Upload
landis
View
66
Download
1
Embed Size (px)
DESCRIPTION
ไฟฟ้าและแม่เหล็ก 1. อ. วัฒนะ รัมมะเอ็ด. กระแสไฟฟ้า( Elecric current ). ถ้าเรานำตัวนำที่มีประจุและมีศักย์ไฟฟ้าต่างกัน มาวางติดกันหรือใช้ลวดโลหะตัวนำเชื่อมต่อกัน ตัวนำที่มีประจุทั้งสองก็จะเกิดการถ่ายเทประจุระหว่างตัวนำทั้งสองผ่านลวดโลหะตัวนำ เรากล่าวว่ามี กระแสไฟฟ้า ในลวดตัวนำนั้น. - PowerPoint PPT Presentation
Citation preview
ไฟฟ�าและแม่เหล�ก 1
อ. วั�ฒนะ รั�ม่ม่ะเอ�ด
กรัะแสไฟฟ�า(Elecric current)
ถ้�าเรัาน�าตั�วัน�าที่��ม่�ปรัะจุ และม่�ศั�กย์#ไฟฟ�าตัางก�น ม่าวัางตั%ดก�นหรั&อใช้�ลวัดโลหะตั�วัน�าเช้&�อม่ตัอก�น ตั�วัน�าที่��ม่�ปรัะจุ ที่�*งสองก�จุะเก%ดการัถ้าย์เที่ปรัะจุ รัะหวัางตั�วัน�าที่�*งสองผ่านลวัดโลหะตั�วัน�า เรัากลาวัวัาม่� กรัะแสไฟฟ�า ในลวัดตั�วัน�าน�*น
แหลงก�าเน%ดไฟฟ�า (Source of electromotive force)
คื&อ แหลงก�าเน%ดที่��ที่�าให�เก%ดคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัะหวัางปลาย์ที่�*งสองของตั�วัน�าอย์.ตัลอดเวัลาที่�าให�เก%ดกรัะแสไฟฟ�าผ่านตั�วัน�าได�ตัลอดเวัลา ซึ่0�งได�แก ถ้านไฟฉาย์ แบตัเตัอรั�� เคืรั&�องก�าเน%ดไฟฟ�า เป3นตั�น
เซึ่ลล#ไฟฟ�าเคืม่� (electrochemical
cell)
เซึ่ลล#ไฟฟ�าเคืม่�ปรัะกอบด�วัย์ข�*วัไฟฟ�าบวักข�*วัไฟฟ�าลบ และสารัเคืม่�ภาย์ในเซึ่ลล# เม่&�อเก%ดปฏิ%ก%รั%ย์าเคืม่�ภาย์ในเซึ่ลล#จุะที่�าให�เก%ดคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัะหวัางข�*วัเซึ่ลล# เม่&�อตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าเคืม่�เข�าก�บวังจุรัไฟฟ�าจุะที่�าให�เก%ดกรัะแสไฟฟ�าในวังจุรัได�
เซึ่ลล#ไฟฟ�าอาจุแบงออกเป3น 2 ปรัะเภที่ - เซึ่ลล#ปฐม่ภ.ม่% (primary cell )
- เซึ่ลล#ที่ ตั%ย์ภ.ม่% (secondary cell )
เซึ่ลล#ไฟฟ�าปฐม่ภ.ม่%
เช้น ถ้าย์ไฟฉาย์ที่��วัๆไป เม่&�อใช้�ไปนานๆ คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าจุะลดลง
จุนกรัะที่��งใช้�ตัอไปไม่ได�
เซึ่ลล#ไฟฟ�าที่ ตั%ย์ภ.ม่%
เช้น พวักแบตัเตัอรั��รัถ้ย์นตั# ซึ่0�งเม่&�อใช้�จุนคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าลดลงแล�วั เรัาสาม่ารัถ้ที่�าให�คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าเพ%�ม่ข0*นได�โดย์การัอ�ด ไฟ หรั&อ ปรัะจุ ไฟ (charge) เซึ่ลล#ไฟฟ�าเคืม่�ในป:จุจุ บ�นม่�ช้น%ดรั.ปรัางและขนาดตัางๆก�น
ช้น%ด คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�า
รัะหวัางข�*วัเซึ่ลล#
( โวัลตั#)
รั.ปรัาง ตั�วัอย์างการัใช้�งาน
ก. เซึ่ลล#ปฐม่ภ.ม่%
สั�งกะสั�-คาร์บอน
อ�ลคาไลน
ล�เที�ยม
ข. เซึ่ลล#ที่ ตั%ย์ภ.ม่%
น�เก�ล - แคดเม�ยม
ตะก��ว- กร์ดก�ามะถั�น
1.5, 9 1.5, 9
2.9, 3.7
1.2
2 , 6 , 12 , 24
ทีร์งกร์ะบอก,สั��เหล��ยม
ทีร์งกร์ะบอก,สั��เหล��ยม
กลมแบน
กลมแบน
ทีร์งกร์ะบอก,สั��เหล��ยม
กล�องสั��เหล��ยม
ไฟฉาย ว�ทีย! นาฬิ�กา ฯลฯเป็%นชน�ดที��ใช(ก�นที��วไป็ ร์าคาถั)ก
อาย!ใช(งานสั�*นกล(องถั�ายร์)ป็ เคร์+�องค�ดเลข ว�ทีย!
เคร์+�องโกนหนวด ของเล�นเด.ก อาย!การ์ใช(งานนานกว�าเซลล สั�งกะสั� – คาร์บอน 2-7 เที�า
นาฬิ�กาข(อม+อ เคร์+�องค�ดเลข เคร์+�องกร์ะต!(นห�วใจ ม�ขนาดเล.กเบา อาย!การ์ใช(งานหลายป็1 ถั2งมากกว�า 10 ป็1 ป็3จจ!บ�นจ2งเป็%นที��น�ยมใช(ก�นอย�างแพร์�หลาย
ไฟฉาย ว�ทีย! นาฬิ�กา เคร์+�องค�ดเลข แฟลช
ร์ถัจ�กร์ยานยนต ร์ถัยนต เคร์+�องยนตที��วไป็อาย!การ์ใช(งานป็ร์ะมาณ 1 – 5 ป็1
โฟโตัเซึ่ล (Photoelectric
cell) ปรัะกอบด�วัย์หลอดส.ญญากาศั ผ่%วัด�านในข�าง
หน0�งฉาบด�วัย์สารัไวัแสง เช้น เซึ่ลล%เน�ย์ม่ ม่�ขาหลอดตัอวังจุรัก�บข�*วัลบของแบตัเตัอรั�� สวันข�*วัโลหะอ�กข�างหน0�งตัอวังจุรัก�บข�*วับวัก
ถ้�าหลอดโฟโตัเซึ่ลล#ได�รั�บแสงจุะม่�อ%เล�กตัรัอนหล ดม่าส.ข�*วับวักที่�าให�กรัะแสไฟฟ�าไหลผ่านวังจุรัได� และกรัะแสไฟฟ�าน�*จุะแปรัผ่�นตัาม่คืวัาม่เข�ม่ของแสง ใช้�ปรัะโย์ช้น#ในการัฉาย์ภาพย์นตั#เส�ย์งในฟ<ล#ม่ หรั&อที่�าสวั%ตัซึ่#อ�ตัโนม่�ตั%และป�องก�นการัโจุรักรัรัม่ตั.�น%รัภ�ย์
เคืรั&�องก�าเน%ดไฟฟ�า (generator)
เคืรั&�องก�าเน%ดไฟฟ�าเป3นอ ปกรัณ์#ที่��แปลงพล�งงานกลให�เป3นพล�งงานไฟฟ�าโดย์อาศั�ย์หล�กการัเหน��ย์วัน�าแม่เหล�กไฟฟ�า
เช้น ไดนาโม่ การัที่�างานเม่&�อที่�าให�แกนของไดนาโม่หม่ นจุะเก%ดคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าที่��ข�*วัที่�*งสองของไดนาโม่
คื.คืวับคืวัาม่รั�อน (thermocouple)
คื.คืวับคืวัาม่รั�อน คืวัาม่แตักตัางอ ณ์หภ.ม่%รัะหวัางรัอย์ตัอที่�าให�เก%ดคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัะหวัางโลหะที่�*งสอง จ2งเร์�ยกแหล�งก�าเน�ดไฟฟ6าชน�ดน�*ว�าคื.คืวับคืวัาม่รั�อน
เซึ่ลล#ส รั%ย์ะ (solar cell )
เซึ่ลล#ส รั%ย์ะ เป3นอ ปกรัณ์#ที่��เปล��ย์นพล�งงานแสง ให�เป3นพล�งงานไฟฟ�า น�าไปใช้�ก�บเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าหลาย์ช้น%ด เช้น นาฬิ%กา , เคืรั&�องคื%ดเลข, วั%ที่ย์ เป3นตั�น และม่�คืวัาม่พย์าย์าม่น�าไปใช้�เป3นพล�งงานในการัข�บเคืล&�อน รัถ้ย์นตั# เรั�ย์กวัา รัถ้ย์นตั#พล�งงานแสงอาที่%ตัย์# และย์�งม่�การัน�าเซึ่ลล#ส รั%ย์ะผ่ล%ตัพล�งงานไฟฟ�าส�าหรั�บใช้�ในช้ ม่ช้นที่��อย์.หางไกลบางแหงอ�กด�วัย์
แหลงก�าเน%ดไฟฟ�าจุากส%�งม่�ช้�วั%ตั
จากการ์ศึ2กษาพบว�าสั�ตวบางชน�ด เช�น ป็ลาไหลไฟฟ6า สัามาร์ถัผล�ตกร์ะแสัไฟฟ6าได( เม+�อม�น ตกใจต�อศึ�ตร์) โดยม�เซลลพ�เศึษสัามาร์ถัที�าให(เก�ดความต�างศึ�กยร์ะหว�างห�วก�บหางของม�น ซ2�งบางคร์�*งอาจม�ความต�างศึ�กยสั).เป็%นร์(อยๆโวลตนอกจากน�*นย�งพบว�า ถั(าว�ดความต�างศึ�กยไฟฟ6าร์ะหว�างจ!ด 2 จ!ด บนร์�างกายมน!ษย เช�น ที��แขนและขา จะพบว�าม�ความต�างศึ�กยไฟฟ6าเก�ดข2*นที!กคร์�*งที��ห�วใจเต(นจากความร์) (น�*ได(ถั)กน�ามาพ�ฒนาในการ์สัร์(างเคร์+�องช�วยตร์วจห�วใจที��เร์�ยกว�า อ%เล�กโที่รัคืารั#ด%โอกรัาฟ (eletrocardiograph) ซ2�งช�วยให(แพทียสัามาร์ถัว�น�จฉ�ยโร์คห�วใจได(อย�างถั)กต(อง
การัน�าไฟฟ�า
ตั�วักลางที่��ย์อม่ให�ปรัะจุ ไฟฟ�าเคืล&�อนที่��ผ่านได�วัา เรัาเรั�ย์กวัา ตั�วัน�าไฟฟ�า ขณ์ะที่��ม่�กรัะแสไฟฟ�าในตั�วัน�าเรัากลาวัวัา ม่�การัน�าไฟฟ�า ในห�วัข�อน�*เรัาจุะศั0กษาการัน�าไฟฟ�าในตั�วัน�าช้น%ดตัางๆ เก%ดจุากการัเคืล&�อนที่��ของปรัะจุ ช้น%ดใด
การัน�าไฟฟ�าในโลหะโดยป็กต�โลหะที!กชน�ดเป็%นต�วน�าไฟฟ6าที��ด�เน+�องจากม�อ%เล�กตัรัอนอ%สรัะ
(Free electron) ซ2�งม�ได(ถั)กย2ดไว(ก�บอะตอมใดอะตอมหน2�ง โดยอ�เล.กตร์อนเหล�าน�*จะเคล+�อนที��โดยเสัร์�ไม�เป็%นร์ะเบ�ยบ ไม�ม�ที�ศึทีางแน�นอน การ์เคล+�อนที��แบบน�*เร์�ยกว�า การัเคืล&�อนที่��แบบบรัาวัน#
(Brownian movement) ด�งร์)ป็ 6
แตัเม่&�อที่�าให�ปลาย์ที่�*งสองของแที่งโลหะม่�คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�า เช้นไวัตัอไวั�ก�บแหลงก�าเน%ดไฟฟ�า จุะที่�าให�เก%ดสนาม่ไฟฟ�าภาย์แที่งโลหะ แรังจุากสนาม่ไฟฟ�า จุะที่�าให�อ%เล�กตัรัอน เคืล&�อนที่��อย์างเป3นรัะเบ�ย์บ คืวัาม่เรั�วัเฉล��ย์ของ อ%เล�กตัรัอนอ%สรัะจุะไม่เป3นศั.นย์#เรั�ย์กวัา คืวัาม่เรั�วัลอย์เล&�อน ( drife velocity) จุ0งม่�กรัะแสไฟฟ�าในแที่งโลหะด�งน�*น กรัะแสไฟฟ�าในโลหะจุ0งเก%ดจุากการัเคืล&�อนที่��ของอ%เล�กตัรัอนอ%สรัะ
การัน�าไฟฟ�าในหลอดส ญญากาศั
หลอดสั!ญญากาศึเป็%นหลอดแก(วซ2�งสั)บอากาศึภายในออกเก+อบหมดภายในหลอดม�ข� *วสั�าหร์�บให(อ�เล.กตร์อน เร์�ยกว�า แคืโที่ด (cathode ) การ์ให(อ�เล.กตร์อนที�าได(โดยการ์ให(ความร์(อนแก�แคโทีด โดยการ์ต�อความต�างศึ�กยไฟฟ6าเข(าไสั(หลอด ซ2�งอย)�ภายในแคโทีด ที�าให(ไสั(หลอดและแคโทีดร์(อน อ�เล.กตร์อนจะหล!ดออกจากแคโทีด เป็%นอ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะ สั�วนข�*วสั�าหร์�บร์�บอ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะ เร์�ยกว�า แอโนด( anode) โดยป็กต�ม�กม�ร์)ป็ร์�างเป็%นแผ�นธร์ร์มดา บางที��เร์�ยกว�า แพลตั ( plate ) ด�งร์)ป็
การ์ที�าให(อ�เล.กตร์อนหล!ดจากแคโทีดของหลอดสั!ญญากาศึนอกจากใช(ความร์(อนแล(วย�งอาจที�าได(โดยใช(โลหะบางชน�ด ซ2�งม�สัมบ�ต�เม+�อได(ร์�บแสังจะให(อ�เล.กตร์อนหล!ดเป็%นอ�สัร์ะออกมา เร์�ยกหลอดสั!ญญากาศึที��ที�างานอาศึ�ยหล�กการ์น�*ว�าหลอดโฟโตัอ%เล�กที่รั%ก ( photoelectric tube) ด�งร์)ป็
การัน�าไฟฟ�าในอ%เล�กโที่รัไลตั#
อ%เล�กโที่รัไลตั# ( electrolyte ) เป็%นสัาร์ละลายที��สัามาร์ถัน�าไฟฟ6าได( ซ2�งอาจเป็%น
สัาร์ละลายของกร์ดเบสัหร์+อเกล+อ เช�น สัาร์ละลายก�ามะถั�น สัาร์ละลายโซเด�ยมไฮดร์อกไซดและสัาร์ละลายเกล+อเง�นไนเตร์ด หล�กการ์น�าไฟฟ6าของสัาร์ละลายอ�เล.กโทีร์ไลตเม+�อจ!�มแที�งโลหะ 2 แที�งที��ม�ความต�างศึ�กยไฟฟ6า โดยต�อเข(าก�บข�*ว แบตเตอร์�ลงไป็ในสัาร์ละลายอ�เล.กโทีร์ไลต จะม�ผลที�าให(สัาร์ละลายแตกต�วเป็%นไอออนโดย ไอออนบวกเคล+�อนที��ไป็ข�*วไฟฟ6าลบ สั�วนไอออนลบเคล+�อนที��ไป็ย�งข�*วไฟฟ6าบวก ด�งร์)ป็ ซ2�งที�าให(เก�ดกร์ะแสัไฟฟ6าข2*น ด�งน�*น กรัะแสไฟฟ�าในอ%เล�กโที่รัไลตั#จุ0งเก%ดจุากการัเคืล&�อนที่��ของไอออนบวักและไอออนลบ
การัน�าไฟฟ�าในหลอดบรัรัจุ แก@ส
• หลอดบร์จ!แก@สั (gas-filled tube) เป็%นอ!ป็กร์ณที��ที�าให(อากาศึหร์+อแก@สัน�าไฟฟ6าได( ม�ล�กษณะเป็%นหลอดแก(ว ซ2�งสั)บอากาศึภายในออกและบร์ร์จ!แก@สับางชน�ด เช�น ไฮโดร์เจน น�ออน อาร์กอน หร์+อไอป็ร์อทีลงไป็ในป็ร์�มาณเล.กน(อย ความด�นของแก@สัในหลอดแก(วต��ากว�าความด�นบร์ร์ยากาศึมาก ที��ป็ลายที�*งสัองของหลอดม�ข�*วไฟฟ6า ถั(าให(ความตางศึ�กยไฟฟ6าร์ะหว�างข�*วที�*งสัองสั)งเพ�ยงพอ จะที�าให(โมเลก!ลของแก@สั แตกต�วเป็%นไอออนบวกและอ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะ แล(วเคล+�อนที��ไป็ย�งข�*วไฟฟ6า ที�าให(เก�ดกร์ะแสัไฟฟ6าในหลอดบร์ร์จ!แก@สัด�งร์)ป็ ด�งน�*น กรัะแสไฟฟ�าในหลอดบรัรัจุ แก@สจุะเก%ดจุากการัเคืล&�อนที่��ของอ%เล�กตัรัอนอ%สรัะและไอออนบวัก
การัน�ากรัะแสไฟฟ�าในสารัก0�งตั�วัน�า
สารัก0�งตั�วัน�า ( semiconductor) เป็%นสัาร์ที��ม�สัมบ�ต�ทีางไฟฟ6าร์ะหว�างต�วน�าและฉนวน
เม+�อพ�จาร์ณาโคร์งสัร์(างของสัาร์ก2�งต�วน�าบร์�สั!ทีธ�A ( intrinsic semiconductor ) เช�น ซ�ล�กอน จะ
พบว�า เวเลนซอ�เล.กตร์อนของแต�ละอะตอมม�พ�นธะก�บเวเลนซอ�เล.กตร์อนข(างเค�ยงด�งร์)ป็ 12 จ2งไม�ม�อ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะที��จะที�าให(เก�ดการ์เหน��ยวน�าไฟฟ6าได( แต�ถั(าม�สันามไฟฟ6าที��ม�ความเข(มมากพอผ�านเข(าไป็ จะที�าให(ม�อ�เล.กตร์อนบางต�วในพ�นธะหล!ดออกมากลายเป็%นอ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะ และเก�ดที��ว�างเร์�ยกว�า โฮล (Hole ) ด�งร์)ป็
เน+�องจากกร์ะแสัไฟฟ6าในต�วกลางต�างๆเก�ดจากการ์เคล+�อนที��ของอน!ภาคที��ม�ป็ร์ะจ!ไฟฟ6า ได(แก� ไอออนบวก ไอออนลบ และอ�เล.กตร์อนจ2งม�การ์ก�าหนดขนาดและที�ศึทีางของกร์ะแสัไฟฟ6าไว(ด�งน�*
ขนาดของกรัะแสไฟฟ�าในตั�วักลางใดๆ เที่าก�บปรั%ม่าณ์ปรัะจุ ไฟฟ�าที่��ผ่านพ&*นที่��ภาคืตั�ดขวัางของตั�วักลางในหน0�งหนวัย์เวัลา
ที่%ศัที่างของกรัะแสไฟฟ�า ก�าหนดให�ม่�ที่%ศัตัาม่การัเคืล&�อนที่��ของปรัะจุ บวักและตัรังข�าม่ก�บการัเคืล&�อนที่��ของปรัะจุ ลบ
จากร์)ป็ ก�าหนดให( Q เป็%นป็ร์�มาณป็ร์ะจ!ที�*งหมด ( บวกและลบ ) ที��
ผ�านภาคต�ดขวาง ของต�วกลางหน�วย เป็%นค)ลอมบ ( C ) t เป็%นเวลาที��ป็ร์ะจ!เคล+�อนที��ผ�านภาคต�ด
ขวางหน�วยเป็%นว�นาที� (s) I เป็%นกร์ะแสัไฟฟ6าในต�วกลาง
จุากน%ย์าม่ จะได(ว�า
QI
t
หนวัย์ของกรัะแสไฟฟ�า เป3น คื.ลอม่บ#ตัอวั%นาที่�
หร์+อเร์�ยกว�า แอม่แปรั# ( A )
• โดยพ�จาร์ณาจาก
สัมมต�ให(อ�เล.กตร์อนที!กต�วเคล+�อนที��ด(วยขนาดความเร์.วลอยเล+�อน v
ในช�วงเวลา t อ�เล.กตร์อนอย)�ในสั�วนของต�วน�ายาว vtถั(าพ+*นที��ภาคต�ดขวางของลวดค+อ Aด�งน�*นในช�วงเวลา t อ�เล.กตร์อนอย)�ในสั�วนของลวดป็ร์�มาตร์
vtAให(ป็ร์�มาตร์ของลวด 1 หน�วย ม�จ�านวนอ�เล.กตร์อน n
ต�วด�งน�*นลวดป็ร์�มาตร์ vtA หน�วยม�จ�านวนอ�เล.กตร์อน nvtA
ต�วให(อ�เล.กตร์อน 1 ต�วม�ป็ร์ะจ! eด�งน�*นอ�เล.กตร์อน nvtA ต�วม�ป็ร์ะจ! nevtA
ด�งน�*น Q = nevtA
จาก I = Qt
จะได(ว�า I = nevtA
t
I nevA
โดยI ค+อ กร์ะแสัไฟฟ6าในลวดต�วน�า (A)n ค+อ จ�านวนอ�เล.กตร์อนในหน2�งหน�วย ป็ร์�มาตร์
( อน!ภาค / m 3 )e ค+อ ป็ร์ะจ!ของอ�เล.กตร์อน (1.6 x 10 - 19 )v ค+อ ความเร์.วลอยเล+�อนของอ�เล.กตร์อน ( m/s)A ค+อ พ+*นที��ภาคต�ดขวางของลวดต�วน�า ( m 2 )
1.เม่&�อกรัะแสไฟฟ�าสม่��าเสม่อ
จาก
ด�งน�*น
QI
t
Q I t
2.เม่&�อกรัะแสไฟฟ�าไม่สม่��าเสม่อ
พ�จาร์ณาจากกร์าฟร์ะหว�างกร์ะแสัไฟฟ6าก�บเวลาก . เม่&�อกรัะแสไฟฟ�า เปล��ย์นแปลงอย์างสม่��าเสม่อ จากเม+�อ I ไม�คงที�� อาจหาป็ร์�มาณ
ป็ร์ะจ!ไฟฟ6าได(จาก Q = I เฉล��ย × t
เน+�องจาก I เป็ล��ยนแป็ลงสัม��าเสัมอ
Q I t
I เฉล��ย = I ต(น + I ป็ลาย
2
ด�งน�*น Q = ( 0 + I ) t 2
… ( 2 )
จากพ+*นที��ใต(กร์าฟ
1
2Q It
1
2I t
ข. เม่&�อกรัะแสไฟฟ�าไม่สม่��าเสม่อ
ที�านองเด�ยวก�น อาจหาป็ร์ะจ!ไฟฟ6าได(จากพ+*นที��ใต(กร์าฟในช�วงเวลาที��ต(อง
สรั ป จุากกรัาฟรัะหวัางกรัะแสไฟฟ�าก�บเวัลา คืาพ&*นที่��ใตั�กรัาฟ คื&อ
ปรั%ม่าณ์ปรัะจุ ที่��ผ่านตั�วัน�าน�*น
สรั ป จุากกรัาฟรัะหวัางกรัะแสไฟฟ�าก�บเวัลา คืาพ&*นที่��ใตั�กรัาฟ คื&อ
ปรั%ม่าณ์ปรัะจุ ที่��ผ่านตั�วัน�าน�*น
การัหาจุ�านวันอ%เล�กตัรัอน (N ) เม่&�อรั.� ปรั%ม่าณ์ปรัะจุ ที่�*งหม่ด (Q ) และปรัะจุ อ%เล�กตัรัอน (e)
ได�วัา QN
e
กฎของโอห#ม่และคืวัาม่ตั�านที่าน
George Simon Ohm น�กฟCสั�กสัชาวเยอร์ม�น พบว�าเม+�อที�าให(ป็ลายที�*งสัองของลวดโลหะม�ความต�างศึ�กยไฟฟ6า จะม�กร์ะแสัไฟฟ6าโลหะน�* ซ2�งจากการ์ทีดลองจะได(ความสั�มพ�นธของกร์ะแสัไฟฟ6าและความต�างศึ�กยด�งกร์าฟร์)ป็
กร์าฟร์ะหว�างกร์ะแสัไฟฟ6าและความต�างศึ�กยของลวดโลหะ
จากกร์าฟ จะได(ว�า กรัะแสไฟฟ�าที่��ผ่านลวัดโลหะม่�คืาแปรัผ่�นตัรังก�บคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัะหวัางปลาย์ที่�*งสองของลวัดโลหะ
จ2งเข�ยนเป็%นความสั�มพ�นธได(ว�า I V
I kVด�งน�*น ( k เป3นคืาคืงตั�วัของการัแปรัผ่�น )
หรั&อ 1V
I k
ถ้�าให�
1R
k
จะได(ว�า เร์�ยกว�า กฎของโอห#ม่
โดย์กฎของโอห#ม่ม่�ใจุคืวัาม่วัา ที่��อ ณ์หภ.ม่%คืงตั�วั กรัะแสไฟฟ�าที่��ผ่านตั�วัน�าหน0�งจุะม่�คืาแปรัผ่�นตัรังก�บคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัะหวัางปลาย์ที่�*งสองของตั�วัน�าน�*น
VR
I
จากกฎของโอหม เม+�อ R เป็%นค�าคงต�วเร์�ยกว�า คืวัาม่ตั�านที่าน
จาก ความต(านทีานม�หน�วยเป็%นโวลตต�อแอมแป็ร์ หร์+อ
เร์�ยกว�า โอห#ม่ ซ2�งแทีนด(วย
สั�ญล�กษณ “ ” และเร์าสัามาร์ถัน�ยามได(ว�า คืวัาม่ตั�านที่าน 1 โอห#ม่ คื&อคืวัาม่ตั�านที่านของ ตั�วัน�า ซึ่0�งเม่&�อตัอปลาย์ที่�*งสองของตั�วัน�าน�*นเข�าก�บคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�า 1 โวัลตั# จุะม่�กรัะแสไฟฟ�าผ่านตั�วัน�า
น�*น 1 แอม่แปรั#
VR
I
เม+�อศึ2กษาความสั�มพ�นธร์ะหว�างกร์ะแสัไฟฟ6าและความต�างศึ�กยไฟฟ6าของต�วน�าชน�ดต�างๆ ที��กล�าวมาแล(ว โดยให(อ!ณหภ)ม�คงต�วจะได(ความสั�มพ�นธ ด�งร์)ป็
กร์าฟร์ะหว�างกร์ะแสัไฟฟ6าและความต�างศึ�กยไฟฟ6าของต�วน�าชน�ดต�างๆ
สรั ป เม่&�ออ ณ์หภ.ม่%คืงตั�วักฎของโอห#ม่ใช้�ได�ก�บตั�วัน�าที่��เป3นโลหะเที่าน�*น
คืวัาม่ตั�านที่านไฟฟ�า ( electrical resistance )
คืวัาม่ตั�านที่านไฟฟ�า เป็%นการ์บอกค!ณสัมบ�ต�ของสัาร์ในการ์ต(านกร์ะแสัไฟฟ6าที�� ผ�านได(มากหร์+อน(อยเพ�ยงใด
โดย์สารัที่��คืวัาม่ตั�านที่านม่าก กรัะแสผ่านได�น�อย์ สวันที่��ม่�คืวัาม่ตั�านที่านน�อย์ กรัะแสผ่านไปได�ม่าก
ตั�วัตั�านที่าน เป็%นอ!ป็กร์ณที��ช�วยป็ร์�บความต(านทีานให(ก�บวงจร์ เพ+�อช�วยป็ร์�บให(กร์ะแสัไฟฟ6า หร์+อ ความต�างศึ�กยไฟฟ6า พอเหมาะก�บวงจร์น�*นๆ ชน�ดของต�วต(านทีานแบ�งออกเป็%น 2 ชน�ดใหญ�
1. ตั�วัตั�านที่านคืาคืงตั�วั ( fixed resistor)
2. ตั�วัตั�านที่านแปรัคืา (variable resistor )
1. ตั�วัตั�านที่านคืาคืงตั�วั ( fixed resistor)
เป็%นต�วต(านทีานที��ม�ค�าความต(านทีานคงต�ว ม�กพบในวงจร์ไฟฟ6าและในวงจร์อ�เล.กทีร์อน�กสัที��วไป็ ซ2�งต�วต(านทีานป็ร์ะเภทีน�*ที�าจากผงคาร์บอนอ�ดแน�นเป็%นร์)ป็ทีร์งกร์ะบอกเล.กๆ สั�ญล�กษณที��ใช(แทีนต�วต(านทีานค�าคงต�วในวงจร์ไฟฟ6า ค+อ... โดยค�าความต(านทีาน จะบอกด(วยแถับสั�ที��เข�ยนไว(บนต�วต(านทีาน ด�งร์)ป็
โดยแถับสั�ที��คาดไว(บนต�วต(านทีานม�ความหมายด�งน�*แถ้บส�ที่�� 1 ซ2�งอย)�ใกล(ขาข(างใดข(างหน2�งมากที��สั!ด บอกเลขต�วแร์กแถ้บส�ที่�� 2 บอกเลขต�วที�� 2แถ้บส�ที่�� 3 บอกเลขยกก�าล�งของสั�บที��ต(องน�าไป็ค)ณก�บเลขสัองต�วแร์กแถ้บส�ที่�� 4 บอกความคาดเคล+�อนของค�าความต(านทีานที��อ�านได(จากสัามแถับแร์กโดยบอกเป็%นร์(อยละ
ส�ตัางๆที่��ใช้�บอกคืาคืวัาม่ตั�านที่านแสดงในตัารัาง
สั� แถับที�� 1 แทีนเลข
แถับที�� 2 แทีนเลข
แถับที�� 3 ค)ณด(วย
ความคลาดเคล+�อน
ด�าน�*าตาลแดงสั(ม
เหล+องเข�ยว
น�*าเง�นม�วงเทีาขาวทีองเง�น
0123456789--
0123456789--
1101
102
103
104
105
106
107
108
109
10- 1
10- 2
น�*าตาล = 1 % แดง = 2%ทีอง = 5%เง�น = 10%ไม�ม�แถับ= 20%
ตั�วัอย์างที่�� 1 ต�วต(านทีานที��ม�แถับสั�แดงเข�ยว , แดง ,ทีอง
หมายถั2ง 25R = 102 2500
แถ้บส ดที่�าย์ หม่าย์ถ้0ง ผ�ดพลาดไม�เก�น 5
ตัอบ น��นคื&อ ความต(านทีานม�ค�าร์ะหว�าง 2375
- 2625 โอหม
ตั�วัอย์างที่�� 2 จากร์)ป็ที��ก�าหนดให( จงหาว�าต�วต(านทีานม�ค�าก��โอหม
ก. 50 5 ข. 50 10 ค . 500 25 ง . 500 50
เฉลย์ข�อ ง. แนวัคื%ด จะเข�ยนได(ว�า = 50 10x 1 %10
500= 10% 500
500 50
500100
10
ตั�วัอย์างที่�� 3 ความต(านทีานต�วหน2�งม�แถับสั�ด�งร์)ป็และค�าความต(านทีานค+อ
ก. 55x103 20% ข. 3x105
5% ค. 35 5% ง. 3.5
20%เฉลย์ ข�อ ง.แนวัคื%ด สั�สั(ม = 3
เข�ยว = 5 ต�าแหน�ง สัาม ทีอง = x 10-1
ความต(านทีาน 35x10-1 หร์+อ 3.5 ไม�ม�ข�ดที�� สั�� แสัดงว�า error 20%
ตั�วัอย์างที่�� 4 ก�าหนดให( แถับสั�บอกความต(านทีาน ด�า = 0, น�*าตาล = 1 , แดง = 2, ทีอง = -1
แถับสั�บอกความคลาดเคล+�อน แดง = 2% ทีอง = 5% ไม�แถับสั� 20%
ถั(าต(องการ์ความต(านทีาน ขนาด 196 - 204 จงต(องเล+อกต�วต(านทีานที��ม�แถับสั�ป็ร์ากฎอย�างไร์เฉลย์ แนวัคื%ด
แถับที�� 1 ค+อสั�….ด�า……….. แถับที�� 2
ค+อสั�….แดง……… แถับที�� 3
ค+อ สั� …แดง…….. แถับที�� 4
ค+อ สั� …แดง……..
2. ตั�วัตั�านที่านแปรัคืา (variable resistor )
เป็%นต�วต(านทีานที��สัามาร์ถัป็ร์�บค�าความต(านทีานมาก , น(อยได( เพ+�อป็ร์ะโยชนใช(ในการ์ควบค!มป็ร์�มาณกร์ะแสัไฟฟ6าในวงจร์ไฟฟ6า สั�ญล�กษณที��ใช(แทีนต�วต(านทีานแบบแป็ร์ค�า ค+อ ต�วต(านทีานแป็ร์ค�าที��ใช(ก�นที��วไป็ ป็ร์ะกอบด(วยแถับความต(านทีาน ซ2�งอาจที�าด(วยแกร์ไฟตหร์+อลวดพ�นต�อก�บขา 1 และ 3 และหน(าสั�มผ�สัต�อก�บขา 2 ด�งร์)ป็ การ์ป็ร์�บเป็ล��ยนความต(านทีาน ที�าได(โดยการ์เล+�อนหน(าสั�มผ�สัไป็บนแถับความต(านทีาน
ไดโอด ( diode)
เป็%นอ!ป็กร์ณชน�ดหน2�งที��ใช(ในวงจร์อ�เล.กทีร์อน�กสัที��วๆไป็ ไดโอดที�าจากสัาร์ก2�งต�วน�า
ซ2�งม�ร์ายละเอ�ยดด�งน�*สารัก0�งตั�วัน�าเป็%นสัาร์ที��ม�ค!ณสัมบ�ต�ร์ะหว�างต�วน�าและฉนวน
จ2งเร์�ยกว�า สารัก0�งตั�วัน�า เช�น ซ�ล�กอน และ เจอร์เมเน�ยม โดยที��อ!ณหภ)ม�ต��า แร์งย2ดเหน��ยวร์ะหว�างน�วเคล�ยสัก�บอ�เล.กตร์อนค�อนข(างมากจ2งไม�ม�อ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะ ด�งน�*นถั(าต�อสัาร์น�*เข(าก�บความต�างศึ�กยภายนอก ก.จะไม�ม�กร์ะแสัไฟฟ6าเก�ดข2*น จงพฤต�ต�วเป็%นเป็%นฉนวน แต�ถั(าอ!ณหภ)ม�สั)งข(น แร์งย2ดเหน��ยวจะลดลง ที�าให(อ�เล.กตร์อนจ�านวนหน2�งหล!ดออกจากอะตอมเป็%นอ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะเม+�อม�ความต�างศึ�กยจากภายนอกอ�เล.กตร์อนจะเก�ดการ์เคล+�อนที��ที�าให(เก�ดกร์ะแสัไฟฟ6าข(นแต�ในป็ร์�มาณน(อยขณะน�*จ2งป็ร์ะพฤต�ต�วเป็%นต�วน�าแต�ไม�ค�อยด�
ช้น%ดของสารัก0�งตั�วัน�า
เน+�องจากสัาร์ก2�งต�วน�าที��บร์�สั!ทีธ�A น�*ม�อ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะน(อย กร์ะแสัไฟฟ6าที��ผ�านจ2งม�น(อยถั(าต(องการ์ให(ม�กร์ะแสัไฟฟ6าไหลเป็%นจ�านวนมาก ต(องที�าการ์เจ+อป็นอะตอมของธาต!อ+�นลงไป็ในสัาร์เหล�าน�*น จ2งเร์�ยก สารัก0�งตั�วัน�าไม่บรั%ส ที่ธิ์%C ย�งม�สัาร์ก2�งต�วน�าชน�ดอ+�นอ�ก เช�น สัาร์ก2�งต�วน�าแบบสัาร์ป็ร์ะกอบ
สารัก0�งตั�วัน�าไม่บรั%ส ที่ธิ์%C แบ�งออกเป็%น 2 ป็ร์ะเภที
1.สารัก0�งตั�วัน�าปรัะเภที่ N- type เป็%นสัาร์ก2�งต�วน�าที��เก�ดจากการ์จ�บต�วของอะตอมซ�ล�กอนก�บอะตอมของสัาร์หน) ที�าให(อ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะข2*นมาหน2�งต�ว ซ2�งสัามาร์ถัเคล+�อนที��ในก(อนผล2กน�*น จ2งยอมให(กร์ะแสัไฟฟ6าไหลได(เช�นเด�ยวก�บต�วน�าที��วๆไป็2.สารัก0�งตั�วัน�าปรัะเภที่ P-type เป็%นสัาร์ก2�งต�วน�าที��เก�ดจากการ์จ�บต�วของอะตอม ซ�ล�กอนก�บอะตอมของอล)ม�เน�ยม ที�าให(เก�ดที��ว�างซ2�งเร์�ยกว�า Hole ข2*น อ�เล.กตร์อนที��อย)�ข(าง Hole จะเคล+�อนที��ไป็อย)�ใน Hole ที�าให(ด)คล(ายว�า Hole เคล+�อนที��ได(ในที�ศึทีางตร์งก�นข(ามก�บที�ศึทีางการ์เคล+�อนที��ของอ�เล.กตร์อน จ2งที�าให(เก�ดกร์ะแสัไฟฟ6าไดโอด เป็%นอ!ป็กร์ณที��ที�าด(วยสัาร์ก2�งต�วน�าป็ร์ะเภที P-type และ N- type ม�ล�กษณะด�งร์)ป็ 20 และ 21
การ์ต�อไดโอดเข(าก�บวงจร์ไฟฟ6า ด�งร์)ป็ 22
สภาพตั�านที่านและสภาพน�าไฟฟ�า
จุากการัศั0กษาหาคืวัาม่ส�ม่พ�นธิ์#ของคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�า (V) และ
กรัะแสไฟฟ�า () เพ&�อหาคืวัาม่ตั�านที่านของลวัดโลหะตัาม่กฎของโอห#ม่ ที่�าให�ที่รัาบวัา
1.คืวัาม่ตั�านที่าน ( R ) ของลวัดโลหะแปรัผ่�นตัรังก�บคืวัาม่ย์าวั () ของ
ลวัดโลหะ เม่&�อภาคืตั�ดขวัาง ( A ) ม่�คืาคืงตั�วั 2.คืวัาม่ตั�านที่าน ( R ) ของลวัดโลหะ จุะแปรัผ่กผ่�นก�บ
ภาคืตั�ดขวัาง ( A ) ของลวัดโลหะเม่&�อคืวัาม่ย์าวั () ของลวัดคืงตั�วั
จากความร์) (ที��ได(ที� *ง 2 ข(อ สัามาร์ถัเข�ยนเป็%นความสั�มพ�นธได(ว�า
ด�งน�*น เม่&�อ เป3นคืาคืงตั�วัR
A
RA
ด�งน�*น
ค�าคงต�ว น�*เรั�ย์กวัาสภาพตั�านที่าน ( resistivity)
.m )ม่�หนวัย์เป3น โอห#ม่เม่ตัรั (
ปรัะเภที่ของสารั
ช้น%ดของสารั สภาพตั�านที่าน(โอห#ม่
เม่ตัรั)
ตั�วัน�า
สารัก0�งตั�วัน�า
ฉนวัน
โลหะบรั%ส ที่ธิ์%Cเง�น
ทีองแดงอะล)ม�เน�ยมแพลที�น�มโลหะผ่สม่แมงกาน�น
คอนสัแตนแตนน�โคร์ม
แกร์ไฟตเจอร์เมเน�ยม
ซ�ล�คอนแก(วไมกาพ�ว�ซ�
1.6 x 10-8
1.7 x 10 -8
2.7 x 10 -8
10.6 x 10 -8
4.4 x 10 -7
4.8 x 10 -7
9.8 x 10 -7
1.4 x 10 -5
0.52.3 x 103
1010-101
4
1011-101
5
1014-101
8
สัาร์ใดม�ความต(านทีานมาก แสัดงว�าม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านน(อย หร์+อกล�าวว�าม�ความน�าไฟฟ6า (electrical conductance) น(อย
ความน�าไฟฟ6าเป็%นสัมบ�ต�ทีางไฟฟ6าที��ตร์งข(ามก�บความต(านทีานไฟฟ6าของสัาร์ หร์+ออาจกล�าวว�า ความน�าไฟฟ6าเป็%นสั�วนกล�บของความต(านทีานไฟฟ6า สั�ญล�กษณที��ใช(แทีนความน�าไฟฟ6า ค+อ “ G ” จ2งได(ว�า
1G
Rหนวัย์ที่��ใช้� (โอห#ม่)- 1 หรั&อเรั�ย์กวัา ซึ่�เม่นตั# (S)
สั�าหร์�บสัาร์ที��ม�สัภาพต(านทีานมากจะม�สัภาพน�าไฟฟ6า (electrical conductivity)น(อย สัภาพน�าไฟฟ6าจ2งเป็%นสั�วนกล�บของสัภาพต(านทีาน สั�ญล�กษณ ที��ใช(แทีนสภาพน�าไฟฟ�าคื&อ “ ” จ2งได(ว�า
1
หน�วยที��ใช((โอหมเมตร์) 1– หร์+อซ�เมนต (S/m)
ตั�วัอย์างที่�� 1 ลวดต�วน�าม�ขนาดโตสัม��าเสัมอยาว 1 เมตร์ พ+*นที��หน(าต�ด 1 ตาร์างม�ลล�เมตร์ ถั(าลวดน�*ม�ความต(านทีาน 500 โอหม จะม�
สัภาพการ์น�าไฟฟ6าเป็%นก��ซ�เมนตต�อเมตร์ วั%เคืรัาะห#โจุที่ย์# เม+�อร์) ( 1= m , A = m2 50, R =
0
จาก % = 500 =
5= .m ซ2�ง =
2= = ซ�เมนต / เมตร์
ตัอบ ด�งน�*นลวดต�วน�าน�*จะม�สัภาพการ์น�าไฟฟ6าเที�าก�บ 2 ซ�เมนต / เมตร์
A
6101
(1)
410
1
4105
1
310
6101
ตั�วัอย์างที่�� 2 ลวดเสั(นหน2�งโตสัม��าเสัมอยาว 1.45 เมตร์ ม�เสั(นผ�าศึ)นยกลาง
0.35 ม�ลล�เมตร์ ความต(านทีาน 10 จงหาสัภาพน�าไฟฟ6า
วั%เคืรัาะห#โจุที่ย์# เม+�อร์) ( = 1. 45 m , r = 0.175 × 10 – 3 m , R = 10
จาก R = ซ2�ง A =
จะได(ว�า 10 =
= 1.6 x106
สัภาพน�า = 1.6 x106 ซ�เมน/ เมตร์ตัอบ ด�งน�*น ลวดเสั(นน�*ม�สัภาพน�าไฟฟ6า เที�าก�บ 1.6 x106 ซ�เมน/ เมตร์
A
2r
2rR
2310175.07
22(1.45)
1
เมตร์..
1
ผ่ลของอ ณ์หภ.ม่%ที่��ม่�ตัอคืวัาม่ตั�านที่าน
ตั�วัน�า โลหะบร์�สั!ทีธ�A เช�น เง�น ทีองแดง แพลทีที�น�ม เป็%นต(น
ที��อ!ณหภ)ม�ต�างๆ ก�น พบว�า ความต(านทีานจะแป็ร์ผ�นตร์ง ก�บอ!ณหภ)ม�
สั�มบ)ร์ณ (เคลว�น)
ผ่ลของอ ณ์หภ.ม่%ที่��ม่�ตัอคืวัาม่ตั�านที่าน
ตั�วัน�า โลหะผสัม เช�น แมงกาน�น ซ2�งเป็%นโลหะผสัมร์ะหว�าง
ทีองแดง แมงกาน�สัและน�กเก�ล เป็%นต(น โลหะผ่สม่จุะม่�สภาพตั�านที่านส.ง
กวัาสภาพตั�านที่านของโลหะบรั%ส ที่ธิ์%C พบว�า เม+�ออ!ณหภ)ม�เป็ล��ยนแป็ลง สัภาพ
ต(านทีานจะเป็ล��ยนไป็น(อยมาก ฉะน�*นจ2งน�ยมใช(โลหะผสัมสัร์(างเป็%นต�วมาตร์ฐาน (Standard resistor ) ซ2�งม�ค�าความต(านทีานคงต�วแน�นอน
เช+�อถั+อได(
ผ่ลของอ ณ์หภ.ม่%ที่��ม่�ตัอคืวัาม่ตั�านที่าน
สารัก0�งตั�วัน�า เช�น ซ�ล�กอน เจอร์เมอร์ แกร์ไฟต
เป็%นต(น
พบว�า เม+�ออ!ณหภ)ม�สั)งข2*นพบว�าสัภาพต(านทีานจะลดลงอย�างร์วดเร์.ว ด�งน�*นเคร์+�องใช(ไฟฟ6าที��ม�อ!ป็กร์ณป็ร์ะเภทีสัาร์ก2�งต�วน�าป็ร์ะกอบอย)�ในวงจร์ จ2งที�างานได(อย�างป็กต� ในช�วงอ!ณหภ)ม�ที��ก�าหนดไว(เที�าน�*น
ผ่ลของอ ณ์หภ.ม่%ที่��ม่�ตัอคืวัาม่ตั�านที่าน
ฉนวัน เป็%นว�ตถั! ที��ม�สัภาพต(านทีานสั)งมาก ต�วอย�างของ
ฉนวน เช�น แก(ว ยาง พ�ว�ซ� กร์ะเบ+*อง เป็%นต(น
พบว�าเม+�ออ!ณหภ)ม�เพ��มสั)งข2*นสัภาพต(านทีานจะลดลงเล.กน(อย
ถั(าน�าไป็ต�อก�บความต�าง ศึ�กยไฟฟ6าสั)งมากๆ ว�ตถั!เหล�าน�*จะกลายเป็%นต�วน�าไฟฟ6าได(
เม่&�อปD พ.ศั. 2454 ออนเนส น�กฟ<ส%กส#ช้าวัเนเธิ์อรั#แลนด#
ได�ที่�าการัที่ดลอง
วั�ดคืวัาม่ตั�านที่านปรัอที่ที่��อ ณ์หภ.ม่%ตั��าม่ากๆ ใกล�ศั.นย์#เคืลวั%น พบวัา คืวัาม่ตั�านที่านของปรัอที่ลดลงอย์างที่�นที่� จุนเก&อบเป3นศั.นย์# อ ณ์หภ.ม่%น�*เรั�ย์กวัา อ ณ์หภ.ม่%วั%กฤตั (critical temperature) ของปรัอที่ ขณ์ะน�*ปรัอที่จุะอย์.ในสภาวัะที่��เรั�ย์กวัา สภาพน�าย์วัดย์%�ง (superconductivity)คื&อม่�การัน�าไฟฟ�าด�ที่��ส ด
การัคื�านวัณ์หาคืวัาม่ตั�านที่านเม่&�ออ ณ์หภ.ม่%เปล��ย์นแปลงจุากห�วัข�อที่��แล�วัพบวัาเม่&�ออ ณ์หภ.ม่%ของตั�วัน�าเปล��ย์นแปลง จุะที่�าให�สภาพตั�านที่านตั�วัน�าปรัะเภที่โลหะเปล��ย์นแปลง หรั&อที่�าให�คืวัาม่ตั�านที่านของตั�วัน�าเปล��ย์นแปลงไปด�วัย์
ถั(าก�าหนดให(R0 = ความต(านทีานของโลหะต�วน�าที��
อ!ณหภ)ม� 0 ๐CRt = ความต(านทีานของโลหะต�วน�าที��
อ!ณหภ)ม� t ๐Ct = อ!ณหภ)ม�ของโลหะต�วน�าใน
หน�วยองศึาเซลเซ�ยสั = สั�มป็ร์ะสั�ทีธ�Aอ!ณหภ)ม�ของความ
ต(านทีาน (Temperature coefficient of resistance) ค+อ ค�าความต(านทีานที��เป็ล��ยนไป็ต�อความต(านทีานเด�ม เม+�ออ!ณหภ)ม�เป็ล��ยนไป็ 1 องศึาเซลเซ�ยสั ม�หน�วยเป็%น (๐ C ) - 1
0 1tR R t
จุะได�คืวัาม่ส�ม่พ�นธิ์#ส�าหรั�บการัคื�านวัณ์วัา
การัตัอตั�วัตั�านที่าน
1. การัตัอตั�วัตั�านที่านแบบอน กรัม่ 2 . การัตัอตั�วัตั�านที่านแบบขนาน
วั%ธิ์�การัตัอตั�วัตั�านที่านม่� 2 แบบคื&อ
ถ้�าน�าตั�วัตั�านที่านม่าตัอแบบอน กรัม่และขนานผ่ลของ I และ V จุะเป3นอย์างไรั
เป3นการัตัอที่��น�าตั�วัตั�านที่านหลาย์ๆตั�วั มาต�อเร์�ยงก�นให(อย)�ในสัายเด�ยวก�น
การัตัอตั�วัตั�านที่านแบบอน กรัม่หรั&ออ�นด�บ (series)
1. กร์ะแสัไฟฟ6า (I ) ผ�านต�วต(านทีานที!กต�วเที�าก�น2. ความต�างศึ�กยไฟฟ6าร์วม เที�าก�บ ผลร์วมของความต�างศึ�กยไฟฟ6าย�อย
ผ่ลของการัตัอตั�วัตั�านที่านแบบอน กรัม่ได�วัา
1 2 3ABV V V V
จากกฎของโอหม V IR
....(1)
…(2)แทีน(2 )ใน (1 ) จะได(
IRร์วม 1 1 2 2 3 3I R I R I R
แต� 1 2 3I I I = Iร์วม
ด�งน�*น Rรัวัม่ = R1 + R2 + R3
การัตัอตั�วัตั�านที่านแบบขนาน (parallel)เป3นการัตัอที่��น�าตั�วัตั�านที่านหลาย์ๆตั�วัม่าตัอรัวัม่
ก�นเป3นกล ม่เด�ย์วัก�น โดยใช(ป็ลายหน2�งของต�วต(านทีานที!กต�วไป็ต�อร์วมก�นไว(ที��จ!ดหน2�ง และใช(อ�กป็ลายหน2�งของต�วต(านทีาน ที!กต�วไป็ต�อร์วมก�นไว(ที��อ�กจ!ดหน2�ง
1 .คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าที่��ตักคืรัอม่ ตั�วัตั�านที่านแตัละตั�วัเที่าก�นเที่าก�บคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัวัม่ ( V1 = V2 = V3 = VAB ) เพรัาะวัาตั�วัตั�านที่านที่ กตั�วัอย์.รัะหวัาง 2จุ ดเด�ย์วัก�น ในที่��น�*คื&อ A , B
2. กรัะแสไฟฟ�าที่��ผ่านที่�*งหม่ด เที่าก�บผ่ลรัวัม่ของกรัะแสไฟฟ�าที่��ผ่านตั�วัตั�านที่าน แตัละตั�วั (Iรัวัม่ = I1 + I2 + I
3 )
ผ่ลของการัตัอตั�วัตั�านที่านแบบขนานได�วัา
จุาก Iรัวัม่ = I1 + I2 + I3 .....(1 )
และกฎของโอห#ม่ V = IR
หรั&อ VI
R แที่นใน (1)
จุะได�วัา 31 2
1 2 3ร์ ว ม
VV VV
R R R R ( Vรัวัม่ = V1 = V2 = V
3)
1 2 3
1 1 1 1
ร์ ว มR R R R
ถ้�าม่�คืวัาม่ตั�านที่าน 2 ตั�วั ตัอขนานก�น คื&อ R1 และ R2
จุะได� 1 2
1 1 1
ร์ ว มR R R
2 1
1 2
1
ร์ ว ม
R R
R R R
Rรัวัม่ = 1 2
1 2
R R
R R(วั%ธิ์�คื%ดล�ด)
ถ้�าม่�คืวัาม่ตั�านที่าน n ตั�วั แตัละตั�วัม่�คืวัาม่ตั�านที่าน R ตัอขนานก�น
จุะได� 1 1 1
ร์ ว มR R R ...... n ต�ว
1 n
Rร์ ว มR
Rร์วม = Rn
1 .ตัอแบบอน กรัม่ คืวัาม่ตั�านที่านรัวัม่ม่ากกวัาคืวัาม่ตั�านที่านย์อย์ตั�วัที่��ม่ากที่��ส ด (ตัอแล�วั R เพ%�ม่)
2 ตัอแบบขนาน คืวัาม่ตั�านที่านรัวัม่น�อย์กวัาคืวัาม่ตั�านที่านย์อย์ที่��น�อย์ที่��ส ด (ตัอแล�วั R ลดลง)
การัหาคืวัาม่ตั�านที่านรัวัม่ เม่&�อ
การัตัอตั�วัตั�านที่านที่��ไม่ม่�กรัะแสไฟฟ�าผ่าน
บางคืรั�*งไม่สาม่ารัถ้พ%จุารัณ์าได�วัาเป3นการัตัอแบบอน กรัม่หรั&อแบบขนานที่�าให�ไม่สาม่ารัถ้หาคืวัาม่ตั�านที่านรัวัม่ได�
ม�กฏเกณฑ์หน2�งว�าต�วต(านทีานต�วใดที��กร์ะแสัไฟฟ6าไม�ผ�าน แสดงวัาไม่ม่�ผ่ลตัอวังจุรั ให�ย์ บที่%*ง ไม่ตั�องน�าม่าพ%จุารัณ์า
โดยกร์ะแสัไฟฟ6าจะไม�ผ�าน R2 และ R5 เพร์าะจ!ด C และจ!ด D เป็%นทีางต�น กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านไป็ต�อไม�ได( ด�งน�*น R
2 และ R
5
ไม�ต(องน�ามาพ�จาร์ณา
ด�งน�*น จะได( RAB = R1 + R3 + R4
พ%จุารัณ์าหาคืวัาม่ตั�านที่าน RAB จุากวังจุรัด�งรั.ป
ตั�วัตั�านที่านตัอไม่คืรับวังจุรั
โดยกร์ะแสัไฟฟ6าจะไม�ผ�าน R1 และ R4 ด�งน�*น R
1 และ R
4 ไม�ต(องน�า
มาพ�จาร์ณา
ด�งน�*น จะได( RCD = R2 + R3 + R5
พ%จุารัณ์าหาคืวัาม่ตั�านที่าน RCD จุากวังจุรัด�งรั.ป
ตั�วัตั�านที่านตัอไม่คืรับวังจุรั
ตั�วัตั�านที่านถ้.กตัอล�ดวังจุรั (การัช้@อตัวังจุรั)
คื&อตั�วัตั�านที่านตั�วัใดตั�วัหน0�งหรั&อกล ม่ใดกล ม่หน0�งถ้.กตัอ ล�ดวังจุรัด�วัย์ลวัดตั�วัน�า ซึ่0�งไม่ม่�คืวัาม่ตั�านที่าน ด�งรั.ป
จุากรั.ป ต�วต(านทีาน R1 , R2 , R3 ,R4 และ R5 ถั)กต�อล�ดวงจร์ด(วย ลวด xy (ลวัด xy ไม่ม่�คืวัาม่ตั�านที่าน )ถ้�าตั�องการัหาคืวัาม่ตั�านที่านรัวัม่รัะหวัางจุ ด A, Bกรัะแสไฟฟ�าจุะไหลจุาก A ไป B โดย์กรัะแสไฟฟ�า ( I )ผ่านจุาก A ไป x และผ่านไป y โดย์ไม่ผ่าน R2 , R3 และ R4
เพร์าะจากหล�กการ์ไหลของกร์ะแสัไฟฟ6า เม+�อม�กร์ะแสัไฟฟ6ามาที�� x ตามป็กต�จะแยก 2 ทีาง โดย์ม่�หล�กวัา คืวัาม่ตั�านที่านม่ากกรัะแสไฟฟ�าผ่านน�อย์ และถ้�าคืวัาม่ตั�านที่านน�อย์จากร์)ป็ลวด xy ไม�ม�ความต(านทีาน หร์+อ R = 0 กร์ะแสัไฟฟ6าจ2งผ�านมากที��สั!ด จ2งไม�ม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�าน R2 , R3 และ R
4 จ2งไม�ต(องน�า R2 , R3 และ R
4
มาพ�จาร์ณา
จุะได� RAB = R1 + R5
จุ ด x และจุ ด y คื&อวัาเป3นจุ ดเด�ย์วัก�น โดย์ม่�ศั�กย์#ไฟฟ�าเที่าก�น จุากรั.ป อาจุแปลงใหม่ได�ด�งรั.ป สรั ป ต�วต(านทีานต�วใดกล!�มใด
ที��ต�ออย)� ร์ะหว�างจ!ด 2 จ!ด ซ2�งเป็%นจ!ดเด�ยวก�น ไม�ต(องน�ามาพ�จาร์ณา ต�ดที�*งได(เลย
ในการัแก�ป:ญหาวังจุรัตั�วัตั�านที่านที่��ย์ งย์ากในบางคืรั�*งตั�องน�าคืวัาม่รั.�ในเรั&�องการัช้@อตัวังจุรัม่าช้วัย์แปลงรั.ปวังจุรัจุากวังจุรัที่��ย์ งย์ากเป3นวังจุรัอย์างงาย์ๆกอนจุ0งจุะแก�ป:ญหาวังจุรัได�
ตั�วัตั�านที่านที่��ตัอก�นแบบสม่ม่าตัรัคื&อ การัตัอตั�วัตั�านที่านที่��ม่�ล�กษณ์ะสม่ม่าตัรัก�บแกนการัไหล ของกรัะแสไฟฟ�าที่�*งขนาดและรั.ปรัางของคืวัาม่ตั�านที่าน
การ์หาความต(านทีานร์วมในล�กษณะน�*ให(ใช(ว�ธ�แยกวงจร์ ซ2�งม�หล�กด�งน�*1 .ให(แยกวงจร์ตามแกนสัมมาตร์ ออกเป็%น 2
วงจร์ ซ2�งวงจร์ที�*งสัองต(อง ม�ล�กษณะเหม+อนก�น และวงจร์ที�*งสัองจะม�
ล�กษณะต�อขนานก�น 2. ให(หาความต(านทีานร์วมเพ�ยงวงจร์ใด วงจร์หน2�งก�อน ซ2�งวงจร์หน2�งก.จะม�ความต(านทีานร์วมเที�าก�บวงจร์แร์ก แล(วน�าความต(านทีานร์วมที�*ง
2 วงจร์ ซ2�งต�อก�นอย�างขนาน 3 . สั�าหร์�บต�วต(านทีานที��ถั)กแยกอย)�ร์ �วมร์ะหว�างวงจร์ ถั(าร์�วมก�นอย)� n วงจร์ให(ค)ณด(วย n ก�อน แล(วจ2งค�อยร์วมความต(านทีานเข(าด(วยก�น
ตั�วัตั�านที่านที่��ตัอแบบวั�ที่สโตันบรั%ดจุ# (WHEATSTONE BRIDGE)
เป็%นวงจร์ที��ใช(ว�ดความต(านทีานป็ร์ะกอบด(วยต�วต(านทีาน 5 ต�ว ต�อก�นในล�กษณะด�งร์)ป็ ในวงจร์ ขณะไม�ม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�าน R5 เร์�ยกว�า บร์�ดจสัมด!ล เม+�อ R5 ไม�ม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านแสัดงว�า Vc = Vd
ด�งน�*น Vac = Vad I1R1 = I2R3 …..(1)
และ Vcb = Vdb
I1R2 = I2R4 …..(2)
(1) ÷ (2) 31
2 4
RR
R R
หร์+อ 1 2
3 4
R R
R R
31
2 4
RR
R R 1 2
3 4
R R
R Rถ้�าวังจุรัรั.ปบรั%ดจุ# และ หรั&อ
แสดงวัาบรั%ดจุ#สม่ด ล R5 ตั�ดที่%*งไม่ม่�ผ่ลใดๆ ตัอวังจุรัเลย์ ด�งน�*น หา Rรัวัม่ ได�โดย์ R1 อน กรัม่ R2 แล�วัขนานก�บ (R3 อน กรัม่ก�บ R
4)
ในวังจุรัตั�วัตั�านที่��ม่�ตั�วัตั�านที่าน 3 ตั�วัตัอก�นในล�กษณ์ะด�งรั.ป ไม่
สาม่ารัถ้รัวัม่คืวัาม่ตั�านที่านโดย์วั%ธิ์�ที่��แล�วัๆม่าได� ให�ที่�าการัแปลง
วังจุรั แล�วัจุ0งใช้�วั%ธิ์�การัรัวัม่แบบอน กรัม่
หรั&อแบบขนานตัอไป
ตั�วัตั�านที่านที่��ตัอแบบ Delta ( ) , Wye ( Y)
Y หร์+อ Y
ส.ตัรัการัเปล��ย์นวังจุรัจุาก Y เม+�อร์) ( R1 , R2 , R3 ต(องการ์หา r1 , r2 , r3
จะได(ว�า r1 2 3 2 3
1 2 3
R R R R
R R R
r2 3 1 3 1
1 2 3
R R R R
R R R
r3 1 2 1 2
1 2 3
R R R R
R R R
โดย์ = R1 + R2 + R3
ส.ตัรัการัเปล��ย์นวังจุรัจุาก Y เม+�อร์) ( r1 , r2 , r3 ต(องการ์หา R1 , R2 , R3
จะได(ว�า 1 2 2 3 3 11
1 1
r r r r r r YR
r r
1 2 2 3 3 12
2 2
r r r r r r YR
r r
1 2 2 3 3 13
3 3
r r r r r r YR
r r
โดย์ Y = 1 2 2 3 3 1r r r r r r
แรังเคืล&�อนไฟฟ�า คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าเม+�อต�อต�วน�าหร์+อต�วต(านทีานเข(าก�บแหล�งก�าเน�ดไฟฟ6า (เช�น ถั�านไฟฉาย แบตเตอร์�� ฯลฯ) จะม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านต�วต(านทีานและแหล�งก�าเน�ดไฟฟ6าน�*น กร์ะแสัไฟฟ6าที��เก�ดข2*นก.เน+�องจากการ์เคล+�อนที��ของป็ร์ะจ!ไฟฟ6าโดยป็ร์ะจ!ไฟฟ6าได(ร์�บพล�งงานจากแหล�งก�าเน�ดไฟฟ6า ด�งร์)ป็
เม+�อ R = ความต(านทีานที��ต�อก�บเซลลไฟฟ6า
r = ความต(านทีานภายในของเซลลไฟฟ6า
E = แร์งเคล+�อนไฟฟ6าของเซลลไฟฟ6า
หม่าย์ถ้0ง พล�งงานไฟฟ6าที��ใช(ในการ์เคล+�อนป็ร์ะจ! 1+ ค)ลอมบ จาก ข� *วบวกไป็ย�งข�*วลบของเซลล โดยผ�านต�วต(านทีาน ภายนอกเซลล (R ) ม�หน�วยเป็%น จ)ล/ค)ลอมบหร์+อโวลต
คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าภาย์นอกเซึ่ลล# (VR)
หม่าย์ถ้0ง พล�งงานไฟฟ6าที��ใช(ในการ์เคล+�อนป็ร์ะจ! +1 ค)ลอมบ จากข�*วลบไป็ย�งข�*วบวกของเซลล โดยผ�านภายใน เซลลไฟฟ6า ม�หน�วยเป็%นจ)ล/ค)ลอมบ หร์+อ โวลต
คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าภาย์ในเซึ่ลล# (Vr)
หม่าย์ถ้0ง พล�งงานไฟฟ6าที��แหล�งก�าเน�ด (เซลลไฟฟ6า )ใช(ในการ์เคล+�อน ป็ร์ะจ! 1 ค)ลอมบ คร์บวงจร์พอด� (จากข�*วบวกไป็ย�งข�*วลบผ�าน ต�วต(านทีาน (R ) ภายนอกเซลล และจากข�*วลบไป็ย�งข�*วบวก ผ�านเซลลไฟฟ6าภายใน ) ม�หน�วยเป็%นจ)ล/ค)ลอมบ หร์+อโวลต
แรังเคืล&�อนไฟฟ�า (electromotive force “ e.m.f. ” ) “ E ”
ถั(าให( E = แร์งเคล+�อนไฟฟ6า VR= ความต�างศึ�กยไฟฟ6าภายนอกเซลล Vr = ความต�างศึ�กยไฟฟ6าภายในเซลล
จากน�ยามของแร์งเคล+�อนไฟฟ6า, ความต�างศึ�กยไฟฟ6าภายนอกเซลล และความต�างศึ�กยไฟฟ6าภายในเซลล
จะได(ว�า E = VR + Vr (เม+�อ V = IR) หร์+อ E = IR + Ir
E = I(R+r)
EI
R r
ได(ว�า
ถั(าม�เซลลไฟฟ6า (E ) หลายเซลล ม�ต�วต(านทีานหลายต�ว อาจเข�ยนสัมการ์หา I ได(ใหม�ว�า
E
IR r
เม+�อ E = แร์งเคล+�อนไฟฟ6าร์วม R r = ความต(านทีานภายนอกและภายในร์วม
I = กร์ะแสัไฟฟ6าในวงจร์
ข�อส�งเกตั กร์ะแสัไฟฟ6า (I ) ที��ผ�านในวงจร์ไฟฟ6า เป็%นห�วใจสั�าค�ญในการ์แก(ป็3ญหาของวงจร์ไฟฟ6าที�ศึทีาง ของกร์ะแสัไฟฟ6าจากเซลลไฟฟ6า จะม�ที�ศึทีางออกจากข�*วบวกของเซลลไฟฟ6าและเข(าสั)�ข� *วลบของ เซลลไฟฟ6า
คืาคืวัาม่ตัางศั�กย์#รัะหวัางข�*วัเซึ่ลล# เม่&�อวังจุรัเป<ดและวังจุรัป<ด
พ�จาร์ณาวงจร์ไฟฟ6าอย�างง�าย เม+�อวงจร์ป็Cดด�งร์)ป็ ก. กร์ะแสัไฟฟ6าจะผ�านคร์บวงจร์
เม+�อน�าโวลตม�เตอร์ (เคร์+�องม+อว�ดความต�างศึ�กย ) มาว�ดร์ะหว�างป็ลายที�*งสัองของต�วต(านทีาน (R )และ ว�ดร์ะหว�างข�*วเซลลที�*งสัอง ค�าที��อ�านได(จะม�ค�าเที�าก�บแร์งเคล+�อนไฟฟ6า (E)
เม+�อพ�จาร์ณาจากวงจร์ด�งร์)ป็ ข. เม+�อวงจร์เป็Cด
แล(วที�าการ์ว�ดความต�างศึ�กยที��ป็ลายที�*งสัองของต�วต(านทีานค�าที��อ�านได(เป็%นศึ)นยเพร์าะไม�ม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านต�วต(านทีาน R แต�เม+�อว�ดที��ข� *วเซลลไฟฟ6าที�*งสัองค�าที��อ�านได(ค+อค�าของแร์งเคล+�อนไฟฟ6าด�งน�*นสรั ปได�วัา เม+�อวงจร์เป็Cดความต�างศึ�กยไฟฟ6าร์ะหว�างข�*วเซลลไฟฟ6าม�ค�าเที�าก�บแร์งเคล+�อนไฟฟ6า (E)
การัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�า ค+อ การ์น�าเซลลไฟฟ6ามากกว�า 1 เซลลมาต�อร์�วมก�น เพ+�อให(ได( ขนาดของแร์งเคล+�อนไฟฟ6า หร์+อกร์ะแสัไฟฟ6าตามต(องการ์ ซ2�งม� 2 แบบใหญ�ๆ ค+อ
1. การัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าแบบอน กรัม่หรั&ออ�นด�บ
2. การัตัอเซึ่ลล#แบบขนาน
คื&อ การัน�าเซึ่ลล#ไฟฟ�าม่าตัอเรั�ย์งก�นเป3นเส�นเด�ย์วัก�น ด�งร์)ป็
การัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าแบบอน กรัม่หรั&ออ�นด�บ
โดย
และ 1 2 3E E E E
1 2 3r r r r
ค+อ การ์ต�อเซลลไฟฟ6าให(ข� *วชน�ดเด�ยวก�นเข(าด(วยก�น ด�งร์)ป็
การัตัอเซึ่ลล#แบบขนาน
เม+�อให(เซลลไฟฟ6า ที!กเซลลม�แร์งเคล+�อนไฟฟ6า (E ) และ ความต(านทีานภายใน (r ) ตามล�าด�บ
E1 = E2 = E3 = E
E E
rrn
เพ�ยงต�วหร์+อแถัวเด�ยว (ถั(าในแถัวม�หลายต�ว)
เม+�อ n ค+อจ�านวนต�วที��ต�อขนานก�น หร์+อเป็%นไป็หล�กการ์หาความต(านทีาน ร์วมแบบขนาน
เป็%นการ์ต�อเซลลแบบอน!กร์มและแบบขนานร์วมก�น โดยจ�ดให(เซลลแต�ละแถัวต�อก�นอย�างอน!กร์ม และที!กแถัวต�อก�นอย�างขนาน ในการ์ต�อเซลลแบบน�*ถั(าเซลลม�แร์งเคล+�อนไฟฟ6า เที�าก�น จ�านวนเซลลในแต�ละแถัวต(องม�ค�าเที�าก�นด�งร์)ป็
การัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าแบบผ่สม่
ผ่ลการัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าแบบผ่สม่ ได�วัา
E xE
xrr
y
การัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าแบบผ่สม่ให�ได�กรัะแสไฟฟ�าผ่านวังจุรัม่ากที่��ส ด
เม+�อม�เซลลไฟฟ6าที��ม�ล�กษณะเหม+อนๆ ก�น อย)�หลาย ๆ เซลล ต(องการ์ต�อวงจร์ก�บต�วต(านทีานภายนอก (R ) แล(วให(ม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านวงจร์ มากที��สั!ด
ในการ์จ�ดเซลลไฟฟ6า อาจพ�จาร์ณาจาก การ์ต�อเซลลแบบผสัมด�งร์)ป็
จาก E
IR r
xExr
Ry
ได�วัา EI
R rx y
พบวัา I จุะม่�คืาม่ากที่��ส ดเม่&�อจุ�ดให� R r
x y ม่�คืาน�อย์ที่��ส ด
จุาก R r
x y
22
2 .R R r r
x x y y
22
2 . 4 .R R r r R r
x x y y x y
2
4 .R r R r
x y x y
R r
x y
R r
x y
R r
x y
จุะเห�นได�วัา จุะม่�คืาน�อย์ที่��ส ด เม่&�อจุ�ดให�
= 0 หรั&อ ด�งน�*น ในการัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าแบบผ่สม่โดย์ที่ กเซึ่ลล#ม่�ล�กษณ์ะ เหม่&อนก�นกรัะแสในวังจุรัม่�คืาม่ากที่��ส ด
เม่&�อR r
x yโดย์ xy = จุ�านวันเซึ่ลล#ไฟฟ�าที่�*งหม่ด
หล�กการัในการัคื�านวัณ์การัตัอเซึ่ลล#ไฟฟ�าให�ได�กรัะแสไฟฟ�าม่ากที่��ส ด
1. ใช้�หล�กส.ตัรัR r
x y และ xy = จุ�านวันเซึ่ลล#ไฟฟ�าที่�*งหม่ด 2 การัหาคืา x และ y จุากข�อ 1 คืวัรัหาคืา y
กอน ถ้�าคืา y ไม่เป3นจุ�านวันเตั�ม่ ให�ป:ดเศัษลงและข0*นอย์างละหน0�งคืรั�*ง แล�วัน�าไปหาคืา x เช้น เซึ่ลล#ไฟฟ�าม่�ที่�*งหม่ด 30 เซึ่ลล# หาคืาของ
y จุะได� = 5.4 ด�งน�*น y จุะตั�อง เที่าก�บ 5 หรั&อ 6 แล�วัน�าคืา y ไปแที่นหาคืา x จุะได� x ม่�คืาเที่าก�บ 6 หรั&อ 5 ให�น�าคืา y = 5 , x = 6 และ y = 6 , x = 5 ไป
จุากส.ตัรั EI
R rx y
คืาใดให�กรัะแสไฟฟ�า (E )ม่ากที่��ส ด ก�น�าคืาน�*นม่าตัอบ
ลองแที่นคืาหากรัะแสไฟฟ�า
การัหาคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัะหวัางจุ ด 2 จุ ด ที่��ม่�เซึ่ลล#ไฟฟ�าแที่รักอย์.ในวังจุรัไฟฟ�าวังเด�ย์วั
คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�ารัะหวัางปลาย์ที่��ม่�คืวัาม่ตั�านที่าน และเซึ่ลล#ไฟฟ�าตัออย์. หาได�จุาก ก�าล�งไฟฟ�าที่��ให�ออกม่าย์อม่ม่�คืาเที่าก�บก�าล�งไฟฟ�าที่��ได�รั�บ จุากรั.ป
จุากรั.ป
เม+�อม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านสั�วนหน2�งของวงจร์ จาก a ไป็ b ผ�านความต(านทีาน R และเซลลไฟฟ6า E
1 , E 2
โดยเซลลไฟฟ6า E1
ม�ที�ศึทีางเสัร์�ม I สั�วนเซลลไฟฟ6า E
2 ม� ที�ศึทีางต(าน I
จากร์)ป็ก�าล�งไฟฟ6าที��ให(ออกมา = 1 abIE IV
ก�าล�งไฟฟ6าที��ได(ร์�บ = 22 1 2IE I R r r
แต�ก�าล�งไฟฟ6าที��ให( = ก�าล�งไฟฟ6าที��ได(ร์�บ1 abIE IV = 2
2 1 2IE I R r r
Vab = 1 2 2 1I R r r E E
หร์+อ Vab = 1 2 1 2I R r r E E
หร์+อ abV I R r E
1. ที่%ศัที่างตัาม่กรัะแสจุรั%ง I เป3นบวัก สวันกรัะแสจุรั%ง I เป3นลบ2. ที่%ศัที่างผ่านเซึ่ลล#ไฟฟ�า
- เข�าที่างข�*วัออกที่างข�*วับวัก E เป3นบวัก (+)- เข�าที่างข�*วับวักออกที่างข�*วัลบ E เป3นลบ (-)
3. คืวัาม่ตั�านที่าน R , r เป3นบวักเสม่อ
การัก�าหนดเคืรั&�องหม่าย์ I และ E
1. หาขนาดและที�ศึทีางของกร์ะแสัไฟฟ6าในวงจร์ จาก
EI
R r
ข�*นตัอนการัแก�ป:ญหาเพ&�อหา Vab จุากวังจุรัไฟฟ�าวังเด�ย์วั
การ์ก�าหนดที�ศึทีางของกร์ะแสัไฟฟ6า ให(ด) ต�าแหน�งข�*วบวกของเซลลไฟฟ6า โดยที�ศึทีาง
ของกร์ะแสัไฟฟ6าจะออกจากข�*วบวกของพวกที��ม� แร์งเคล+�อนมาก ถั(าสัมมต�ที�ศึทีางผ�ดค�ากร์ะแสั
ไฟฟ6า (I) จะต�ดลบ ก.ให(กล�บที�ศึทีางสัมมต�เป็%นตร์งข(าม
สั�วนขนาดถั)กต(องแล(ว
2. ใช้�ส.ตัรัหา Vab จุาก abV I R r E
กฎของเคือรั#ช้อฟฟF (Kirchoft ’ Laws)
ในวังจุรัไฟฟ�าที่��ซึ่�บซึ่�อนม่�วังจุรัย์อย์ๆ ม่ากกวัา หน0�งวังจุรั ไม่สาม่ารัถ้หาคืากรัะแสไฟฟ�า จุากสม่การั
E
IR r
Gustar Robert Kirchoft ได�คื%ดแปลงกฎของโอห#ม่ เพ&�อใช้�แก�ป:ญหาวังจุรัที่��ม่�คืวัาม่ย์ งย์าก ซึ่�บซึ่�อนให�สาม่ารัถ้แก�ป:ญหาได�งาย์ข0*น
ได�
กฎของเคือรั#ช้อฟฟFม่� 2 ข�อ ด�งน�*1 .กฎของจุ ด (Point Rule) กล�าวว�า ที��จ!ด“
ใดๆๆในวงจร์ไฟฟ6า ผลร์วมของกร์ะแสัไฟฟ6าที��เข(าสั)�จ!ดน�*น
ที�*งหมดย�อมเที�าก�บผลร์วมของกร์ะแสัไฟฟ6าที��ไหลออกจากจ!ดน�*นที�*งหมดเสัมอ ” พ�จาร์ณาที��จ!ด O ผลร์วมของกร์ะแสัไฟฟ6าเข(า = ผลร์วมของกร์ะแสัไฟฟ6าออก
I1 + I2 = I3 + I4 + I5
“ กลาวัวัา ในวังจุรัไฟฟ�าที่��คืรับวังใดๆ (วังจุรัป<ด) ผ่ลรัวัม่ของแรังเคืล&�อนไฟฟ�า ตัลอดวังจุรัน�*น ๆ จุะม่�
คืาเที่าก�บผ่ลรัวัม่ของคืวัาม่ตัางศั�กย์#ของที่ กๆสวันใน” วังจุรัป<ดน�*นๆ
2 กฎของวัง (Loop Rule)
พล�งงานไฟฟ�า และก�าล�งไฟฟ�าเม่&�อตัอเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า (เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าแตัละ
เคืรั&�องเปรั�ย์บเสม่&อนตั�วัตั�านที่านตั�วัหน0�ง) เข�าก�บแหลงก�าเน%ดไฟฟ�า ปรัะจุ ไฟฟ�า จุะเคืล&�อนที่��ที่�าให�ม่�กรัะแสไฟฟ�าผ่านเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า พล�งงานไฟฟ�าจุะถ้.กเปล��ย์นเป3นพล�งงานรั.ปอ&�น ตัาม่ช้น%ดของเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า เช้น เม่&�อตัอหลอดไฟก�บเคืรั&�องก�าเน%ดไฟฟ�า จุะ
ได� พล�งงานแสงสวัาง ถ้�าตัอเตัารั�ดไฟฟ�า ก�จุะได�พล�งงานคืวัาม่
รั�อน ถ้�าตัอเคืรั&�องซึ่�กผ่�า ( พ�ดลม่ , สวัานไฟฟ�า)
ก�จุะได�พล�งงานกล เป3นตั�น
พ%จุารัณ์าวังจุรัไฟฟ�าซึ่0�งปรัะกอบด�วัย์แหลงจุาย์ไฟฟ�า(เซึ่ลล#ไฟฟ�า) ตัอเข�าก�บเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า (ตั�วัตั�านที่าน) ด�งรั.ป
จุากวังจุรัไฟฟ�าที่��ก�าหนดให� เม่&�อตัอคืรับวังจุรัเซึ่ลล#ไฟฟ�าให�ปรัะจุ + Q C ในเวัลา t วั%นาที่� ปรัะจุ ไฟฟ�า Q เคืล&�อนที่��ไปได�เน&�องจุากพล�งงานของเซึ่ลล#ไฟฟ�าที่��ให�ออกม่า และขณ์ะปรัะจุ Q เคืล&�อนที่��ผ่านคืวัาม่ตั�านที่าน (R )ย์อม่ส.ญเส�ย์พล�งงานไปสวันหน0�ง ซึ่0�งแย์กพ%จุารัณ์าได�ด�งน�*
จุากน%ย์าม่ แรังเคืล&�อนไฟฟ�า (E )พล�งงานไฟฟ�าที่��ใช้�ในการัเคืล&�อนปรัะจุ +1 C คืรับวังจุรัพอด� ด�งน�*น
ในการัเคืล&�อนปรัะจุ +1 C คืรับวังจุรัตั�องใช้�พล�งงาน Eถ้�าเคืล&�อนปรัะจุ +Q C คืรับวังจุรัตั�องใช้�พล�งงาน QE ถ้�าให� WE คื&อ พล�งงานไฟฟ�าที่��เซึ่ลล#ไฟฟ�าจุาย์ออกม่า
พล�งงานไฟฟ�าของแหลงก�าเน%ดไฟฟ�า
จุะได�วัา EW QE
และจุาก Q = It
อาจุได�วัา EW IEt
ถ้�าให� PE คื&อก�าล�งไฟฟ�าของเซึ่ลล#ไฟฟ�า
จุาก W
Pt
ด�งน�*น E
IEtP
t
ด�งน�*น EP IE
คืวัาม่ตัางศั�กย์#ภาย์นอกเซึ่ลล# (V )คื&อ พล�งงานไฟฟ�าที่��ใช้�ในการัเคืล&�อนปรัะจุ +1 C ผ่านคืวัาม่ตั�านที่านภาย์นอกเซึ่ลล# ด�งน�*น ในการัเคืล&�อนปรัะจุ +1 C ผ่านคืวัาม่ตั�านที่าน (R )ตั�องใช้�พล�งงาน V
ถ้�าในการัเคืล&�อนปรัะจุ +Q C ผ่านตั�วัตั�านที่าน (R ) ตั�องใช้�พล�งงาน QV
ถ้�า W คื&อพล�งงานไฟฟ�าที่��ใช้�เคืล&�อนปรัะจุ ผ่านคืวัาม่ตั�านที่าน
พล�งงานไฟฟ�าที่��ส.ญเส�ย์ให�แกตั�วัตั�านที่าน(เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า)
จุากน%ย์าม่
จุะได� W QV
จุาก Q = It
อาจุได�วัา W IVt (V = IR)
หรั&อ 2W I Rt VI
R
หรั&อ 2V t
WR
ถ้�าให� P คื&อก�าล�งไฟฟ�าที่��ส.ญเส�ย์ไปในตั�วัตั�านที่าน RW
tP
ด�งน�*น IVtP
t P IV
หรั&อ 2I Rt
Pt
2P I R
หรั&อ 2V t
PR
2V
PR
เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าจุะม่�ตั�วัเลขบอกก�าล�งไฟฟ�าและคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าที่��จุะใช้�ก�บเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า
การัใช้�เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าที่ กช้น%ด ผ่.�ใช้�ตั�องตัอเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าก�บแหลงก�าเน%ดไฟฟ�าที่��ให�คืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าตัรังก�บตั�วัเลขที่��รัะบ ปรัะจุ�าเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าน�*นๆ ถ้�าตัางจุากที่��รัะบ ไวั�จุะไม่ได�ก�าล�งไฟฟ�าตัาม่ที่��ก�าหนด และอาจุที่�าให�เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าน�*นเส�ย์หาย์ได�
นอกจุากน�*ตั�วัเลขที่��รัะบ ก�าล�งไฟฟ�าและคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�า ย์�งสาม่ารัถ้น�าไปคื�านวัณ์หาพล�งงานไฟฟ�าที่��เคืรั&�องไฟฟ�าน�*นใช้�ไปในช้วังเวัลาหน0�ง และหาปรั%ม่าณ์ที่��เก��ย์วัข�องอ&�นๆ ได�อ�กด�วัย์
การัคื%ดคืาไฟฟ�า เม่&�อม่�การัใช้�เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า ตั�องเส�ย์คืา
ไฟฟ�า ให�ก�บการัไฟฟ�าโดย์คื%ดจุากจุ�านวันพล�งงานไฟฟ�าที่��เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าน�*นๆ ใช้�ไป ซึ่0�งหาได�จุาก W P t
เม่&�อ P คื&อ ก�าล�งไฟฟ�าของเคืรั&�องใช้�ไฟฟ�า t คื&อ เวัลาที่��ใช้�ไฟฟ�า W คื&อ พล�งงานไฟฟ�าที่��เคืรั&�องใช้�ไฟฟ�าใช้�ไป
โดย์ปกตั%หนวัย์ของพล�งงานไฟฟ�าม่�หนวัย์เป3น วั�ตัตั#.วั%นาที่� หรั&อ จุ.ล ถ้�าน�าม่าใช้�ก�บพล�งงานไฟฟ�าที่��ใช้�จุะไม่เหม่าะสม่ เพรัาะเป3นหนวัย์เล�ก
ในที่างปฏิ%บ�ตั%จุ0งคื%ดพล�งงานไฟฟ�า เป3น ก%โลวั�ตัตั#ช้��วัโม่ง หรั&อเรั�ย์กวัา หนวัย์ (unit)
1 หนวัย์ (unit ) = 1 ก%โลวั�ตัตั#ช้��วัโม่ง
การัหาจุ�านวันหนวัย์ที่��ใช้�อาจุหาได�จุาก
ส.ตัรั จุ�านวัน UNIT = 1000
ช��วโมง WATTจ�านวน
การัเปรั�ย์บเที่�ย์บหนวัย์ ก%โลวั�ตัตั#ช้��วัโม่งก�บจุ.ล
1 kW.hr = 1000 Watt 3600 s.
= 3.6 106 J
ปรัะส%ที่ธิ์%ภาพก�บการัส.ญเส�ย์
โดย์ปกตั%การัจุาย์พล�งงานใดๆ หรั&อการัเปล��ย์นแปลงพล�งงานจุากรั.ปหน0�งไปส.อ�กรั.ปหน0�ง ม่�กจุะม่�การัส.ญเส�ย์พล�งงานบางสวันไปรัะหวัางการัเปล��ย์นแปลงน�*น พล�งงานไฟฟ�าก�เช้นก�น เม่&�อกรัะแสไฟฟ�าผ่านลวัดตั�วัน�าย์อม่ม่�ก�าล�งส.ญเส�ย์ไปในลวัด (P = I2R ) ถ้�าม่�การัส.ญเส�ย์พล�งงาน หรั&อก�าล�งในการัสงหรั&อเปล��ย์นรั.ปพล�งงานม่าก เรัากลาวัวัา ปรัะส%ที่ธิ์%ภาพ ม่�คืาน�อย์ ถ้�าม่�การัส.ญเส�ย์พล�งงานหรั&อก�าล�งในการัสงหรั&อเปล��ย์นรั.ปพล�งงานน�อย์ เรัากลาวัวัา ปรัะส%ที่ธิ์%ภาพม่�คืาม่าก
ปรัะส%ที่ธิ์%ภาพใช้�ส�ญล�กษณ์# “ คืาปรัะส%ที่ธิ์%ภาพม่�หนวัย์เป3น เปอรั#เซึ่�นตั# หาได�จุาก
”อานวัา อ�ตั�า
× 100%งาน ( พล�งงาน , ก�าล�งงาน ) ที่��ให�เข�าไป
ปรัะส%ที่ธิ์%ภาพ = งาน ( พล�งงาน , ก�าล�งงาน ) ที่��ได�ออกม่า
แอม่ม่%เตัอรั# โวัลตั#ม่%เตัอรั# และโอห#ม่ม่%เตัอรั#แอม่ม่%เตัอรั# โวัลตั#ม่%เตัอรั# และโอห#ม่ม่%เตัอรั# เป3นเคืรั&�องวั�ดที่างไฟฟ�า เพ&�อใช้�วั�ดปรั%ม่าณ์ตัางๆ ที่างไฟฟ�า เคืรั&�องวั�ดด�งกลาวัน�*สาม่ารัถ้สรั�างข0*นโดย์ด�ดแปลงจุาก แกลแวันอม่%เตัอรั# (Galvanometer ) ช้น%ดขดลวัดเคืล&�อนที่�� ซึ่0�งปรัะกอบด�วัย์ขดลวัดวัางรัะหวัางข�*วัแม่เหล�ก ที่��ขดลวัดม่�เข�ม่ช้�*ตั%ดอย์.ด�งรั.ป
คื&อ เม่&�อม่�กรัะแสไฟฟ�าผ่านเข�าไปในขดลวัด จุะที่�าให�ขดลวัดหม่ นได�เน&�องจุากเก%ดแรังกรัะที่�ารัะหวัางสนาม่แม่เหล�กไฟฟ�ารัอบๆ ขดลวัดก�บสนาม่แม่เหล�ก จุากข�*วัแม่เหล�ก และถ้�าม่�เข�ม่ตั%ดก�บขดลวัดเข�ม่ก�เบนไปด�วัย์ ก�บปรั%ม่าณ์กรัะแสไฟฟ�าที่��การัเบนของเข�ม่จุะม่ากหรั&อน�อย์ข0*นอย์.ผ่านเข�าไปในขดลวัด
หล�กการัที่�างานของแกลแวันอม่%เตัอรั#
กรัะแสไฟฟ�าที่��ที่�าให�เข�ม่ของแกลแวันอม่%เตัอรั#เบนได�ส.งส ด จุะม่�คืาจุ�าก�ดคืาหน0�ง เรั�ย์กวัา กรัะแสส.งส ดของแกลแวันอม่%เตัอรั#
ถ้�ากรัะแสไฟฟ�าผ่านเข�าไปในแกลวัานอม่%เตัอรั#ม่ากกวัาคืาจุ�าก�ดด�งกลาวัน�* จุะที่�าให� แกลแวันอม่%เตัอรั#เส�ย์หาย์ได�ด�งน�*นการัที่��จุะน�าแกลแวันอม่%เตัอรั#ไปใช้�วั�ดคืากรัะแสไฟฟ�าหรั&อคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�าในวังจุรัไฟฟ�า จุ0งตั�องที่�าการัด�ดแปลงเส�ย์กอน
ส�ญล�กษณ์#ของแกลแวันอม่%เตัอรั# คื&อ
แอม่ม่%เตัอรั# (Amameter ) ใช้�ส�ญล�กษณ์# A เป3นเคืรั&�องวั�ด ปรั%ม่าณ์กรัะแสไฟฟ�า โดย์การัตัออน กรัม่ ก�บวังจุรัที่��ตั�องการัวั�ดคืากรัะแสไฟฟ�า ด�งรั.ป
หล�กการัสรั�างแอม่ม่%เตัอรั#
จากวงจร์ด�งร์)ป็ แอมม�ตอร์ที��ด�ต(องม�ค�าความต(านทีานน(อยมากๆ ถั(าความต(านทีานของแอมม�เตอร์ม�ค�าน(อยมาก ผลที�าให(ค�ากร์ะแสัที��ว�ดได(ม�ค�าน(อยกว�าป็กต� เน+�องจากค�ากร์ะแสัไฟฟ6าหาจาก
EI
R r
โดย R r เป็%นค�าความต(านทีานร์วมของแอมม�เตอร์ความต(านทีานภายในเซลลและความต(านทีานภายนอกเซลล
เม+�อต(องการ์ว�ดกร์ะแสัไฟฟ6าในวงจร์ ที�าได(โดยน�าแกลแวนอม�เตอร์ไป็ต�ออน!กร์มก�บวงจร์ ถั(าม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านเข.มของแกลแวนอม�เตอร์จะเบนไป็ถั(ากร์ะแสัไฟฟ6าที��ผ�านม�ค�าสั)งกว�ากร์ะแสัสั)งสั!ดของแกลแวนอม�เตอร์จะที�าให(แกลแวนอม�เตอร์เสั�ยหายได(
ถั(าต(องการ์จะว�ดค�ากร์ะแสัไฟฟ6าที��ม�ค�าสั)งกว�าน�*ให(ได( ต(องที�าการ์ด�ดแป็ลงแกลแวนอม�เตอร์เสั�ยก�อน
โดยน�าเอาต�วต(านทีานมาต�อขนานก�บแกลแวนอม�เตอร์ ซ2�งเร์าเร์�ยกว�า ช�นต (shunt ) เพ+�อแบ�งแยกกร์ะแสัให(ผ�านแกลแวนอม�เตอร์น(อยลง แล(วไม�เก�นค�ากร์ะแสัสั)งสั!ดของแกลแวนอม�เตอร์ ด�งวงจร์ ซ2�งเร์�ยกวงจร์ด�งร์)ป็ น�*ว�า แอม่ม่%เตัอรั#
ก�าหนดให(RG ค+อ ความต(านทีานของแกลแวนอม�เตอร์RS ค+อ ความต(านทีานของช�นตI ค+อ กร์ะแสัไฟฟ6าที�*งหมดที��ต(องการ์ว�ดหร์+อที��ผ�านแอมม�เตอร์IG ค+อ กร์ะแสัไฟฟ6าสั)งสั!ดของแกลแวนอม�เตอร์IS ค+อ กร์ะแสัไฟฟ6าที��ผ�านช�นต
เม+�อ I = IG + IS จากวงจร์แอมม�เตอร์ เน+�องจาก RG
ต�อขนานก�บ RS สัามาร์ถัหาค�าของช�นต ได(จาก
Vล�าง = V บน ISRS = IGRG
ด�งน�*น G Gs
S
I RR
I หร์+อ G G
sG
I RR
I I
โวัลตั#ม่%เตัอรั# (Voltmeter ) ใช้�ส�ญล�กษณ์# เป3นเคืรั&�องวั�ดคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�า ในวังจุรัไฟฟ�า โดย์การัตัอขนานก�บวังจุรัที่��ตั�องการัวั�ดคืวัาม่ตัางศั�กย์#ไฟฟ�า ด�งรั.ป
หล�กการัสรั�างโวัลตั#ม่%เตัอรั#
จากวงจร์ด�งร์)ป็ เม+�อต�อโวลตม�เตอร์ร์ะหว�างจ!ด a และ b ขนานก�บความต(านทีาน R เพ+�อว�ดความต�างศึ�กยไฟฟ6าที��ป็ลายที�*งสัองของ R กร์ะแสัไฟฟ6า (I ) จะแบ�งออกเป็%น 2 สั�วน โดยสั�วนหน2�งผ�านความต(านทีาน R และอ�กสั�วนหน2�งผ�าน โวลตม�เตอร์ ที�าให(กร์ะแสัไฟฟ6าที��ผ�าน R ลดลง จากสั)ตร์การ์หาความต�างศึ�กยไฟฟ6า V = IR ด�งน�*น Vab ที��อ�านได(จาก โวลตม�เตอร์ ม�ค�าลดลง ถั(าต(องการ์ให(ค�า โวลตม�เตอร์ ที�� อ�านได(ใกล(เค�ยงความจร์�งมากที��สั!ดต(องที�าให(กร์ะแสัไฟฟ6าที��ผ�าน โวลตม�เตอร์ น(อยที��สั!ด ด�งน�*น โวลตม�เตอร์ที��ด�ต(องม�ความต(านทีานมากๆ
เม+�อต(องการ์ว�ดความต�างศึ�กยไฟฟ6าในวงจร์ ที�าได(โดยน�าแกลแวนอม�เตอร์ไป็ต�อขนานก�บวงจร์ที��ต(องการ์ว�ด โดยความต�างศึ�กยไฟฟ6าสั)งสั!ดของแกลแวนอม�เตอร์ สัามาร์ถัค�านวณหาได(จาก V = IGRG ถั(าความต�างศึ�กยไฟฟ6าที��ต(องการ์ว�ดม�ค�ามากกว�า ความต�างศึ�กยไฟฟ6าสั)งสั!ดของแกลแวนอม�เตอร์ สัามาร์ถัด�ดแป็ลงได(จากหล�กที��ว�า V มากข2*น เม+�อ I มาก หร์+อ R มาก เน+�องจาก I ที��ผ�าน ม�ค�าจ�าก�ดไม�เก�น IG ด�งน�*นจ2งต(องที�า R ให(มากข2*น โดยน�าต�วต(านทีานมาต�ออน!กร์มก�บแกลแวนอม�เตอร์เร์�ยกว�า ม่�ลตั%พลาย์เออรั# (multiplier )ด�งรั.ปวังจุรั
ก�าหนดให(RG ค+อ ความต(านทีานของแกลแวนอม�
เตอร์R ค+อ ความต(านทีานที��ต�อเพ+�อด�ดแป็ลงIG ค+อ กร์ะแสัไฟฟ6าสั)งสั!ดของแกลแวนอม�
เตอร์V ค+อ ความต�างศึ�กยที��ต(องการ์ว�ด
Vใหม่ = IG (RG + R)
จากวงจร์โวลตม�เตอร์จะได(ว�า
โอหม�เตอร์ (Ohmmeter ) ค+อ เคร์+�องม+อที��ใช(ว�ดความต(านทีานสั�วนป็ร์ะกอบที��สั�าค�ญของโอหมม�เตอร์ ค+อ แกลแวนอม�เตอร์ ต�ออย)�ก�บความต(านทีานแป็ร์ค�า R0 และเซลลไฟฟ6า E ด�งร์)ป็
หล�กการัสรั�างโอห#ม่ม่%เตัอรั#
เม+�อต(องการ์ว�ความต(านทีาน RX ใดๆ ให(เอาข�*ว X และ Y ไป็ต�อที��ป็ลายต�วต(านทีานน�*น ซ2�งจะม�ผลให(กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านโอหมม�เตอร์ ถั(า RX ม�ค�ามาก กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านโอหมม�เตอร์ม�ค�าน(อย เข.มจะเบนน(อย และถั(า RX ม�ค�าน(อย กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านโอหมม�เตอร์ม�ค�ามาก เข.มจะเบนมาก แต�ถั(าน�าป็ลาย X และ Y แตะก�นถั+อว�าความต(านทีานเป็%นศึ)นย กร์ะแสัไฟฟ6าจะผ�านโอหมม�เตอร์มากที��สั!ด เข.มของโอหมม�เตอร์จะเบนได(มากที��สั!ด ต�าแหน�งของเข.มขณะน�*ต(องช�*ศึ)นย ด�งน�*น สัเกลของโอหมม�เตอร์ จะกล�บก�บแอมม�เตอร์และโวลตม�เตอร์
ก�อนที��จะใช(โอหมม�เตอร์ว�ดความต(านทีานใดๆต(องน�าป็ลาย X และ Y มาต�อก�น เพ+�อตร์วจสัอบด)ว�าเข.มช�* (0) ศึ)นยหร์+อไม� ถั(าเข.มไม�ช�* 0 ก.ต(องป็ร์�บค�า R0 จนกร์ะที��งเข.มช�*ที��เลข 0 ก�อนน�าไป็ ว�ดความต(านทีานใดๆ
ข�อคืวัรัปฏิ%บ�ตั%
คืวัาม่ส�ม่พ�นธิ์#ของกรัะแสไฟฟ�าในวังจุรัโอห#ม่ม่%เตัอรั#
- เม+�อล�ดวงจร์ที��ป็ลาย x และ y ด�งร์)ป็ ก.- เม+�อ ม�ต�วต(านทีานต�ออย)�ร์ะหว�าง x และ y ด�งร์)ป็ ข.
จากร์)ป็ ก. จะได(ว�า กร์ะแสัไฟฟ6าในวงจร์โอหมม�เตอร์ม�ค�า
จาก E
IR r
G O
EI
R R r
จากร์)ป็ ข. จะได(ว�า กร์ะแสัไฟฟ6าในวงจร์โอหมม�เตอร์ม�ค�า
จาก E
IR r
( )G O X
EI
R R r R
เม+�อ E = แร์งเคล+�อนไฟฟ6าของเซลลไฟฟ6าภายในโอหมม�เตอร์ RG = ความต(านทีานภายในของแกลแวนอม�เตอร์ R0 = ความต(านทีานของต�วต(านทีานแป็ร์ค�า r = ความต(านทีานภายในของเซลลไฟฟ6า RX = ความต(านทีานที��ต(องการ์ว�ดค�า
จุากคืวัาม่รั.�ที่��วัาแกลแวันอม่%เตัอรั# สัามาร์ถัน�ามาด�ดแป็ลงให(เป็%นแอมม�เตอร์ โวลตม�เตอร์ หร์+อ โอหมม�เตอร์ได( จ2งม�การ์สัร์(างแอมม�เตอร์ โวลตม�เตอร์ และโอหมม�เตอร์ไว(ในเคร์+�องเด�ยวก�น ซ2�งเร์�ยกว�า ม�ลต�ม�เตอร์ ซ2�งม�สั�วนป็ร์ะกอบ ด�งร์)ป็
ม่�ลตั%ม่%เตัอรั# (Multimeter)
จากร์)ป็ S เป็%นสัว�ตซซ2�งใช(สั�าหร์�บเล+อกว�ดกร์ะแสัไฟฟ6าความต�างศึ�กยไฟฟ6า หร์+อความต(านทีาน R1 และ R2 เป็%นความต(านทีานของช�นต ซ2�งต�อขนานก�บแกลแวนอม�เตอร์ เพ+�อที�าให(แอมม�เตอร์ว�ดกร์ะแสัไฟฟ6าได(สั)งสั!ดต�างก�น R3 และ R4 เป็%นความต(านทีานของม�ลต�พลายเออร์ ซ2�งต�ออน!กร์มก�บแกลแวนอม�เตอร์ เพ+�อให(โวลตม�เตอร์ว�ดความต�างศึ�กยไฟฟ6าได(สั)งสั!ดต�างก�น สั�วน R0 เป็%นต�วต(านทีานแป็ร์ค�า สั�าหร์�บป็ร์�บค�าความต(านทีาน เพ+�อให(เข.มช�*เลข 0 ก�อนที��จะว�ดความต(านทีานใด ๆ
ในป็3จจ!บ�นม�การ์พ�ฒนาม�ลต�ม�เตอร์ ให(แสัดงผลด(วยต�วเลขเพ+�อความสัะดวกและแม�นย�าในการ์ว�ด ที��เร์�ยกว�า ด�จ�ตอลม�ลต�ม�เตอร์ ด�งร์)ป็
คืวัาม่ส�ม่พ�นธิ์#รัะหวัางกรัะแสไฟฟ�าและสนาม่แม่เหล�ก
แม่เหล�ก-ไฟฟ�า เป็%นว�ชาที��ศึ2กษาเก��ยวก�บสัมบ�ต� และป็ร์ากฏกาณของแม�เหล.กธร์ร์มชาต� และแม�เหล.กที��เก�ดจากการ์เหน��ยวน�าทีางไฟฟ6า อ�ทีธ�พลของสันามแม�เหล.กที��ม�ต�อป็ร์ะจ!ไฟฟ6า และความสั�มพ�นธร์ะหว�างไฟฟ6าและแม�เหล.ก
แม่เหล�ก และสนาม่แม่เหล�กแม่เหล�ก (Magnet ) โดย์ที่��วัๆไปจุะหม่าย์ถ้0ง แม่เหล�กธิ์รัรัม่ช้าตั% (ซึ่0�งม่�สวันผ่สม่สวันใหญ คื&อ Fe3O4 ) ซ2�งม�สัมบ�ต�สัามาร์ถัด)ดเหล.ก และน�ลเก�ลได(แม�เหล.กนอกจากจะเป็%นแม�เหล.กธร์ร์มชาต�แล(วอาจเป็%นแม�เหล.กที��สัร์(างข2*นเองซ2�งม�ร์)ป็ร์�างต�างๆก�น เร์�ยกว�า แที�งแม�เหล.ก ร์)ป็ร์�างของแที�งเหล(กม�ได(ต�างๆก�น เช�น เป็%นแที�งสั��เหล��ยม , แที�งทีร์งกร์ะบอก , ร์)ป็เก+อกม(า หร์+อเป็%นแผ�นเล.กบางๆ ที��เร์�ยกว�า เข.มที�ศึ (compass ) ด�งร์)ป็
แที่งแม่เหล�กโดย์ที่��วัๆไป จุะม่�สม่บ�ตั%ด�งน�*
1. ข�*วแม�เหล.ก (magnetic pole ) แที�งแม�เหล.กโดยที��วๆไป็ เม+�อน�าเอาไป็ด)ดผงตะไบเหล.ก พบว�า ผงตะไบเหล.กจะถั)กด)ดต�ดสั�วนต�างๆ ของแที�งเหล.ก ในป็ร์�มาณมากน(อยต�างก�น โดยบร์�เวณป็ลายๆ แที�งที�*งสัองข(างของแที�งแม�เหล(กจะม�ผงตะไบเหล.กต�ดมากที��สั!ด เร์าจ2งทีร์าบว�า อ�านาจแม�เหล.กจะแร์งมากที��บร์�เวณป็ลายที�*งสัองของแที�งแม�เหล.กซ2�งบร์�เวณด�งกล�าว เร์�ยกว�า ข� *วแม�เหล.ก ด�งร์)ป็
สม่บ�ตั%ของแที่งแม่เหล�ก
2. ชน�ดของข�*วแม�เหล.ก เม+�อน�าแที�งแม�เหล.กมาแขวน ห(อยด(วยเสั(นด(าย โดยให(แที�งแม�เหล.กวางต�วอย)�แนวร์าบ จะพบว�าแที�งแม�เหล.ก จะร์�กษาแนวแกนให(อย)�ในแนวที�ศึเหน+อ – ใต( ตลอดเวลา เร์าเร์�ยกข�*วแม�เหล.กที��ช�*ไป็ทีางที�ศึเหน+อว�า ข� *วเหน+อ (north pole “ N ” ) และเร์�ยกข�*วแม�เหล.กที��ช�*ไป็ทีางที�ศึใต(ว�าข� *วใต( (south pole “ S ” ) ด�งร์)ป็
หม่าย์เหตั โดยป็กต�แม�เหล.กจะม�เพ�ยง 2 ข�*ว แต�ที�ศึทีางป็ฏ�บ�ต�เร์าอาจสัร์(างแม�เหล.กให(ม�ข� *วมากกว�า 2ข�*ว แต�เป็%นเพ�ยง แม�เหล.กช��วคร์าวเที�าน�*น
3. แร์งกร์ะที�าร์ะหว�างข�*วแม�เหล.ก ม� 2 แบบ - แร์งด)ดก�น เก�ดจากการ์น�าข�*วแม�เหล.กต�างชน�ดก�นมาวางใกล(ก�น- แร์งผล�กก�น เก�ดจากการ์น�าข�*วแม�เหล.กชน�ดเด�ยวก�นมาวางใกล(ก�น
สนาม่แม่เหล�ก (Magnetic field )เม่&�อน�าเข�ม่ที่%ศัวัางใกล�ๆ แที่งแม่เหล�ก พบวัาที่%ศัจุะเปล��ย์นไปจุากแนวัปกตั%เหน&อ – ใตั� แสดงวัาม่�แรังเน&�องจุากแที่งแม่เหล�กม่ากรัะที่�าตัอเข�ม่ที่%ศั แสดงวัาบรั%เวัณ์น�*นม่�สนาม่แม่เหล�ก ที่%ศัที่างของสนาม่แม่เหล�กที่��บรั%เวัณ์ด�งกลาวัถ้&อวัาเป3นที่%ศัเด�ย์วัก�บที่%ศัที่��ข�*วัเหน&อของเข�ม่ที่%ศัช้�*ด�งรั.ป
เม่&�อวัางเข�ม่ที่%ศัใกล�แที่งแม่เหล�ก ที่%ศัที่างของเข�ม่ที่%ศัจุะเปล��ย์นอย์างตัอเน&�อง จุากข�*วัเหน&อไปข�*วัใตั�ได�เป3นเส�นโคื�งเรั�ย์กเส�นที่��เก%ดจุากแนวัเข�ม่ที่%ศัหรั&อแนวัแรังกรัะที่�าตัอเข�ม่ที่%ศัเน&�องจุากสนาม่แม่เหล�กวัาเส�นแรังแม่เหล�ก (magnetic line of force )
เส�นแรังแม่เหล�ก (magnetic line of force) ซึ่0�งม่�ล�กษณ์ะด�งน�*
1. ภาย์นอกแที่งแม่เหล�ก เส�นแรังแม่เหล�กจุะม่� ที่%ศัพ งออกจุากข�*วัเหน&อ (N) เข�า
ส.ข�*วัใตั� (S) เสม่อ2. ภาย์ในแที่งแม่เหล�ก เส�นแรังแม่เหล�กจุะม่�ที่%ศั
พ งจุากข�*วัใตั� (S) ไปย์�งข�*วั เหน&อ (N) เสม่อ
เม่&�อวัางเข�ม่ที่%ศั ณ์ ตั�าแหนงหน0�ง ตั�าแหนงใดบนผ่%วัโลก จุะพบวัา แนวัการั
วัางตั�วัของเข�ม่ที่%ศัจุะอย์.ในแนวัเหน&อ- ใตั� แสดงวัาม่�แรังกรัะที่�าตัอเข�ม่ที่%ศั ที่�าให�สรั ป
ได�วัาตั�าแหนงตัางๆ บนผ่%วัโลกม่�สนาม่แม่ เหล�ก ซึ่0�งเรั�ย์กวัา สนาม่แม่เหล�กโลก
สนาม่แม่เหล�กโลก (Earth ’ s magnetic field)
จุากการัศั0กษาตัอไปพบวัาโลกปรัะพฤตั%ตั�วัเสม่&อนก�บแที่งแม่เหล�กขนาดใหญอย์.ใจุกลางโลก
ซึ่0�งเรั�ย์กวัาแม่เหล�กโลก โดย์ม่�เส�นแรังสนาม่แม่เหล�กโลกพ งจุากบรั%เวัณ์ซึ่�กโลกใตั�ไปย์�งซึ่�กโลก
เหน&อ และแนวัเหน&อ- ใตั� ของสนาม่แม่เหล�กจุะที่�า ม่ ม่ปรัะม่าณ์ 17๐ ก�บแนวัเหน&อ- ใตั�
ที่างภ.ม่%ศัาสตัรั#ของโลก ด�งรั.ป
เม่&�อวัางไวั�ในสนาม่แม่เหล�กโลก เข�ม่ที่%ศัจุะ ตั�องเอาข�*วั N ช้�*ไปที่างที่%ศัเหน&อ (เพรัาะ
ข�*วั S ของแม่เหล�กโลกอย์.ที่างเหน&อ) และเอาข�*วั S ช้�*ไปที่างใตั� ( เพรัาะข�*วั N
ของแม่เหล�กโลกอย์.ที่างใตั�) เสม่อ
เม+�อพ�จาร์ณาเสั(นแร์งแม�เหล.กของแที�งแม�เหล.กแที�งหน2�ง พบว�าบร์�เวณใกล(ก�บข�*วแม�เหล.กจะม�เสั(นแร์งแม�เหล.กอย)�หนาแน�น เร์ากล�าวว�าบร์�เวณน�*นม� ฟล�กซแม�เหล.ก (magnetic flux) หนาแน�นมาก หร์+อเป็%น บร์�เวณที��สันามแม�เหล.กม�ค�ามาก สั�วนบร์�เวณที��อย)�ห�างออกไป็จะม�เสั(นแร์งแม�เหล.กอย)�ห�างๆ ก�น เร์ากล�าวว�า บร์�เวณน�*นม�ฟล�กซ แม�เหล.ก หนาแน�นน(อยหร์+อเป็%นบร์�เวณที��สันามแม�เหล(กม�ค�าน(อย จ2งม�การ์ก�าหนดน�ยามของฟล�กซแม�เหล.ก หมายถั2ง จ�านวนเสั(นแร์งแม�เหล.กที��ทีะล!ผ�านพ+*นผ�วในแนวต�*งฉากก�บพ+*นผ�วน�*น และใช(สั�ญล�กษณ “ ” แทีน ฟล�กซแม�เหล.ก
ม�หน�วยเป็%นเวเบอร์ (Weber) “ Wb”
คืวัาม่เข�ม่สนาม่แม่เหล�ก
จ�านวนเสั(นแร์งแม�เหล.กต�อหน�วยพ+*นที��ที��เสั(นแร์งแม�เหล.กต�*งได(ฉาก เร์�ยกว�า ความหนาแน�นฟล�กซแม�เหล.ก (magnetic flux density) ซ2�งในร์ะบบเอสัไอ ก�าหนดให(ม�ค�าเที�าก�บ ขนาดของสันามแม�เหล.ก ( )
B
โดยสันามแม�เหล.กเป็%นป็ร์�มาณเวกเตอร์ ความสั�มพ�นธร์ะหว�างฟล�กซแม�เหล.กและสันามแม�เหล.ก เป็%นด�งน�*
BA
เม+�อ เป็%นจ�านวนเสั(นแร์งแม�เหล.กหร์+อฟล�กซแม�เหล.กที��ผ�านพ+*นผ�ว ในแนวต�*งฉาก ม�หน�วยเป็%น เวเบอร์ (Wb)
เป็%นพ+*นที��ต� *งฉากที��ฟล�กซแม�เหล.กผ�าน ม�หน�วยเป็%น ตาร์างเมตร์ (m2)
เป็%นความหนาแน�นฟล�กซแม�เหล.กซ2�งม�ค�าเที�าก�บขนาด ของสันามแม�เหล.ก ม� หน�วยเป็%นเวเบอร์ต�อตาร์างเมตร์ หร์+อ เทีสัลา (T )
A
B
การ์หาฟล�กซแม�เหล.ก ( )
จาก BA
หร์+อ = BA
โดย B ต(องม�ที�ศึทีางต�*งฉากก�บพ+*นที�� (A) จ2งจะหา ได(
= BA = BA
= BAsin = BAsin
เม+�ออน!ภาคมวล m ม�ป็ร์ะจ!ไฟฟ6า +q วางอย)�ร์ะหว�างแผ�นขนานที�*งสัองห�างก�นเป็%นร์ะยะ d ที�าให(เก�ดสันามไฟฟ6าสัม��าเสัมอร์ะหว�างแผ�นค)�ขนานเป็%น E ด�งร์)ป็
ที่บที่วัน ปรัะจุ ไฟฟ�าในสนาม่ไฟฟ�าสม่��าเสม่อ
จากร์)ป็ จะได(ความสั�มพ�นธด�งน�* 1. แร์งกร์ะที�าต�ออน!ภาคที��ม�ป็ร์ะจ!ไฟฟ6า เน+�องจากสันามไฟฟ6า (FE ) ได(ว�า
FE =qE
FE =qE2 .ขณะป็ร์ะจ!ไฟฟ6าเก�ดการ์เคล+�อนที��ม�การ์เป็ล��ยนร์)ป็
พล�งงานจาก พล�งงานศึ�กยไฟฟ6า (EP ) เป็%นพล�งงานจลนได(ว�า
Ek = EP
21
2mv = qV
2qVv
m
3. สันามไฟฟ6าสัม��าเสัมอที��เก�ดร์ะหว�างแผ�นค)�ขนานที��ม�ความต�างศึ�กยไฟฟ6า จะม�ความสั�มพ�นธก�นด�งน�*
VE
d
แรังที่��กรัะที่�าตัอลวัดตั�วัน�าที่��ม่�กรัะแสไฟฟ�าผ่าน เม่&�อ วัางอย์.ในบรั%เวัณ์ที่��ม่�สนาม่แม่เหล�ก
เม+�ออน!ภาคที��ม�ป็ร์ะจ!ไฟฟ6าเคล+�อนที��เข(าไป็ในบร์�เวณที��ม�สันามแม�เหล.ก จะเก�ดแร์งกร์ะที�าก�บอน!ภาคน�*น และจากความร์) (ที��ว�ากร์ะแสัไฟฟ6าในลวดต�วน�าเก�ดจากการ์เคล+�อนที��ของอ�เล.กตร์อนอ�สัร์ะด(วยความเร์.วลอยเล+�อน ด�งน�*น ถั(าวางเสั(นลวดต�วน�าในบร์�เวณที��ม�สันามแม�เหล.ก แล(วผ�านกร์ะแสัไฟฟ6าเข(าไป็ในเสั(นลวดต�วน�าน�*น ด�งร์)ป็
BF qv B
จากร์)ป็ เม+�อน�าลวด AB ยาว วางต�*งฉากก�บสันามแม�เหล.ก
โดยม�กร์ะแสัไฟฟ6าผ�านจาก A ไป็ย�ง B หร์+อม�กร์ะแสัอ�เล.กตร์อนเคล+�อนจาก B ไป็ A ด�งน�*นจ2งม�แร์งกร์ะที�าต�ออ�เล.กตร์อน หร์+อกร์ะที�าต�อลวด AB น��นเองในที�ศึทีางพ! �งข2*น (อาศึ�ยการ์หาที�ศึทีางจาก
)