. ชวีติเปนอนัตตาํ ค. ชวีติเปนวัฏสงสาํร ง. ชวีติเปนกฎแหงกรรม 64. ควาํมกํ้าวหนํ้าในงาํนเปนเรื่อง

เกี่ยวของกับหลาํยปจจัย ไมวํ่าจะเปนควาํมรู ควาํมสาํมาํรถจังหวะ

13. และโอกาํสของผูปฏบัิตงิาํน ดลุพนิจิของผูมอีาําํนาํจ ใหคณุใหโทษ โครงสรํ้างของงาํนตลอดจน สถาํนกาํรณ

ของสังคมภาํยนอก จาํกบทควาํมดังกลํ่าวขอควาํมใดคอืสาํระ สาําํคัญ ก.ลักษณะของกาํรทาําํงาํน ข. เทคนคิใน

กาํรทาําํงาํน ค.สภาํพกาํรทาําํงาํน ง. องคประกอบกาํรทาําํงาํน 65. ใครตองกาํรจะตาํยเพราํะไฟลาํมทุงละกห็าํ

ทาํงใหหนาํมเกี่ยวเขม็ดาําํ&nb sp; หาํแผลใสตัว แลวอยํ่ารักษาํ หรอืจะใหแนกห็าํพวกใบไมหญํ้ามาํตาําํพอกแผล

เอาํไว ถํ้าบังเอญิรํ่างกาํย ยังแขง็แรงแผลเกดิหาํย ไปไดกห็าํทาํงทาําํใหรํ่างกาํยออนแอ แลวพยาํยาํมทาําํให

ผวิหนังมแีผลเอาํ ไว คนอยาํกตาํยอาํจโชค ด ีสมปราํรถนาํ เจตนาํของผูเขยีนคอือะไร ก. หํ้ามกระทาําํ ข. ชี้ขอ

บกพรอง ค. ยัว่ยใุหโตแยง ง. แนะนาําํใหปฏบัิตติาํม อํ่านขอควาํมตอไปนี้ ตอบคาําํถาํม ขอ 66-68 “พระพทุธเจํ้า

หลวง รัชกาํลที่ 5 เสดจ็พระราํชทาํนทอดกฐนิวัด หนึ่ง ทอดพระเนตรเหน็เดก็ วัดตัดตนโพธิ์ขึ้นอยูตาํมกาําํแพง

โดยสะเพรํ่า คอื ไมขดูเอาํราํกเหงํ้าออกใหหมด เปนแตตันแลวเอาํปนู ขาํวโบกกลบ ซึ่งไมชํ้ามันกจ็ะแตกหนอขึ้น

อกี และทรงเหน็รอยเกลี่ยเนนิทราํยที่ สงูเอาํไปถมที่ลุม เพื่อใหพื้นสนาํมราํบ ตาํมทาํงเสดจ็พระราํชดาําํเนนิ

พระองคมไิดตใิหเดอืดรอน เลย เปนแตดาําํตรัสชม ทํ่านเจํ้าอาํวาํสเปนใจควาํมวํ่า มคีวาํมพอพระทัยในกาํรปราํ

บหญํ้า โดยขดุทราํย ขึ้นใหหมดราํก แลว

14. ยังเอาํทราํยถมที่ลุมไดอกี เปนกาํรทาําํประโยชนอยํ่างเดยีวไดผล 2 อยํ่าง และ ทรงเหน็ใจวํ่ามคีนนอย ปราํบ

ตนโพธิ์บนกาําํแพงเหมอืนปราํบหญํ้าตอไป” 66. ควาํมคดิสาําํคัญของขอควาํมนี้สรปุไดตรงกับขอใดที่สดุ ก. ติ

เพื่อกอ ยอเพื่อทาําํลาํย ข. ตเิพื่อกาํรแกไข ชมเพื่อใหกาําํลังใจ ค. จะตไิปทาําํไม ชมเพื่อใหกาําํลังใจดกีวํ่า ง. จะ

ตจิะชม ตองใหสมกับงาํนที่ทาําํ 67. เจตนาํของผูเขยีน คอืขอใด ก. ใหควาํมรูในกาํรปราํบหญํ้าและปรับสนาํม

ข.แนะนาําํใหทาําํงาํนแบบคอยเปนคอยไปตาํมกาําํลังที่มอียู ค. เหน็อกเหน็ใจผูทาําํงาํน และกาํรชมผลงาํนเปน

เรื่องสาําํคัญที่สดุ ง. ชี้ใหเหน็ควาํมแตกตํ่าง ระหวํ่างกาํรปราํบตนโพธิ์กับกาํรปราํบ หญํ้า 68. ขอควาํมนี้สาํมาํรถยก

เปนตัวอยํ่างในกาํรสัง่สอนกลุบตุรธดิาํไดอยํ่า งเหมาํะ สมที่สดุในเรื่องใด ก. อยํ่าทาําํงาํนเพยีงเพื่อ “ขาํยผํ้าเอาํ

หนํ้ารอด” ข. อยํ่าทาําํกาํรใดในลักษณะกาํรเกลี่ยและกลบอยํ่างขอไปท ีค. อยํ่าใชวธิเีดยีวกับงาํน 2 แบบที่ตํ่าง

ลักษณะกัน ง. อยํ่าตใิหเสยีงาํน จงแปลงขอตนิัน้ใหเปนคาําํชม จะไดผล มาํกกวํ่า อํ่านขอควาํมตอไปนี้แลวตอบ

คาําํถาํมขอ 69-73 “แตคนทัง้ปวงบาํงทอีาํจจะลมืเสยีสนทิวํ่า ชนบทนัน่เองเปรยีบ เสมอืนเปลอืกของตนไมและ

คนโดยมาํกนัน้เมื่อพ ูดถงึกม็ักจะไปยกยองที่แกนไม มาํกกวํ่าเปลอื ก ยาํกจะตฉินินนิทาํใครบาํงทกียั็งอปุมาํเอาํวํ่า

เปนคนไมมแีกนม ีแตเ ปลอืก คอืหาํสตปิญญาํอะไรมไิด ดถูกูเปลอืกแตไปยกยองแกน ตนกลวย นัน้มแีกนหรอืไม

แตกเ็ลี้ยงชวีติคนมาํไมนอยดวยผลขอ งมั น ฉันใดกฉ็ันนัน้ ชนบทนัน่เองหลอเลี้ยงแกนคอืชาํวกรงุทกุวันนี้&n

bsp; แตคนกม็าํเพงหนักเอาํที่

15. ในเมอืงทุมเทสวนใหญลง ณ ที่นี้ จนเมอืงนัน้เองเปนแหลงของมลภาํวะทัง้ปวง ไป” 69. สาํระสาําํคัญที่ผูเขยีน

ตองกาํรโตแยงคอือะไร ก. ในเมอืงเปนแหลงมลภาํวะที่ควรแกไข ข. รัฐบาํลใหควาํมสาําํคัญแกเมอืงมาํกกวํ่า

ชนบท ค. ชนบททาําํประโยชนแกเมอืงมาํก แตไดรับตอบแทนนอย ง. สังคมชนบทมคีวาํมสาําํคัญนอยกวํ่าใน

เมอืง 70. ผูเขยีนมจีดุประสงคอยํ่างไรในกาํรเขยีน ก. แนะนาําํ ข.ปราํรถนาํ ค. เตอืนสต ิง. เปลี่ยนทรรศนะ 71. จดุ

เดนในขอเขยีนนี้ใชเหตผุลอยํ่างไร ก.ยกตัวอยํ่างใหเหน็ ข. ใชแนวใหม ในกาํรเปรยีบเทยีบ ค. ใชคาําํกะทัดรัด ง.

ใหเหตผุลด ี72.จาํกขอเขยีนนี้ผูอํ่านจะทราํบวํ่าผูเขยีนมคีวาํมคดิอยํ่างไร ก.รักควาํมยตุธิรรม ข.ชอบเปรยีบเทยีบ

ค.ชอบสรํ้างสรรค ง. ชอบชนบท อํ่านขอควาํมตอไปนี้แลวตอบคาําํถาํมขอ 73-74 เมื่อกอนเราํเคยไดยนิสาําํนว

นที่วํ่า “ในนาํํ้ามปีลาํ ในนาํมขีํ้าว” แต ถํ้าปลาํจะมาํอยูในนาํกค็งไมใชเรื่องแปลก เพราํะปลาํกนิวัชพชื,แมลงศัตรู

ขํ้าว หลาํยชนดิ,ชวยพรวนดนิโดยกาํรวํ่า ยและกาํรหาํอาํหาํร ปลาํ 1 ตัว พอดกัีบ พื้นที่ 1 ตาํราํงเมตร พันธปลาํที่

อาํจใชในระบบนี้มหีลาํนชนดิ เชนปลาํไน,ปลาํ ยศีกเทศ,ปลาํนวลจันทรเทศ,ปลาํจนี,ปลาํนลิ,ปลาํตะเพยี นและป

ลาํเฉาํหรอืปลาํ

Page 7: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

16. กนิหญํ้าถงึเวลาํเกบ็เกี่ยวกส็บูนาํํ้าออกใหนาํแห ง ปลาํจะมาํรวมอยูในคนูาํํ้าโดย รอบ ขํ้าวไดเพิ่มขึ้นปลาํกไ็ด

กาําํไร 73. ขอควาํมนี้ควรใหชื่อเรื่องตาํมขอใด ก.กาํรเลี้ยงปลาํในนาํ ข.กาํรเลี้ยงปลาํในนาํขํ้าว ค. ในนาํํ้ามปีลาํ

ในนาํมขีํ้าว ง.ขํ้าว ในนาํปลาํในนาํํ้า 74. ขอควาํมที่ผูเขยีนใหเหตผุลวํ่า “ไดขํ้าวเพิ่มขึ้น”นัน่อธบิาํยไดอยํ่างไร ก.

ไดขํ้าวนอกนาํจาํกรองครูมิขอบนาํดวย ข. ปลาํในนาํชวยใหตนขํ้าวงาํมกวํ่าปกต ิค.ตนขํ้าวปลอดภัยจาํกศัตร ูง. ระ

ดับนาํํ้าเหมาํะแกควาํมตองกาํรของตนขํ้าว ; อํ่านขอควาํมตอไปนี้แลวตอบคาําํถาํมขอ นาํยคาํรเตอร นักมาํยาํกล

เลี้ยงสงิโตไวตัวหนึ่งตัง้แตเลก็ๆประวัต ิเดมิของสงิ โตตัวนี้มวีาํสนาํอยูถงึในปราํสาํทราํชวัง กษัตรยิแหงราํชวงศ

โปรตเุกส ทรงเลี้ยงลกูสงิโตตัวนี้ไวตัง้แตกอนออกจาํกราํชสมบัต ิครัน้ เมื่อทรง ประสบภัยทาํงกาํรเมอืง มผีูเขํ้า

โคนลมยดึอาําํนาํจกาํรปกครอง ทํ่านตองเสดจ็ลี้ ภัยไปอยูประเทศอังกฤษ ทิ้งลกูสงิโตไวในโปรตเุกส นาํยคาํร

เตอรไปพบเขํ้าใน เวลาํถกูประกาํศขาํยพอด ีจงึรับซื้อมาํเลี้ยงไวเองลกูสงิโตเตบิโตใหญขึ้นอยํ่าง แสนเชื่อง เจํ้า

ของเลนดวยไดเหมอืนดังวํ่าเลี้ยงสนุัขไว ตัวหนึ่ง แตอยํ่างไรๆ ก ็ตองเลี้ยงในกรงอยูนัน่เอง มไิดปลอยออกมาํเพ

นพํ่าน เขาํไปไหนพาํไปดวย เจํ้ากรรมที่อาํชพี นาํยทาําํใหตองสัญจรตลอดเวลาํและกาํรพาํสงิโตเดนิทาํงนัน้ ยอม

เปนเรื่องทลุักทเุล มอีปุสรรคเกดิขึ้นเนื่องๆ คราํวที่นาํยคาํรเตอรจะลงเรอืเมลหรอืเรอืเดนิเรว็เดนิขํ้ามจาํกฝร ่ั่่

งอังกฤษ ไป ฝรัง่เศสทราํบวํ่าจะพาํสงิโตลงเรอืเมลไมได จงึสัง่ลกูนองใหขนของอื่นๆ ขึ้นเรอื เสยีกอน เอาํกรง

สงิโตไวสดุทํ้าย โดยตระเตรยีมหาํถงุคลมุมดิชดิ ถงุมบีาํนเปด ไดที่ประตกูรงเกี่ยวไวแนนหนาํ ไมใหใครรูไดวํ่ามี

สงิโตอยูในนัน้ เมื่อรถไฟไป

17. ถงึทาเรอื กไ็สรถบรรทกุของไปยังทารมินาํา้ ใชรอกปนจัน่ยกหูบใหญๆขึ้นเรอืไป เกอืบหมดจงึจะถงึหูบสงิโต

ในระหวางนัน้เจาหนาที่ของบรษิัทเรอืคอยยนืคมุของที่กาําลังขนข ึ้ึึน กาําลังจะ “มบุมบิ”เคลื่อนยาย “จาจะเลี้ยง

แสนรัก”ของ นายคารเตอร ไดตลอดรอดฝง แลวทเีดยีวเผอญิลมพัดกรรโชกเอาบานที่ถงุเปดโร เหน็หนาสงิโต

โผลอยูในกรง เทานัน้เองเจาหนาที่ถงึแกอาการตาเหลอืก รองหามระงับยับยัง้ทันที่วาพาสงิโต ลงเรอืไมได ผดิ

กฎขอบังคับ นายคารเตอรแยงวาถาพาจาจะนัน้ไปดวยไมได กจ็ะตองขนของกลับลงจากเรอืหมดเพราะจาจะนัน้

เปนเครื่องมอืหา ก ึินของ เขา เจาหนาที่บรษิัทเรอืตอบวาเสยีใจ แตตองทาําตามขอบังคับ นายคารเตอร จนมมุจะ

สัง่พวกพองใหขนของกลับอยูแลว แตความที่เปนคน ชอบพดูเลนจงึถามออกไปวา ทาําไมจงึวาจาจะนี้เปนสงิโต

เคยเหน็หรอื เจาหนาที่วาไมเคยเหน็ตัวจรงิ เหน็แตรปูจนคุนตา เขาไดโอกาส จงึถามวาที่นกึวาเปนสงิโตนัน่แหละ

ผดิ เพราะสงิโตเปนจาจะดรุาย ไมทราบ หรอกหรอื พอเจาหนาที่บอกวาทราบเขากเ็ลยพดูตอวา ถาเชนนัน้หากคน

เอา แขนใหสงิโตคาบมันกกั็ดขาดเลย เมื่อเจาหนาที่ยนืยันวามันตองเปนอยางนัน้แน เขาจงึขอพสิจูนวาจาจะนี้

ไมใชสงิโต วาแลวเขากเ็ดนิเขาไปเปดประตกูรง เอา แขนยัดเขาไปในปากสงิโต มันกค็าบแขนเฉยอยูเขาแอบ ยิ้ม

กริ่มในใจ ชัก แขนออกจากปากสงิโต ปดประตกูรงแลวพดูใหเจาหนาที่วักไขวเขววา จาจะนี้ ไมกัดแขนคนที่ใส

เขาไปในปาก เพราะฉะนัน้ไมใชสงิโต และเขายังอยากทาําอกี อยางเพราะใครๆกร็ูวาสงิโตไมจบูคน เจาหนาที่เรอื

เหน็นายคารเตอรเปดประตโูผลหนาเขาไปในกรง อกี แลวพดูกับจาจะ ใหจบูคน จาจะนัน้แลบลิ้นเลยีหนานาย

เหมอืนกับจาจะจบู คน ไมใชจาจะกนิคนอยางที่รูมา ครัน้นายคารเตอรเหน็อกีฝายลังเล สงสัยวาหากจาจะนี้ไมใช

สงิโตแลวคอือะไร เขาจงึบอกวาจาจะนี้เรยีกวาวยูดูชีนดิอเมรกัิน เปนจาจะที่ไมมใีนยโุรป ทานจงึ ไมเคยเหน็ เชน

นี้แลวจะปลอยใหลงเรอืไดหรอืยัง นายคนเครงครัดตอหนาที่หันไปคนบัญชจีาจะตองหามกอน ; เหน็ ไมมวียูดูี

ชนดิอเมรกัินหรอืชนดิไหน จงึเปนอันวาตองปลอยใหไป คารเตอรแอบ เอาธนบัตรใสมอืผูนัน้ แลวกส็ัง่ใหคนชัก

รอกเอากรงสงิโตลงเรอื 75. นายคารเตอรผูนี้วาจะจัดเขาเปนประเภทใดจงึจะเหมาะสมที่สดุ ก. เจาเลห ข.เจา

ปญญา ค. เจาอบุาย ง. เจาคารม

18. 76. ขอใดไมใชลักษณะของเจาหนาที่ประจาําคอื ก. บรกิารผูโดยสารอยางด ีข. ซื่ออยางขาดไหว พรบิ ค.

เครงครัดตอหนาที่ ง. ตกใจงาย 77. สงิโตไดลงเรอืไปพรอมเจาของโดยการปฏบัิตติามขอใด ก. แกปญหาอยาง

แยบยล ข. ให สนิบนเจาหนาที่ ค. ละเมดิกฎเกณฑของเรอื ง. วางแผนลวงหนาอยางแนบเนยีน 78. ขอใดไมใช

เหตผุลเจาหนาที่ยนิยอมใหสงิโตลงเรอื ก.ไดรับเงนิเพิ่มพเิศษ ข. เชื่อวา ไมมขีอบังคับระบหุาม ค. แนใจวาไมมี

อันตรายจากจาจะนี้ ง. สับสนเรื่อง ความรูเกี่ยวกับสงิโต 79. การไดรับเงนิของเจาหนาที่ประจาําเรอือาจเปรยีบได

กับสาํานวนไทยข ึ้อใด ก. ลาภลอย ข. กนิตามนาํา้ ค. สบิเบี้ยใกลมอื ง. ตก บันไดพลอย 80. เรื่องนี้ควรจะตัง้ชื่อ

ตามขอใด ก. จากปราสาทสูเรอืเดนิทะเล ข. สงิโตกับนัก มายากล ค. เมื่อนักมายากลแกปญหา ง. จาจะ เลี้ยงแสน

รัก 81. ขอใดมวีธิกีารใชเหตผุลตางจากขออื่น ก. สงิโตดรุายกัดคน จาจะนี้ไมกัด ฉะนัน้จาจะนี้ไมใชสงิโต ข.

สงิโตไมจบูคนจาจะนี้จบูคน ฉะนัน้จาจะนี้ไมใชสงิโต ค. วยูดูชีนดิอเมรกัิน เปนจาจะไมมใีนยโุรป คนยโุรปจงึไม

เคย เหน็ ง. จาจะรายกัดคน วยูดูชีนดิอเมรกัินไมกัด วยูดูไีมใชจาจะราย 82.จงเลอืกขอความที่ควรขึ้นยอหนาใหม

ก. ทรัพยากรของประเทศไทยมมีากเมื่อเทยีบกับขนาดและจาํานวน ของพลเมอืง ฉะนัน้ไดวา ประเทศไทยเปน

ประเทศที่ไมยากจน ข. การที่เมอืงไทยยังไมมเีงนิปรังปรงุบานเมอืงใหสวยงามเนื่องจา กคนไทยยังมไิดนาํา

Page 8: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

19. ทรัพยากรออกมาทาําใหเกดิประโยชน ค. การหาเลี้ยงชพีในประเทศใดๆกต็าม ยอมขึ้นกับทรัพยากรและ ลม

ฟาอากาศของประเทศ นัน้ๆ ง. ทรัพยากร ลม ฟา อากาศ ของประเทศไทยเหมาะแกการเพาะ ปลกูเปนอยางยิ่ง

83.ขอใดไมใชขอความตอนสดุทายของขอเขยีน ก. เกลอืจะมคีณุคามหาศาลเมื่อรับประทานใหอยูในระดับไม

เกนิ 3 กรัมตอวัน ข. มขีาวดทีี่แทบจะไมนาเชื่อตอไปนี้ มมีนษุยจะไมมใีครตองเปน อัมพาต เนื่องจากความ พกิาร

ทางสมองอกีแลว ค. แพทยแนะนาําวาถาํา้ไมตองการใหเดก็ของทานอวนกไ็มตองให เดก็ ดโูทรทัศนมากเกนิไป

ง.ถามนีักวทิยาศาสตรหรอืแพทยคนพบตัวยาที่จะสามารถรักษาโรค เ อดสใหหายไดโลก จะตองจารกึชื่อวา เขา

เปนผูวเิศษแนนอน 84. “ดวยเหตทุี่ในประเทศไทยมกีารสื่อสารกันดวยภาษาถิ่นหลายภาษา รวมทัง้ ผูพดูเองกม็ี

ทัศนคตติอ ภาษาถิ่นแตกตางกันไป จงึจาําเปนที่จะตองมภีาษาที่เปนภาษามาตรฐาน เพื่อใชเปนแบบในก าร

อางองิ แตการที่จะกาําหนดภาษามาตรฐานนัน้ไมใชเรื่องงาย เพราะ........ ...” ขอใดสามารถนาํามาเตมิขอความ

ขางตนแลวไดความเหมาะสมที่สดุ ก. การเลอืกภาษาใดภาษาหนึ่งจะทาําใหคนอกีกลุมหนึ่งไมพอใจ ข. การเลอืก

ภาษาใดภาษาหนึ่งเปนปญหาสาําคัญอยางยิ่งของ ประเทศ ค. ภาษามาตรฐานตองเปนภาษาที่ยอมรับกันวาถกู

ตองและเปน บรรทัดฐา นเทากัน ง. เปนการปลกูฝงความภาคภมูใิจในภาษามาตรฐานซึ่งเปนความ ภาคภมูใิ จใน

ชาต ิ85. “การสบูบหุรี่ไมทาําใหความดันโลหติสงูขึ้น แตคนที่มคีวามดันโลหติสงูและ สบูบหุรี่ดวยนัน้.......”

ขอความใดนาํามาเตมิทายขอความนี้ไดเหมาะสมที่สดุ ก จะมผีลใหยาลดความดันไมไดผลเตม็ที่ เทากับคนที่มี

ความดัน โลหติสงูแตสบูบหุรี่ ข. มอีัตราเสี่ยงตอหัวใจวายและเสนโลหติในสมองแตกมากกวาคน ที่มคี วามดัน

โลหติสงูแตไมสบูบหุรี่ ค. จะทาําใหหัวใจตองทาํางานหนัก สบูฉดีโลหติแรงขึ้น ซึ่งมผีลให ความดันโลหติสงูขึ้น

อกีดวย ง. จะมผีลกระทบกระเทอืนกลามเนื้อหัวใจใหทาํางานผดิปรกต ิซึ่ง สามารถทาําใหหัวใจวายไดเชนกัน

20. 86. ประกาศอยางเปนทางการจะประกอบดวย ก) หนวยงานที่ประกาศ ข)เรื่องที่ ประกาศ ค) เนื้อหาที่ ประกาศ

ง) วันเดอืนปที่ประกาศ จ)ลงนามหัวหนาหนวยงานที่ประกาศใน การเขยีนประกาศอยาง เปนทางการจะตองเรยีง

ลาําดับอยางไร ก. ก ข ค ง จ ข. ก ข ค จ ง ค. ข ค ง จ ก ง. ข ค จ ก ง 87. (1) และสนองตอบความตองการและ

แกไขปญหาของทองถิ่นไดเทาที่ ควร (2)การดาําเนนิงานของหนวยงานปกครองทองถิ่นไทยที่ปรากฏอยู ยังไม ึ่

สนองตอบ วัตถปุระสงคในการจัดตัง้ (3) การมสีวนรวมของประชาชนในการปกครองตนเองและระดับ ทองถิ่น (4)

เพราะทองถิ่นในแตละรปูยังคงประสบปญหาตางๆหลายประการ (5)เพื่อเปนสถาบันฝกฝนและเรยีนรูการปกครอง

ในระบอบ ประชาธปิไต ย ขอใดเรยีงลาําดับขอความแลวไดใจความสมบรูณ ก. (3) (5) (4) (2) (1) ข. (2) (5) (3)

(1) (4) ค. (5) (2) (3) (1) (4) ค. (3) (2) (5) (4) (1) 88. (1)สื่อนาําฟนเฟองของกจิกรรมทัง้หลายใหสอดคลอง

กลมกลนืกัน (2) โดยการประสานงานจะทาําหนาที่เสมอืนตัวกลาง (3) การประสานงานเปนหลักการสาําคัญ

ประการหนึ่ง (4) ซึ่งจะขาดเสยีมไิดในการบรหิาร ขอใดเรยีงลาําดับขอความแลวไดใจความสมบรูณ ก. (1) (2) (3)

(4) ข. (2) (3) (4) (1) ค. (3) (4) (2) (1) ง. (3) (2) (4) (1) 89. (1) อันจะหลอหลอมใหมคีณุภาพชวีติที่ดขีึ้น (2) สภาพ

แวดลอมและสังคมตางที่แตกตางกันไป (3) การเผชญิกับสิ่งแวดลอมใหมๆในตางถิ่น (4) คงจะสรางความหวงใย

และกังวลใหกับทานเปนอันมาก (5) สาําหรับบัตรหลานของทาน ขณะที่ศกึษาหาความรูในสถานที่ ซึ่งหางไกล

ขอใดเรยีงลาําดับขอความแลวไดใจความสมบรูณ

21. ก. (2) (4) (3) (5) (1) ข.(3) (1) (4) (2) 5) ค. (3) (5) (4) (2) (1) ง. (2) (1) (5) (3) (4) อานขอความทัง้ 5 ตอนตอ

ไปนี้แลวตอบคาําถามขอ 90-91 (1) คนเขลายอมจะมคีวามทกุขอยางแสนสาหัส (2) ชวีติจรงิคอืสภาพที่ปรากฏ

อยูตอหนาเราในปจจบัุน (3) เพราะมัวแตเศราโศกและอาลัยอดตีที่ไมอาจเรยีกกลับคนืมาได (4) หรอืมัวแตใฝฝน

ฟุงซานถงึอนาคตที่ยังไมปรากฏ (5) คนที่ฉลาดที่สดุคอืคนที่สามารถยอมรับสภาพปจจบัุนไดอยางสงบส ุขและ

เปนสขุ 90. ถาใหเรยีงลาําดับขอความทัง้ 5 ตอน เขาเปนเรื่องควรเริ่มตนเรื่องดวย ขอความใด ก. ตอนที่ 1 ข.ตอน

ที่ 2 ค. ตอนที่ 3 ง. ตอนที่ 5 91. ควรใชขอความใดมาตอหลังขอความตอนที่ 1 ก.ตอนที่ 2 ข.ตอนที่ 3 ; ค.ตอนที่ 4

ง.ตอนที่ 5 เรยีงลาําดับขอความตอไปนี้ใหไดใจความ ขอ 92-94 92. และหัวหนาพรรคที่มคีะแนนเสยีงในสภาผู

แทนราษฏรรองลงไปกจ็ะไดร ึับ มอบหมายใหดาํารงตาําแหนงรองนายรัฐมนตร ี/ ถาหากผลของการเลอืกตัง้

ทัว่ไป ไมมพีรรคการเมอืงใดมคีะแนนเสยีง ขางมากเดด็ขาดในสภาผูแทนราษฏร / โดย ทัว่ไปหัวหนา

พรรคการเมอืงที่มเีสยีงขางมากที่สดุจะไดรับเ ลอืกใหดาํารงตาําแหนง นายกรัฐมนตร ี/ พรรคการเมอืงหลายพรรค

ที่มคีะแนนเสยีงมากลดกลัน่จะรวมตัว กันเพื่ อจัดตัง้รัฐบาลผสม / ในประเทศประชาธปิไตยที่มรีปูแบบรัฐสภาหรอื

แบบ คณะรัฐมนตรนีัน่ ก. 2-5-3-4-1 ข.4-3-2-5-1 & nbsp; ค.5-2-4-3-1 ง.3- 1-2-5-4 94. แสดงวาศลิปะกับชวีติ

เปนสวนที่แยกจากกันไมออก / จงึมผีูนาําผลไมมา ประดษิฐลวดลายแลวจัดวางลงในภาชนะใหมองดแูป ลกตา

นารับประทาน / สวน ไมดอกที่ออกดอกกน็าํามาผกูมัดเปนชอบาง เปนพวงเปนพูบาง เสยีบเปนพุมหรอื ปกลงใน

แจกันกไ็ด / บางคนชอบปลกูไมดอกไมผลเมื่อเกดิดอกออกผลกช็ื่นใจ เกดิความคดิที่จะทาําดอกผลนัน้ใหงดงาม

นาดยูิ่งขึ้น / ลวดลายนัน้กเ็กดิจากการ

Page 9: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

22. ตัด ผา ปอก ควาน และแกะสลัก ก.1-2-3-5-4 ข.1-3-2-4-5 ค.4-1-3-5-2 ง.4-2-5-3-1 95. ประโยคใดใชคาํา

กะทัดรัดที่สดุ ก. ภาษาไทยยคุปจจบัุนนับวันจะเสื่อมลงไปในทางที่ไมควร ข. สนิคาตกมาใหมตัวนี้ เหมาะกับชาย

หญงิทกุเพศทกุวัย ค. ในโอกาสเปดกจิการใหม หางขอแจกของสมนาคณุฟรโีดยไม คดิมลูคา ง.ในอนาคตอัน

ใกลนี้ เขาจะเปนเจาของกจิการที่ใหญโตที่สดุใน ประเทศ 96.ขอใดควรเปนใจความสรปุของประโยคที่วา “ครปูน

คนใหเปนพลเมอืงด”ี ก. เปนผูมศีลีธรรม ข.เปนผู มสีวนสรางชาต ิค. เปนผูมคีวามรู เฉลยีวฉลาด ง.เปนผูมพีลา

อนามัยแขง็แรง 97. ขอใดใชคาํากะทัดรัดและสื่อความหมายไดดทีี่สดุ ก. ฝนเทยีมซึ่งเลยีนแบบฝนธรรมชาตมิี

ประโยชนมาก ข. เขาเปนผูที่ชอบวจิารณเรื่องตางๆทกุเรื่อง ค. เมื่อสามเีธอถงึแกกรรม เธอกก็ลับมาอยูกนิกับ

มารดา ง. สมัยนี้คนนยิมผกูนาฬกิาชนดิที่ไมมเีขมบนขอมอื 98. ประโยคตอไปนี้บกพรองหรอืถกูตองแลวอยางไร

“พอแมยอมรักถาลกูเปน เดก็ด ีและอยูใน โอวาท” ก. ขาดกรรม ข. เรยีงคาําเขาประโยคไมถกูที่ ค. ใชคาําฟุมเฟอ

ยไมกะทัดรัด ง. ใชคาําและ สาํานวนดแีลว 99. ขอเขยีนขอใดที่มหีลายเนื้อหา ก. นายกรัฐมนตรพีดูถงึเรื่องการแก

ปญหาขาว มทัีง้การประกัน ราคาและการเรงการสงออก และควบคมุการผลติ ข. นาํา้ทวมจังหวัดราชบรุมีคีนตาย

15 คน บาดเจบ็ 27 คน จังหวัด และประชาสงเคราะหระดม ชวยเหลอืดวน ค. รัฐมนตรตีางประเทศไปรวมประชมุ

สมัชชาใหญสหประชาชาต ิครางนี้ไดเจรจาเรื่อง ปญหากัมพชูา เรื่องสิ่งทอและมันสาําปะหลังกับประชาคม

เศรษฐกจิยโุรป ง. นายกรัฐมนตรเีดนิทางกลับจากสหรัฐแวะเยอืนอังกฤษ ฝรัง่เศส และเยอรมนตีะวันตกเพื่อ ชี้แจง

กรณทีี่ไมสงบ 9 กันยายน

23. 100. ขอใดเปนลักษณะเดนของภาษาไทย ก. ไมมตีัวการันต ข. มคีาําพยางคเดยีว สวนมาก ค. ใชตัวสะกด

ตรงตามมาตรา ง. คาําคาําเดยีว ทาําหนาที่ไดหลายอยาง เฉลย ภาค ก ชดุที่ 1 เฉลยชดุที่1 1. ตอบ ค. 2. ตอบ ข.

3. ตอบ ค. วธิทีาํา 65 245 159 129 41 (2)6 +1 (3)5 + 2 (4)4 + 3 (5)3 + 4 (6)2 + 5 4. ตอบ ก. วธิทีาํา 39 416 525

636 749 32 42 52 62 72 5. ตอบ ง. วธิทีาํา 25 21 17 23 19 15 18 14 -2 -2 -5 -5 6. ตอบ ค. วธิทีาํา ดจูากพยางค

ของคาําในขอนัน้ คอื ผูวาราชการจังหวัด = 7 เพราะฉะนัน้เจาหนาที่ทะเบยีน = 5 7. ตอบ ข. ดคูวามสัมพันธของ

สิ่งของสองสิ่งที่อยูในทปีเดยีวกัน เหตผุลเพราะ หอเอนเมอืงปซา : สโตนเฮนท เปนสิ่งที่อยูในทวปียโุรป

24. ทัชมาฮาล : กาําแพงเมอืงจนี กเ็ปนสิ่งที่อยูในทวปีเอเชยี 8. ตอบ ข. สัมพันธแบบคูหนากับคูหนา คูหลังกับคู

หนา เพราะฉะนัน้กฬีาคูกับ กตกิา พระคูกับศลี 9. ตอบ ค. เหตผุลเพราะเปนสิ่งที่อยูตรงกลาง เพราะรุงกนินาํา้ม ี7

แถบ คอื มวง คราม นาํา้เงนิ เขยีว เหลอืง แสด แดง ธงชาตไิทย ม ี5 แถบ คอื แดง ขาว นาํา้เงนิ ขาว แดง 10.

ตอบ ข. ดจูากความเรว็ เพราะแสงเรว็กวาเสยีง เพราะฉะนัน้ เครื่องบนิเรว็ กวารถยนต 11. ตอบ ก. วธิทีาํา สตูร

ความเรว็ = ระยะทาง ขาไปใชเวลา 1 ชม. = เวลา = ระยะทาง ขากลับใชเวลา 3 ชม. = เวลา = ระยะทาง แดงใช

เวลาทัง้ไปและกลับ 4 ชัว่โมง และใชระยะทางทัง้ไป และกลับ <st1:metricconverter ProductID="30 ไมล"

w:st="on">30 ไมล</st1:metricconverter> ความ = 30 ความเรว็เฉลี่ยในการเดนิทาง = 7.5 ไมล/ชม. 12. ตอบ ค 13.

ตอบ ข. 14. ตอบ ง. 15. ตอบ ค. 16. ตอบ ก. 17. ตอบ จ. 18. ตอบ ง. 19. ตอบ ค. 20. ตอบ ค. 21. ขอสรปุ 1 ไมแน

ขอสรปุ 2 ไมแน เวล า ความเ รว็ ความเ รว็ 4

25. 22. ขอสรปุ 1 ผดิ ขอสรปุ 2 ถกู 23.ขอสรปุ 1 ไมแน ขอสรปุ 2 ไมแน 24. ขอสรปุ 1 ผดิ ขอสรปุ 2 ไมแน 25.ขอ

สรปุ 1 ไมแน ขอสรปุ 2 ไมแน 26.ขอสรปุ 1 ผดิ ขอสรปุ 2 ผดิ ที่เหลอืจะไลคาําํตอบตัง้แตขอ 27-100 ก-ง-ง-ง-ข-

ข-ง-ง-ค-ก-ค-ง-ข-ง-ก-ก-ง-ก-ง-ง-ค-ข-ค-ค-ก-ง-ค-ข-ค-ง- ค-ข-ค-ค-ค- ค-ง-ง-ก-ข-ค-ง-ค-ง-ข-ข-ข-ข-ข-ก-

ก-ก-ข-ค-ข-ค-ค-ง-ข-ก- ง-ค-ง-ข-ง-ค-ข-ง-ข- ข-ข-ก-ค-ง- เฉลยชดุที่ 2 ง-ก-ง-ค-ค-ก-ข-ก-ข-ก-/ก-ค-ค-ง-ง-ง-

ก-ก-ข-ก-/ง-ข-ก-ข-ง-ค-ก-ค-ข- ค-/ข-ง-ง- ก-ข-ข-ค-ง-ก-ข-/ข-ก-ง-ก-ง-ค-ง-ค-ก-ข-/ค-ค-ก-ง-ง-ข-ง-ก -ก-ค/

ข-ค-ค-ค-ค-ง- ก-ง-ง-ง-/ก-ข-ก-ก-ข-ข-ก-ง-ก-ข-/ก-ง-ง-ก-ข-ก-ก -ค-ง-ค-/ค-ง-ข-ก-ค-ข-ก-ง-ข- ค-/ 2. รถไฟ

ขบวนหนึ่งวิ่งจาํกสถาํน ีก.ไปยังสถาํน ีข.ถํ้าวิ่งดวยควาํมเรว็ 29.5 ไมลตอชัว่โมง จะถงึชํ้ากวํ่าปกต ิ5 นาํท ีแตถํ้าวิ่ง

ดวยควาํมเรว็ 30 ไมลตอชัว่โมง จะถงึไปถงึชํ้ากวํ่า ปกต ิ2 นาํท ีระยะทาํงระหวํ่างเมอืง ก.และเมอืง ข. เปนเทํ่าไร

ก.88.8 ไมล ข.88.5 ไมล ค.98.5 ไมล ง.67.5 ไมล 3.ทรงกลมรปูหนึ่ง บรรจพุอดอียูในรงกระบอกซึ่งมเีสนผํ่าศนูย

กลาํงของฐาํนที่ เปนวง กลมยาํว 4 ซม. โดยที่ วงกลมและทรงกระบอกมคีวาํมสงูเทํ่ากัน ปรมิาํตรทรงกระบอกเปน

กี่เทํ่าของ ปรมิาํตรทรงกลม ก.1/3 ข.2/3 ค.3/2 ง.3 4.ซื้อสนิคํ้ามาํ ราํคาํ 5 ชิ้น 4 บาํท ขาํยไปในราํคาํ 4 ชิ้น 5 บาํท

ไดกาําํไร รอยละเทํ่าไร

26. ก.25 ข.44.44 ค.56.25 ง.ไมมคีาําํตอบที่ถกู 5.นาํฬกิาํเรอืนหนึ่งเดนิเรว็กวํ่าอกีเรอืนหนึ่ง 8 นาํท ีใน 1 สัปดาํห

จะเปน เวลาํนาํนเทํ่าไร ที่นาํฬกิาํทัง้สอง เรอืน จะชี้เวลาํเดยีวกันอกี ก.60 สัปดาํห ข.70 สัปดาํห ค.90 สัปดาํห ง.ไม

มคีาําํตอบที่ถกู คาําํสัง่ ขอ 6-10 คาําํถาํมแตละคาําํถาํมจะใชขอมลูประกอบ 2 ชดุคอืขอมลูที่ 1) และขอมลูชดุที่

2) ผูตอบ ขอสอบไมจะเปนตองหาํคาําํตอบของคาําํถาํมดังกลํ่าวแตใหพจิาํรณาํวํ่าข อมลูใดมปีระโยชนตอกาํร

ตอบ คาําํถาํมใหตอบดังนี้ ก.ถํ้าขอมลูที่ 1)แตเพยีงพอตอกาํรตอคาําํถาํม แตขอมลู 2)เพยีงลาําํพัง ไมเพยีงพอตอ

Page 10: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

กาํรตอบคาําํถาํม ข.ถํ้าขอมลูที่ 2) แตเพยีงลาําํพังเพยีงพอตอกาํรตอบคาําํถาํม แต ขอมลู 1)ไมลาําํพัง ไมเพยีง

พอตอกาํร ตอบคาําํถาํม ค. ถํ้าตองใชขอมลูที่ 1)และ 2)รวมกันจงึจะเพยีงพอตอกาํรตอบ คาําํถาํม ไมสาํมาํรถใช

ขอมลูใด ขอมลูหนึ่งเพยีงลาําํพังได ง. ถํ้าขอมลูที่ (1)หรอื (2)แตเพยีงลาําํพังกเ็พยีงพอตอกาํรตอบ คาําํถาํม จ.

ถํ้าใชขอมลูที่ 1) และ 2)รวมกันแลวยังไมเพยีงพอตอกาํรตอบ คาําํถาํมจาําํเปนตองใชขอมลูเ พิ่มเตมิ 6. จะตอง

ใชเวลาํกี่วัน ถํ้าใหคน 8 คน ทาํสหีอง 12 หอง (1)คน 4 คน ทาํส ี3 หอง เสรจ็ภาํยใน 1 วัน (2)คน 1 คน ทาํส ี1 วัน

ไดพื้นที่ 60% ของพื้นที่หอง 7. ปจจบัุน นาํยยนื มอีาํย ุมาํกกวํ่า 50 ป หรอืไม (1)เมื่อ 5 ปกอน เขาํมอีาํยนุอยกวํ่า

50 ป (2)เมื่อ 5 ปกอน เขาํอาํยมุาํกกวํ่า 45 ป 8. คํ่าใด มคีํ่ามาํกที่สดุ ระหวํ่าง xy และ z (1) x+y+z= 2 (2) x:y = 2:1 9.

นักศกึษาํหญงิและนักศกึษาํชาํยมาํลงทะเบยีนเปนจาําํนวนเทํ่าไร (1) นักศกึษาํที่มาํลงทะเบยีน เปนชาํยมาํกกวํ่า

หญงิ 8 คน (2) นักศกึษาํที่มาํลงทะเบยีนทัง้หมดม ี42 คน

27. 10. สมาํชกิของสมาํคมทกุคนจบบรหิาํรธรุกจิ หรอืเศรษฐศาํสตร หรอืจบทัง้ สองอยํ่างหาํกมจีาําํนวน 60 คน

จบบรหิาํรธรุกจิ ม ี50 คน จบเศรษฐศาํสตรสมาํชกิของสมาํคมนี้มจีาําํนวน เทํ่าไร (1) ม ี15 คน ที่จบทัง้ 2 สาํขาํ

(2) ม ี35 คน ที่จบเศรษฐศาํสตรอยํ่างเดยีว 11. รถยนต: นาํํ้ามัน - -> ?:? ก.เรอื : กระแสนาํํ้า ข.เครื่องบนิ:ลม

ค.กังหัน:นาํํ้า ง.จักรยาํน:ถบี 12. โรงพยาํบาํล : วัด - -> ?:? ก.หมอ :ลกูศษิย ข.รักษาํ: เยยีวยาํ ค.เริ่มตน:สิ้นสดุ ง.

ยาํ:ขํ้าว 13.เทยีน:เกวยีน- -> ?:? ก.เขม็: กระบี่ ข.ไฟฉาํย:ไมไผ ค.แหวน:ดนตร ีง.พระ:เทวดาํ 14.ผํ้า:กลุ-ี -> ?:?

ก.เสื้อ:ผูด ีข.พรม:ผนื ค.ลกูไม:ลาํยดอก ง.นก:ฝงู 15.เปตอง:สนกุเกอร - -> ?:? ก.หมาํกรกุ:หมาํกออส

ข.เทนนสิ:ปงปอง ค.ตะกรอ:ชักคะเยอ ง.เดนิทน:วิ่งรอยเมตร 16. 17 24 34 51 78................. ก.98 ข.112 ค.122

ง.134 17. 40 43 49 64 106.................. ก.140 ข.229 ค.434 ง.1342

28. 18. 123 85 55 33....................... ก.19 ข.24 ค.22 ง.20 19. 44 77 111 150 205................... ก.405 ข.287 ค.302

ง.654 20. 15 20 25 30 40 40 60.............. ก.70 ข.80 ค.60 ง.50 คาําํสัง่ ขอ 26-40 ในคาําํถาํมแตละขอ จะมขีอ

สรปุ 1 และขอสรปุ 2 ให พจิาํรณาํขอสรปุดังกลํ่าวโดยอาํศัย เงื่อนไขตาํมที่โจทยกาําํหนด และใหตอบดังนี้

ก.กรณขีอสรปุทัง้สองเปนจรงิตาํมเงื่อนไข ข.กรณขีอสรปุทัง้สองไมเปนจรงิตาํมเงื่อนไข ค.กรณสีรปุทัง้สองไม

สาํมาํรถหาํขอสรปุไดแนชัดทัง้คู ง.กรณขีอสรปุที่ 1 และขอสรปุที่ 2 ขอสรปุโดยขอสรปุหนึ่ง เปนจรงิ ไม เปนจรงิ

หรอืไมแนชัด ซึ่งไม ซาํํ้ากับอกีขอสรปุหนึ่ง เงื่อนไข (ขอ 21-25) -ลขิติ จันทนาํ จรุ ีและรักษ จะตองสอบไลวิ

ชาํภาํษาํอังกฤษในวันศกุร นี้ -พวกเขาํตองกาํรจับกลุมศกึษาํรวมกันกอนถงึวันสอบ -ลขิติมเีวลาํวํ่างในตอนกลาํง

คนื เฉพาํะ วันจันทร อังคาํร พธุและ พฤหัส จะวํ่างในชวงบํ่ายและ กลาํงคนื - จันทนาํมเีวลาํวํ่างในตอนกลาํงคนื

เฉพาํะวันจันทร พธุและพฤหัสจะวํ่าง ทัง้ตอนบํ่ายและกลาํงคนืใน วันอังคาํร -จรุมีเีวลาํวํ่างในตอนกลาํงคนืเฉพาํะ

วันพธุและวันพฤหัสวํ่างเฉพาํะตอ นบํ่ายในวันอังคาํร สวนวัน จันทรวํ่างทัง้บํ่ายและกลาํงคนื -รักษมเีวลาํวํ่างทัง้ใน

ชวงบํ่ายและกลาํงคนืในวัน อังคาํร พธุ และ พฤหัสสวนวันจันทร วํ่างเฉพาํะชวง บํ่ายเทํ่านัน้

29. 21.หาํกกกลุมบคุคลนี้ ตองกาํรจับกลุมศกึษาํ 2 ครัง้ วันที่จะมกีาํรพบปะกันได คอื ก.จันทรและพธุ ข.อังคาํร

และพฤหัส ค.พธุและพฤหัส ง.จันทรและพฤหัส จ.อังคาํรและพธุ 22.นอกจาํกโอกาํสที่จะพบกันครบ 4 คนแลว หาํก

พวกเขาํตัง้ขอตกลงวํ่า ชวง เวลาํที่วํ่าตรงกัน 3 คน กจ็ะจัด กลุมศกึษาํ โดยไมจาําํเปนตองมคีนที่ 4 ขอควาํมใดที่

เปนจรงิ ก.พวกเขาํมโีอกาํสจัดกลุม 3 คน ไดเพยีง 2 ครัง้เทํ่านัน้ ข.ชวงเวลาํที่เปนไปได คอื วันพธุกลาํงคนื

ค.รักษ จะไมมโีอกาํสไดเขํ้ารวมกลุม 3 เลย ง.พวกเขาํมโีอกาํสจัดกลุม 3 คนไดวันจันทร และอังคาํร เทํ่านัน้

จ.พวกเขาํไมมโีอกาํส จัดกลุม 3 คนได 23. หาํก ลขิติ ตัง้ใจจะศกึษาํ ทกุคนื ก.เขาํจะไมมโีอกาํสศกึษาํ รวมกัน

รักษ เลย ข.เขาํจะไมมโีอกาํสศกึษาํ รวมกันจรุ ีเลย ค.เขาํจะมเีพื่อนรวมศกึษาํดวยอยํ่างนอย 2 คน ทกุคนื ง.เขาํ

จะตองศกึษาํแตเพยีงลาําํพังในคนืวันจันทร จ.เขาํจะมจีันทนาํ เปนเพื่อศกึษาํแตเพยีงลาําํพังในคนืวันพฤหัส

24.หาํกกาํรเลื่อนสอบเลื่อนมาํเปนวันพฤหัสตอนเชํ้า ขอควาํมใดที่เปนจรงิ 1.พวกเขาํไมมโีอกาํสจัดกลุมศกึษาํ

ครบ 4 คน ดวยกันเลย 2.ลขิติ ไมมโีอกาํส เขํ้ากลุมในตอนบํ่ายเลย 3.จรุแีละจันทนาํสาํมาํรถศกึษาํรวมกันได 3

ครัง้ ก.1 เทํ่านัน้ ข.1 และ 2 เทํ่านัน้ ค.1 และ 3 เทํ่านัน้ ง.2 และ 3 เทํ่านัน้ จ.ทัง้ 1.2 และ 3 25.ดาําํรมิคีวาํมตองกาํร

เขํ้ารวมกลุมดวย โดยตองกาํรใหทกุคนสาํมาํรถเขํ้ารวม พรอมกันดาําํรจิะตองวํ่างในวัน ใด ก.คนืวันพธุ ข.คนืวัน

จันทร ค.บํ่ายวันพฤหัส ง.บํ่ายวันพธุ จ.คนืวันจันทร เงื่อนไข (ขอ 26-30) ในสวนจํ๋าจะแหงหนึ่งมจีํ๋าจะปก และจํ๋าจะ

เลี้ยงลกูดวยนาํํ้านม ดังนี้

30. -มนีกพริาํบเกาํะบนหลังวัว ถํ้าเกาํะตัวตอตัว จะมนีกเหลอื 2 ตัว ถํ้า นก 2 ตัว เกาํะวัว 1 ตัว จะ เหลอืวัว 2 ตัว -

นกเอี้ยงกับแคลาํยอยูรวมกัน เมื่อนับขาํพบวํ่า ขาํของแคลาํย มาํกกวํ่าขาํของนก 6 ขาํ แตเมื่อนับหัวด ูแลว หัว

ของนกมาํกกวํ่าหัวของควาํม 3 หัว -ไกหลาํยตัวอยูใกลมํ้า หาํกนับขาํของไกและขาํของมํ้าจะเทํ่ากัน พอดแีตถํ้า

นับหัวของจํ๋าจะทั ้้งสองจะ ได 15 หัว -เปดและหํ่านอยูรวมกัน นับขาํได 50 ขาํ แตมเีปดมาํกกวํ่าหํ่านอยู 3 ตัว -นก

กระจบิอยูกับชํ้าง เมื่อนับขาํ ปราํกฏวํ่าขาํของนกกระจบิ เปน 2/5 ของขาํชํ้าง โดยมชีํ้างทัง้หมด 15 เชอืก 26. ขอ

Page 11: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

สรปุที่ 1 นกกระจบิมนีอยกวํ่าชํ้าง 3 ตัว ขอสรปุที่ 2 มวีัวมาํกกวํ่าแคลาํย 2 ตัว 27. ขอสรปุที่ 1 มจีํ๋าจะปกทัง้หมด 54

ตัว ขอสรปุที่ 2 มจีํ๋าจะเลี้ยงลกูดวยนาํํ้านม 2 ใน 5 ของจํ๋าจะ ปก 28. ขอสรปุที่ 1 นกเอี้ยงจาําํนวนเทํ่ากับนกกระจบิ

ขอสรปุที่ 2 ในสวนจํ๋าจะแหงนี้มจีํ๋าจะทัง้หมด 96 ตัว 29. ขอสรปุที่ 1 มมีาํกกวํ่าไกอยู 4 ตัว ขอสรปุที่ 2 อัตราํสวน

ของชํ้างตอไก คอื 3:2 30. ขอสรปุที่ 1 มมีํ้าทัง้หมด 5 ตัว ขอสรปุที่ 2 มหีํ่านมาํกกวํ่านกพริาํบอยู 4 ตัว เงื่อนไข A< B/4 ≥ C/2 = D/4 > E/3 P > (Q-C) ≥ F = E 31. 1.Q>D 2.B>F 32. 1.A>D 2.Q>C 33. 1.P>Q 2.P>A 34. 1.B>Q

2.C<P 35. 1. E มคีํ่านอยที่สดุ 2. P มคีํ่ามาํกที่สดุ เงื่อนไข (O+B)≤(C+D)≥2H > 3E

31. E < C < B ≥ G 36. 1.O>D 2.(B+C)≤2H 37. 1. 4E > 2H 2.EC ≤ BG 38. 1. B ไมเทํ่ากับ D 2.2E>B 39. 1. G ไม

เทํ่ากับ H 2.(O+B) ≥2H 40. 1. (B+H)>4G 2. 2B > 3E คาําํสัง่: อํ่านตาํราํงตอไปนี้แลวตอบคาําํถาํมตอไปนี้

สัดสวนมลูคํ่าผลติภัณฑรวมในประเทศสาํขาํเกษตรในชวงแผนพัฒนาํฯฉบั บที่ 7 หนวย:รอยละ สาํขาํกาํรผลติ

2535 2536 2537 2538 2539 ภาํคเกษตร 1.พชื 2.ปศจุํ๋าจะ 3.ประมง 4.ปาไม 5.กาํรบรกิาํร และแปรรปู ผลติผล กาํร

เกษตร อยํ่างงํ่าย 100 61.27 10.64 11.89 0.77 15.43 100 61.19 10.92 11.95 0.65 15.28 100 60.98 10.53 11.77

0.49 16.23 100 61.41 10.59 11.67 0.46 15.86 100 61.8 3 10.5 8 11.3 5 0.42 15.8 2 41.สัดสวนมลูคํ่าผลติภัณฑ

ทาํงดํ้านปาไม เฉลี่ยในชองแผนพัฒนาํ ฯ ฉบับที่ 7 คดิเปนสัดสวนเทํ่าใด ก.0.50 ข.0.48 ค.0.56 ง.0.62 42.สัดสวน

มลูคํ่าผลติภัณฑทาํงดํ้านพชื ป 2537 ลดลงจาํกป 2535 คดิเปน รอยละเทํ่าใด ก.0.47 ข.0.51 ค.0.60 ง.0.70

43.สัดสวนมลูคํ่าผลติภัณฑเฉลี่ยในชองแผนพัฒนาํฯฉบับที่ 7 ของปศจุํ๋าจะ และ ประมง ตํ่างกันเทํ่าใด ก.1.00

ข.1.08 ค.1.21 ง.2.1 44.สัดสวนมลูคํ่าผลติภัณฑทัง้ 5 ชนดิ เปรยีบเทยีบระหวํ่างป 2535 กับป 2539 สนิคํ้าชนดิใดมี

สัดสวนกาํร เพิ่มขึ้นคดิเปนรอยละ มาํกที่สดุ ก.พชื ข.ปศจุํ๋าจะ

32. ค.ประมง ง.กาํรบรกิาํรและแปรรปูผลติผลกาํรเกษตรอยํ่างงํ่าย 45. สัดสวนมลูคํ่าผลติภัณฑเฉลี่ยในชวงแผน

พัฒนาํฯฉบับที่ 7 ของพชืตํ่างกับ สัดสวน ป 2535 เทํ่าใด ก.0.05 ข.0.06 ค.0.07 ง.0.10 46.ขอใดมคีาําํที่สะกดผดิ

1.เดอืนนี้มะขาํมคาํบหมกูาําํลังอรอย 2.ลกูจํ้างบํ้านนัน้ถกูนาํยจํ้างโขกซับทกุวัน 3.นักมวยผูทํ้าชงิถกูแชมปโลกชก

จนเลอืดกลบปาก 4.เพื่อนเธออาํรมณไมดเีลย นัง่ทาําํหนํ้าบึ้งขึ้งเคยีดไดทัง้วัน 47.ขอใดใชคาําํเชื่อมไดถกูตอง

1.เขาํปวดศรีษะมาํกและยังมาํเรยีนวันนี้ 2.แมวํ่าเขาํจะออนวชิาํนี้ เขาํกข็าํดเรยีนบอยๆ 3.แมคํ้าเหลํ่านี้ถกูตาําํรวจ

จับบอยมาํก ซึ่งกไ็มเขด็ 4.เรื่องยาํกเชนนี้อยํ่าวํ่าแตเดก็เลย แมผูใหญกค็งไมเขํ้าใจ 48.ประโยคใด ไมมขีอ

บกพรองในกาํรใชถอยคาําํ 1.เมื่อนักเรยีนทาําํบาํงสิ่งบาํงอยํ่างผดิพลาํดกค็วรยอมรับโดยดษุณ ี2.ตัวมอืปนนัน้เจํ้า

หนํ้าที่พอทราํบวี่แววแลว กาําํลังตาํมจับอยู 3.นกชนดินัน้สาํมาํรถกลมกลนืตัวเขํ้ากับสภาํพแวดลอมไดด ี4.งาํน

แสดงสนิคํ้านี้มวีัสดตุกแตงบํ้านสาํรพันชนดิ 49.ขอใดใชคาําํผดิควาํมหมาํย 1.นักเรยีนไมควรหมกมุนกับตาําํราํ

มาํกเกนิไปโดยไมยอมพักผอน 2.ระยะนี้มกีาํรโยกยํ้ายขํ้าราํชกาํรหลาํยตาําํแหนงในหลาํยกระทรวง 3.ตาําํรวจคน

ไมพบรองรอยของคนรํ้ายในบํ้านหลังนัน้ 4.ยาํมเชํ้าเกลด็นาํํ้าคํ้างยังจับอยูตาํมยอดหญํ้า 50.ขอใดมรีปูประโยค

แบบเดยีวกัน “ฉันไปฟงเขาํวจิาํรณหนังสอืที่หอสมดุแหงชาํต”ิ 1.เขาํนัดมาํหาํฉันที่โรงพยาํบาํลของมหาํวทิยาํลัย

2.ฉันชอบดปูลาํกฮบุเหยื่อที่ที่ในสระขํ้างบํ้าน 3.พอแมรักนอยที่เปนลกูคนเลก็มาํกกวํ่าคนอื่น 4.เขาํรูวํ่าเพื่อนโกรธ

ที่เขาํไมมาํตาํมนัด

RecommendedMore from User

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 2Prapun Waoram230

Page 12: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 3Prapun Waoram299

รวมแนวขอสอบความรูความสามารถทัว่ไป ภาค ก. ของก.พ. และสวนราชการอื่นๆ…Prapun Waoram61,655

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 4Prapun Waoram246

แบบทดสอบความรูความสามารถทัว่ไป (เฉลย)…Peter Dontoom58,910

Page 13: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 6Prapun Waoram288

แนวขอสอบ กพ-คาํอปุมา-อปุไมย-พรอมเฉลย…Prapun Waoram60,025

ขอสอบอนกุรม (Number series) พรอมเฉลยจาํนวน 50 ขอ…Prapun Waoram119,049

แนวขอสอบ ก.พ. ชดุที่ 3Prapun Waoram225

Page 14: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

ขอสอบความรูทัว่ไปPrapun Waoram35,147

แนวขอสอบภาค ก. ก.พ. ชดุที่ 5Prapun Waoram163

แบบทดสอบความรูความสามารถทัว่ไป…Peter Dontoom42,275

ขอสอบภาค ก กพ ป 2557 หลักสตูรใหม ภาษาอังกฤษ ขอสอบความรูความสามารถทัว่ไป ว…ุ…

บ.ชทีราม จก.278,424

Page 15: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบ ภาค ก. ชดุที่ 1 ( วเิคราะหและสรปุเหตผุล )…Prapun Waoram34,379

แนวขอสอบ กพ-สอบ-กพ-ภาค-ก.-วชิาภาษาไทย…Prapun Waoram11,538

แนวขอสอบความรูความสามารถทัว่ไป 120 ขอ (สอบครดูอทคอม ตวิสอบครผููชวย)…

สอบครดูอทคอม เวบ็เตรยีมสอบ56,265

แนวขอสอบภาษาอังกฤษ ภาค ก. ก.พ. ป.ตรแีละโท…Prapun Waoram22,467

แนวขอสอบ ก.พ. ชดุที่ 2Prapun Waoram223

แนวขอสอบ ก.พ. ชดุที่ 1Prapun Waoram747

Page 16: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบ ก.พ. ชดุที่ 6Prapun Waoram329

แนวขอสอบ ก.พ. ชดุที่ 5Prapun Waoram254

ขอสอบ กพ ป 57 คูมอืสอบภาค ก กพ ความรูความสมารถทัว่ไป หนังสอิสอบ E-BOOK ภาค ……

บ.ชทีราม จก.266,401

อนกุรม (Number series) พรอมเอกสารประกอบการบรรยาย 3…Prapun Waoram41,254

อปุมาอปุไมยPrapun Waoram19,468

แนวขอสอบภาษาไทย

ประพันธ เวารัมย แบงปนความรูสความกาวหนา49,649

Page 17: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

เเนวขอสอบ ภาค ก.ก.พ._(ป.ตร)ี_ระดับปฏบัิตกิาร…Prapun Waoram9,722

แนวขอสอบ ก.พ. ชดุที่ 4Prapun Waoram195

คูมอืสอบ แนวขอสอบ ภาค ก กพ ป 2557 ปรญิาตร ีE-BOOK ขอสอบความรูความสามารถทั…่…

บ.ชทีราม จก.195,616

แนวขอสอบภาค ก. ความรูความสามารถทัว่ไป ชดุที่ 2…Prapun Waoram2,708

ขอสอบเงื่อนไขทางภาษาPrapun Waoram8,894

ความรูความสามารถทัว่ไป (ภาค ก.)องคกรปกครองสวนทองถิ่น ชดุที่ 1 จาํนวน 50 ขอ…Prapun Waoram125,821

Page 18: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

ศัพทภาษาอังกฤษเตรยีมสอบก.พ.และสวนราชการอื่นๆ…Prapun Waoram25,978

ขอสอบเงื่อนไขสัญลักษณPrapun Waoram15,332

แนวขอสอบ ภาค ก. ชดุที่ 3 ( ภาษาไทย )…Prapun Waoram18,783

แนวขอสอบความรูความสามารถทัว่ไป เตรยีมสอบทองถิ่นและสวนราชการอื่นๆ จาํนวน 91 ……Prapun Waoram63,251

เทคนคิการทาํขอสอบอปุมาอปุไมย…Prapun Waoram23,619

ขอสอบตรรกศาสตรPrapun Waoram46,155

Page 19: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบภาค ก. ของ ก.พ.Prapun Waoram1,134

แนวขอสอบเหตกุารณปจจบัุนที่เคยออก (Pun)…

ประพันธ เวารัมย แบงปนความรูสความกาวหนา33,834

แนวขอสอบ ความรูทัว่ไป และมาตรฐานวชิาชพี…

ปกรณกฤช ออนไลน112,819

แนวขอสอบความรูความสามารถทัว่ไป (2015)เงื่อนไขภาษา…Prapun Waoram1,926

แนวขอสอบทองถิ่น 2015 บรรยายโ�……Prapun Waoram314

ประกาศ ก.ท.จ.บรุรีัมย เรื่อง �……Prapun Waoram199

Page 20: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

ซักซอมแนวทางการดาํเนนิงานใ�……Prapun Waoram24

การปรับปรงุ แกไข และเพิ่มเ��……Prapun Waoram41

ดานที่ 4 1 โครงการ มหีลายกจิกรรม นับเปน 1 กจิกรรม…Prapun Waoram40

ประกาศ ก.อบต.บรุรีัมย เรื่อง กาํหนดหลักเกณฑ เงื่อนไขและวธิกีารกาํหนดเงนิประโยชน……Prapun Waoram19

แนวขอสอบกระจายอาํนาจPrapun Waoram67

แนวขอสอบคณติศาสตรPrapun Waoram69

Page 21: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบพ.ร.บ. ขอมลูขาวสารของราชการ พ.ศ. 2540…Prapun Waoram42

แนวขอสอบภาษาไทยPrapun Waoram51

แนวขอสอบภาษาอังกฤษPrapun Waoram55

แนวขอสอบเรยีงประโยคPrapun Waoram72

แนวขอสอบเรยีงประโยคขอความ…Prapun Waoram30

แนวขอสอบอปุมาอปุไมยPrapun Waoram27

Page 22: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบนักพัฒนาชมุชนPrapun Waoram61

แนวขอสอบนักพัฒนาเกาPrapun Waoram26

นโยบายยิ่งลักษณ2Prapun Waoram27

ทฤษฎแีละหลักการพัฒนาชมุชนPrapun Waoram29

1Prapun Waoram18

งวดวันเสารที่ 16 พฤษภาคม 2558 อ.��……Prapun Waoram240

Page 23: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวขอสอบครูPrapun Waoram47

แนวขอสอบคร ูชดุที่ 1Prapun Waoram34

แนวขอสอบ พระราชกฤษฎกีาวาด……Prapun Waoram68

อาํนาจหนาที่นายอาํเภอPrapun Waoram53

แนวขอสอบทองถิ่น 2015 บรรยายโดยประพันธ เวารัมย…Prapun Waoram305

ผลการหารอืเกี่ยวกับการกาํหนดประโยชนตอบแทนอื่นเปนกรณพีเิศษสาํหรับพนักงานสวนทอง……Prapun Waoram117

Page 24: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

การเบกิจายเงนิคาตอบแทนนักเรยีน นักศกึษา ที่ชวยปฏบัิตงิานราชการ…Prapun Waoram37

รายงานการประชมุคณะกรรมการพัฒนาองคการบรหิารสวนตาํบลสวายจกี ครัง้ที่-1-2558…Prapun Waoram84

แนวทางการปฏบัิตงิานขององคการบรหิารสวนตาํบล…Prapun Waoram526

มาตรการชะลอการสอบแขงขันขององคกรปกครองสวนทองถิ่นเปนการชัว่คราว…Prapun Waoram325

การแตงกายชดุขาราชการPrapun Waoram314

แบบประเมนิมาตรฐานการปฏบัิตริาชการ ขององคกรปกครองสวนทองถิ่น ประจาํป 2558 ดาน……Prapun Waoram3,068

Page 25: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แบบประเมนิมาตรฐานการปฏบัิตริาชการ ขององคกรปกครองสวนทองถิ่น ประจาํป 2558 ดาน……Prapun Waoram3,567

แบบประเมนิมาตรฐานการปฏบัิตริาชการ ขององคกรปกครองสวนทองถิ่น ประจาํป 2558 ดาน……Prapun Waoram1,720

แบบตดิตามผลการปฏบัิตริาชกา�……Prapun Waoram976

แบบประเมนิมาตรฐานการปฏบัิตริาชการ ขององคกรปกครองสวนทองถิ่น ประจาํป 2558 ดาน……Prapun Waoram1,480

แจงสงโครงการเพื่อบรรจไุวในแผนพัฒนาสามป…Prapun Waoram185

แจงสงโครงการเพื่อบรรจแุผนพัฒนาสามป 2559-2561…Prapun Waoram200

Page 26: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ

แนวทางและหลักเกณฑการจัดทาํและประสานแผนพัฒนาสามป (พ.ศ.2558 2560) ขององคกรปกครอ……Prapun Waoram229

ENGLISHEnglishFrançaisEspañolPortuguês (Brasil)Deutsch

EnglishEspanolPortuguesFrançaisDeutsche

AboutCareersDev & APIPressBlogTermsPrivacyCopyrightSupport

LinkedIn Corporation © 2015

×Share this documentEmbed this documentLike this documentYou have liked this documentSave this document

Page 27: แนวข้อสอบภาค ก. ก.พ