Upload
adams-love-thailand
View
221
Download
0
Embed Size (px)
DESCRIPTION
Press Release "สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยผลการวิจัยยืนยันประสิทธิภาพของยาทรูวาดา ในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี" 12 กันยายน 2555, สถาบันแกลดสโตน, มหาวิทยาลัยโคโลราโด และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Citation preview
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม เปดเผยผลการวิจัยยืนยันประสิทธิภาพของยาทรูวาดา
ในการปองกันการติดเชื้อเอชไอวี
เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอรเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา วันที่ 12 กันยายน 2555, ไดมีการเปดเผยเกี่ยวกับผลการศึกษาวิจัยใหมจากทีม นักวิจัยผูเชี่ยวชาญทางดานเอชไอวี/เอดส ระหวางประเทศยืนยันถึง ประสิทธิภาพของยาทรูวาดา ซึ่งถือเปนยาตานไวรัสตัวแรกและ เปนยาตัวเดียว ที่ไดรับการอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหาร และยาประเทศสหรัฐเพื่อใชในการปองกันการติดเชื้อเอชไอวีได รายงานวิจัยใหมนี้ นําทีมวิจัยโดยนายแพทยโรเบิรต แกรนท จากสถาบัน แกลดสโตน และดอกเตอรปเตอร แอนเดอรสัน จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด โดยเปนการศึกษาหาคาความเขมขนของระดับยาตานไวรัสทรูวาดาที่สามารถชวยปองกันการแพรเชื้อเอชไอวี/เอดสได ผลการศึกษานี้ชวยใหเรา เขาใจถึงศักยภาพของตัวยาทรูวาดาและชวยเปดโอกาสใหเราเขาใจ เกี่ยวกับแนวทางใหม ๆ ในการใชยาตานไวรัสในขนาดยาที่แตกตางกัน มากขึ้น
ผลการศึกษาวิจัยใหมซึ่งไดมีการตีพิมพเผยแพรผานทางออนไลนในวารสาร Science Translational Medicine เรื่องนี้ เปนงานวิจัยตอเนื่อง มาจากงานวิจัยทางคลินิกชื่อโครงการ iPrEX ที่มีนายแพทยแกรนท และคณะ เปนทีมวิจัย ซึ่งไดมีการเปดเผยผลการศึกษาไปเมื่อปลายป พ.ศ 2553 วา การนําเอายาตานไวรัสเอชไอวทีี่มีชื่อวายาทรูวาดา ซึ่งปกติ เปนยาตานที่นํามาใชเพื่อรักษาผูที่ติดเชื้อเอชไอวีอยูนั้น สามารถนํามาใช กินลวงหนาเพื่อปองกันการติดเชื้อเอชไอวีในคนไมติดเชื้อแตมีโอกาสเสี่ยงตอการไดรับเชื้อไวรัสเอชไอวีได แตปญหาที่ยังคางคาอยูก็คือ หากมีการนํา ยาตานนี้มาใชโดยทั่วไปจริง จะมีประสิทธิภาพในการปองกันการติดเชื้อ ไวรัสไดดีเพียงใดโดยเฉพาะปญหาเกี่ยวกับการที่จะตองกินยาอยาง เครงครัดตอเนื่องวันละเม็ดทุกวัน
นายแพทยแกรนท ซึ่งเปนศาสตราจารย ประจําอยูที่สถาบัน แกลดสโตน สังกัดมหาวิทยาลัยแคลิฟอรเนีย เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ไดเปดเผยวา “หลังจากเริ่มตนโครงการวิจัย iPrEx ก็มีความวิตกกังวลวา ผลของยาตานทรูวาดาในการปองกันการติดเชื้อ เอชไอวยีังมีความไมแนนอน เพื่อที่จะใหการปองกันการติดเชื้อไดผล แนนอน จําเปนที่จะตองรับประทานยาตานอยางตอเนื่องเปนประจําทุกวัน ตามที่กําหนด ผลจากการศกึษาวิจัยเพิ่มเติมใหมนี้ ชวยแสดงใหเห็นวา
2
ยาตานทรูวาดายังสามารถชวยปองกันการติดเชือ้ไวรัสได ถึงแมวาบุคคล นั้นจะไมไดกินยาตานเปนประจําทุกวันอยางสมบูรณก็ตาม”
การที่เราตองรับประทานยาติดตอกันทุกวันใหไดอยางสมบูรณ เปนเรื่องที่ปฏิบัติไดยากสําหรับคนทั่วไป แตการที่เราจะรูวาคนไขไดกินยา จริงทุกวันตามที่แพทยกําหนดหรือไม ก็เปนเรื่องที่ทาทายมากเชนกัน เปนไปไดที่คนไขทั่วไปมักจะรายงานเกี่ยวกับการกินยาสูงกวาที่เปนจริง เพราะเขาคิดวานั่นเปนสิ่งที่แพทยตองการที่จะไดยิน ดังนั้นทมีนักวิจัยจึง จําเปนทีจ่ะตองหาวิธกีารที่ดีกวาในการคํานวณประสิทธิภาพของยา ทรูวาดาในกรณีที่อาจมีการรับประทานยาตอเนื่องที่แตกตางกันออกไปดวย
ในการนี้ ทีมวิจัยจึงไดมีการวิจัยทดลองทางคลินิกโดยการให อาสาสมัครที่ไมติดเชื้อเอชไอวีจํานวน 24 รายไดรับประทานยาตาน ในจํานวนที่แตกตางกัน คือ สองวัน สี่วัน และเจ็ดวัน ตอสัปดาห การวัดระดับความเขมขนของยาตานในเลือดที่ไดมาจากอาสาสมัครเหลานี้ จะชวยสะทอนใหเราทราบถึงระดับความสม่ําเสมอในการรับประทานยาของคนไขได จากนั้นนักวิจัยจึงไดสรางรูปแบบจําลองเพื่อเปรียบเทียบ ระดับความเขมขนของยาตานในเลือดที่วัดไดจากอาสาสมัครในโครงการ วิจัย iPrEX เพื่อที่จะศึกษาวา อาสาสมัครในโครงการ iPrEX นั้นมีการรับประทานยาตานอยางสม่ําเสมอทุกวันหรือไม และผลของการกินยาตานตอเนื่องในระดับที่แตกตางกันออกไป จะยังชวยปองกันอาสาสมัครจากการติดเชื้อเอชไอวีไดมากนอยแคไหน
ศาสตราจารยนายแพทยสุวัฒน จริยาเลิศศักดิ์ ผูอํานวยการสถาบัน วิจัยวิทยาศาสตรสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม และเปนหัวหนารวม ในโครงการวิจัย iPrEX ของประเทศไทย ไดกลาววา “ถือเปนเรื่อง ที่นาสนใจอยางมาก เพราะจากผลการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบนี้ เราพบวา อาสาสมัครโครงการวิจัย iPrEx ที่แมจะไมไดรับประทานยาตาน อยางตอเนื่องทุกวันจริง ๆ ก็ยังใหผลในการปองกันการติดเชื้อเอชไอวีได โดยการวิเคราะหเปรียบเทียบพบวา หากมีการรับประทานยาทรูวาดา อยางนอย 4 วันตอสัปดาห (แทนที่จะเปน 7 เม็ดตอสัปดาหหรือกินทุกวัน) ยังสามารถชวยลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีไดสูงถึง 96% และยังพบอีกวา หากระดับความเขมขนของยาตานในเลือดสูงเทากับการกินยา 7 วัน ตอสัปดาหหรือกินยาครบทุกวัน จะมีประสิทธิภาพในการลดโอกาส การติดเชื้อเอชไอวีไดสูงถึง 99% จากผลการศึกษาเปรียบเทียบนี้”
โดยปกติทั่วไป การประเมินความสม่ําเสมอหรือวินัยในการรับประทาน ยาตานเพื่อการปองกันตัวอยางเชน ยาทรูวาดา มักเปนการวัดเชิงคุณภาพ เชน “เพียงพอ” หรือ “สมบูรณ” แตการศึกษาวิจัยนี้ถือเปนการศึกษาวิจัย ครั้งแรกทีก่ําหนดวัตถุประสงควา ตองการศึกษาหาวิธวีัดเชิงปริมาณ
3
เพื่อประเมินระดับความเขมขนของยาในรางกาย เพื่อใหสามารถนําไปใช เปรียบเทียบกับระดับความเขมขนของยาตานที่มีประสทิธภิาพในการ ปองกันการติดเชื้อ ผลการศึกษานี้ชวยเปดประตูใหเราสามารถศึกษา หาวิธีการเพื่อประเมินจํานวนของขนาดยาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งนาจะชวย ทําใหการใชยามีราคาลดลง มีความสะดวกมากขึ้น และสามารถ ปรับใหเขากับนิสัยของคนไดมากขึ้น
ดร.แอนเดอรสันกลาววา “สิ่งตอไปที่เราจะทําอยางเรงดวน ก็คือ การพัฒนาวิธีการและเครื่องมือที่ใชไดงาย แตมปีระสิทธิภาพที่จะชวย ใหแพทยสามารถประเมินความสม่ําเสมอในการรับประทานยาตานของ คนไข เพื่อจะไดรูวา ยาทรูวาดาจะชวยปองกันการติดเชื้อไดดีมากนอย แคไหน ในขณะที่ปจจุบันเรายังไมทราบผลของการศึกษาวิจัยที่กําลัง อยูระหวางการดําเนินการเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการปองกันการติดเชื้อ โดยการรับประทานยาตานในขนาดแตกตางกันออกไป ฉะนั้นขอแนะนํา ในการรับประทานยาตานไวรัสทรูวาดาเพื่อการปองกันการติดเชื้อ ในทางเวชปฏิบัติ ทีไ่ดรับการอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหาร และยา ของประเทศสหรัฐอเมริกา ก็คือ การตองรับประทานยาทรูวาดา หนึ่งเม็ดตอวัน ตอไป”
นพ. แกรนด ไดกลาววา “คนไขควรจะรับประทานยาหนึ่งเม็ดตอวัน เพื่อใหไดผลในการปองกันการติดเชื้อไดดีที่สุด และเราขอสนับสนุนให ประชาชนเลือกใชวิธกีารที่หลากหลายเพื่อปองกันการติดเชื้อเอชไอว ีรวมกันไปดวย เชน การใชถุงยางอนามัยเปนประจํา การรักษาดวย ยาตานไวรัสในคูนอนที่ติดเชื้อเอชไอวีใหเร็วขึ้น การสื่อสารที่ด ี รวมถึง วิธกีารขริบอวัยวะเพศชาย เปนตน เราหวังวาสิ่งที่เราคนพบในครั้งนี้ จะมีสวนชวยใหเรามีเครื่องมือในการปองกันการติดเชื้อเอชไอวีที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งทายที่สุดจะไปชวยลดการแพรระบาดของเอชไอว/ีเอดส ในแตละประเทศทั่วโลกได”
การศึกษาวิจัยนี้ไดรับทุนสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแหงชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา และทุนสนับสนุนรวมจากมูลนิธิบิลและมาลินดา เกทส
....................................................................................