1568
ตอนที101 : "ท่านยูเอะผู้ไร้เทียมทาน" : [Spoiler และ เปิดเผย รวมลองแปล] Arifureta Shokugyou de Sekai Saikyou (Ep.178) - page 53 - ห้องนิยายแปล ผู้เขียน 26-32 นาที แสงจันทร์ที่ได้สาดส่องลงมาจากฟากฟ้ากลายมาเป็นฉากหลังให้กับ พวกแอชดราก้อนที่เต็มทั่วท้องนภา... เท่าที่ดูมีเห็นจะมีอยู่ประมาณร้อยกว่าตัว ซึ่งผู้ที่เป็นจุดศุนย์รวมใน กองทัพนั้น คือ ฟรีดที่นั่งอยู่บนเจ้ามังกรขาว ฟรีด : "อย่าถือว่าข้ามันเลวบัดซบเลย...เพราะนี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ตาม พิชัยสงคราม" เมื่อเห็นว่าเซียอาได้ถูกมิไฮอิลดันเข้าไปในประตูแห่งพลัง "Boundary Piercer - [ทวาราข้ามมิติ]" ที่สร้างจาก "มหาเวทย์ข้ามมิติ" แล้ว ฟรีดได้ทาการออกคาสั่งให้กองกาลังอินทรีย์ทมิฬไล่ตามพวกเขาทั้งสอง ที่กาลังต่อสู้กันอยูณ ที่ไหนซักแห่งในตอนนั้นไป และในขณะที่พวกมัน

ตอนที่ 101 : ท่านยูเอะผู้ไร้ ... · 2018. 7. 15. · ตอนที่ 101 : "ท่านยูเอะผู้ไร้เทียมทาน"

  • Upload
    others

  • View
    13

  • Download
    0

Embed Size (px)

Citation preview

  • ตอนที่ 101 : "ทา่นยูเอะผู้ไร้เทียมทาน" :

    [Spoiler และ เปิดเผย รวมลองแปล] Arifureta Shokugyou de

    Sekai Saikyou (Ep.178) - page 53 - ห้องนิยายแปล

    ผู้เขียน

    26-32 นาท ี

    แสงจันทร์ที่ได้สาดส่องลงมาจากฟากฟ้ากลายมาเป็นฉากหลังให้กับพวกแอชดราก้อนที่เต็มทั่วท้องนภา...

    เท่าที่ดูมีเห็นจะมีอยู่ประมาณร้อยกว่าตัว ซึ่งผู้ที่เป็นจุดศุนย์รวมในกองทัพนั้น คือ ฟรีดที่นั่งอยู่บนเจ้ามังกรขาว

    ฟรีด : "อย่าถือว่าข้ามันเลวบัดซบเลย...เพราะนี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ตามพิชัยสงคราม"

    เมื่อเห็นว่าเซียอาได้ถูกมิไฮอิลดันเข้าไปในประตูแห่งพลัง "Boundary Piercer - [ทวาราข้ามมิติ]" ที่สร้างจาก "มหาเวทย์ข้ามมิติ" แล้ว ฟรีดได้ท าการออกค าสั่งให้กองก าลังอินทรีย์ทมิฬไล่ตามพวกเขาทั้งสองที่ก าลังต่อสู้กันอยู่ ณ ที่ไหนซักแห่งในตอนนั้นไป และในขณะที่พวกมัน

  • ได้บินเคลื่อนทัพไป ฟรีดได้ใช้จังหวะนั้นพูดจาหยาบคายใส่ยูเอะที่ยืนสงบนิ่งอยู่

    ยูเอะที่ลอยอยู่บนฟ้าอยู่ได้แม้ว่าจะไม่ได้มีการร่ายคาถาเรียกพลังวายุมาใช้นั้น ได้จ้องม้องไปที่ฟรีดโดยไม่มีท่าทีตอบโต้อันใด ซึ่งต่อมาเธอได้ยิ้มขึ้น พร้อมๆกับแสงจันทร์ที่สาดส่อง ซึ่งยิ่งเป็นตัวขับดันให้ความเฉิดฉายยิ่งแรงกล้าขึ้น

    ฟรีดเป็นพวกปีศาจที่ถือซึ่งศักดิ์ศรีพร้อมมีความหยิ่งยโสโอหังในที แทนที่จะมองคู่ต่อสู้ในระดับที่เสมอเท่าเทียม กลับท าราวกับว่าศัตรูนั้นช่างอ่อนด้อยเรีย่ติดดิน เป็นพวกชนชั้นต ่าที่ไม่มีค่าพอให้ต่อสู้ เขาเป็นพวกเคร่งศาสนาสุดโต่ง ศรัทธาในมหาเทพที่ตนศรัทธาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ด้วยท่าทางแบบนั้น...คงไม่มีทางที่พวกเขาจะเห็นเผ่าพันธ์ุอื่นเท่าเทียมกันแน่นอน

    ดังนั้น ลืมเรื่องที่ว่าเขาจะให้ความสนใจในสตรีเผ่าพันธุ์อื่นไปได้เลย เพราะว่านอกจากจะไม่แยแสแล้ว ยังจะพูดดูถูกซ ้าให้เจ็บใจจนตายอีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ฟรีดได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว โดยมีพวกลูกน้องที่ขี่แอชดราก้อนอยู่เบื้องหลัง โดยมีพระจันทร์ที่สาดส่องเป็นฉากหลัง : แต่ว่าไอ้ความเกรงขามเหล่านั้น หรือจะสู้กับความงดงามที่ตอบรับกับแสงจันทร์จนเฉิดฉายของแม่สาวน้อยผู้ทรงเสน่ห์ได้

  • ซึ่งสิ่งนั้นเองท าให้พวกปีศาจบางคนต่างพากันคิดว่า : "จะให้ปลิดชีวิตอัญมณีดวงนี้เห็นทีจะน่าเสียดายนัก" ขณะที่มองเธอ

    แม้ว่าจะคิดเช่นนั้น แต่ยังไงก็ตาม เขาต้องฆ่าฮาจิเมะ แก้แค้นให้เหล่าพี่น้องที่ถูกฆ่าไปให้ได ้ด้วยสาเหตุนี้เองที่ท าให้เขายังคงผรุสวาทพ่นค าหยาบคายใส่ อย่างไม่มีความเกรงใจคู่ต่อกรที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลย

    ฟรีด : "ในฐานะที่ข้าเองก็เป็นจอมเวทย์คนหนึ่ง... ตัวข้านั้นล่ะเศร้าจริงเลย...แม่นางเอ๋ย ก็เพราะว่าต่อให้ข้านั้นใคร่ต้องการความสามารถในการใช้เวทย์มนตร์โดยไม่ต้องร่ายของเจ้ามากแค่ไหน แต่หากมาประมาทในตอนนี้ มันคงจะดูโง่บัดซบยิ่งนัก เอาอย่างนี้ดีหรือไม่เล่า... มาร่วมเคียงฝ่ายข้า แล้วข้าจะไม่ท าเจ้าเหมือนดั่งหมูตัวเมียอย่างเช่นนางอื่น..."

    แต่สิ่งที่ยูเอะตอบรับค าเชิญที่แสบสันต์ของฟรีดนั้น...

    ยูเอะ : "รอชาติหน้าเถอะ...ไอ้อัปรีย์บัดซบ"

    ค าตอบที่แฝงไปด้วยความแข้งกร้าวและเหยียดหยามเย้ยหยันเป็นสิ่งที่ได้ถูกส่งกลับไป

    แม้เธอจะด่าแบบนั้นก็เถอะ แต่มันคงจะกล่าวว่า. พอได้ดูท่าทาง สรีระ และใบหน้าของฟรีดแล้ว คนสิบคนได้มาเห็นต่างจะบอกว่าเป็นคนดี เห็นทีจะไม่เกินความจริงเลย เมื่อได้รวมกับความเก่งกาจแล้ว เขาเป็น

  • อีกคนที่เหล่าสตรีในเผ่าพันธุ์ปีศาจของเขารุมหมายปอง และที่จริงแล้ว เขาก็ไม่ได้อัปลักษณ์จนถึงขั้นต้องเรียกว่า : "อัปรีย์บัดซบ" ถึงขนาดนั้นเลยด้วยซ ้า

    แต่ทั้งหมดที่มันเป็นไป ก็ล้วนเพราะยูเอะได้เห็นธาตุแท้ของฟรีดที่สรรเสริญมหาเทพของตัวเองที่ "«Guryuu-en Great Volcano» มหาอัคคีบรรพตกุริวเอ็น" ซึ่งมันทั้งน่าสะอิดสะเอียน ขยะแขยง เหม็นเน่าจนไม่แล และเกลียดชังเข้ากระดูกด า และการที่ไอ้บัดซบนั้นยังหน้าด้านหน้าทนมาพูดเชื้อเธอให้ไปร่วมกับมันแล้ว ยิ่งที่ให้ความเกลียดชังยิ่งเพ่ิมพ้นเท่าทวี และถือว่าเป็นไอ้อัปรีย์บัดซบ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ที่เธอนั้นได้พบมา นอกจากฮาจิเมะแล้ว ทุกผู้คนที่ล้วนพบ ส่วนมากจะเป็นพวกเลวบัดซบ โง่เง่าเต่าตุ่นยิ่งกว่าเดรัจฉาน

    ฟรีดถึงกับคิ้วกระตุกเม่ือได้รับการตอบรับจากยูเอะเช่นนี้ และได้หรี่ตาลงด้วยความแสบสันต์ในความพูดที่เสียดแทง

    ฟรีด : "นี่เจ้ามันอยากจะเป็นผู้เสียสละมากนั้นหรือไรกัน... หรือเป็นเพราะเจ้ามอบความภักดีให้กับแผ่นดินนี้แล้ว จงละทิ้งค าสอนที่ท าให้เจ้าเป็นเช่นนั้นไปเถอะ... อย่าได้ท าตามสิ่งที่อาณาจักรนี้สั่งให้ท า อย่างราวระคนตาบอดอีกเลย เจ้าอยากเสียสละชีวิตให้แผ่นดินหรือไงกันเล่า...ช่างโง่เขลาและด้อยปัญญาอย่างระคนบัดซบจริงๆ เจ้ารู้ค าสอนของ

  • ท่าน "อัลฟ์ (Alv)" หรือไม่... : จงปิดตาของเจ้าลงข้างหนึ่ง ปล่อยให้ทุกสิ่งถูกท าลาย แล้วเจ้าจะได้รับการช าระล้างบาป..."

    ยูเอะตอบโต้ฟรีดที่เอาแต่พร ่าพูดเร่ืองค าสอนของสิ่งที่เขาศรัทธาซึ่งไม่ได้เข้ากับสถานการณ์ตอนนั้นเลยออกมาด้วยใบมีดวายุอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน ซึ่งที่ยูเอะท าไปแบบนั้นเพราะไม่อยากฟังค าสาธยายค าสอนติ๊งต๊องของไอ้ฟรีดบัดซบอีกนั่นเอง

    ละอองเลือดได้กระเซ็นไปบนท้องฟ้ายามสนธยา เพราะแม้ฟรีดจะหลบได้ แต่ใช่ว่าจะหลบได้ทั้งหมด เพราะว่าใบมีดวายุที่ยูเอะยิ่งใส่นั้นได้ฟันไหล่ของเขาจนเป็นแผลบาดลึก ซึ่งถ้าหากฟรีดไม่ใช่หนึ่งในคนที่พิชิตมหาดันเจี๋ยน(มหาวงกต)ล่ะก็ ป่านนี้แขนของเขาคงห้อยต่องแต่ง หรือไม่ก็ขาดสะบั้นไปแล้ว

    แม้ฟรีดจะมองไปที่ยูเอะด้วยสายตาที่เคืองโกรธสุดขีด แต่ยูเอะตอบกลับด้วยสายตาที่สงบเยือกเย็น จากนั้นเธอก็ได้ประกาศศักดาให้ไอ้พวกปีศาจบัดซบและผู้น าโง่ๆของมันได้รับรู้ทั่วกัน...

    ยูเอะ : "ไม่มีความจ าเป็นอะไรที่ต้องมาเสวนาอีก แค่แกนั้นได้ท าร้ายฮาจิเมะ มันก็เพียงพอที่ฉันจะมอบความตายอันแสนทรมานให้กับพวกบัดซบอย่างแกทุกตัวแล้ว"

  • ตอนนั้นเองพายุหิมะน ้าแข็งอันเย็นยะเยือกได้เข้าห้อมล้อมทั่วทั้งร่างกายของยูเอะ ราวกับว่านั่นเป็นสัญญาณเริ่มศึกใหญ่...

    จากพายุเล็กๆที่ห้อมล้อมทั่วร่างของยูเอะ ได้กลายมาเป็นมหาพายุทอร์นาโดขนาดยักษ์สูงจรดเสียดฟ้า และดว้ยพายุที่เชื่อมโยงสวรรค์และพิภพเอาท าไว้ ท าให้พื้นพิภพที่ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณนั้นเข้าสู่สภาวะจุดเยือกแข็งในทันที ซึ่งพายุนั้นได้ท าการแช่แข็งพวกแอชดราก้อนไปบางส่วน...

    มันเป็นที่เกิดจากเวทย์สายธาตุวายุที่รวมกับเวทย์สายธาตุน ้าแข็งได้อย่างลงตัว คือ "Storm Emperor (วายุราชันย์)" และ "Frozen Prison (เหมันต์พันธนา)" ซึ่งเมื่อทั้งสองได้ใช้ร่วมกัน จะท าให้เกิดมหาวายุน ้าแข็งที่มีอุณหภูมิต ่าเกินจุดองศาสัมบูรณ์

    และเหมือนดั่งช้างแมมมอธที่ต้องตายในสภาพแข็งทั้งตัวในยุคน ้าแข็ง พวกแอชดราก้อนที่ต้องรับศึกนี้ได้แข็งจนกลายเป็นน ้าแข็งตายแบบไร้บาดแผลเช่นกัน ก่อนที่จะร่วงลงไปร่างแหลกกระจายบนพื้นดิน ซึ่งได้ปรากฏว่า...แม้แต่อวัยวะภายในของมันก็เป็นน ้าแข็ง เลือดของมันก็แข็งจนเป็นผลึกสีแดงไปและพรั่งพรูออกมาเกลือนกลาดพื้นราวอัญมณีที่ซึ่งกลายเป็นก้อนกรวด...

    ฟรีด : "ไม่สนแล้ว... ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งเหรอไง ยิงนังนั่นให้ร่วงเลย"

  • ฟรีดที่กัดฟันด้วยความเจ็บใจเมื่อได้เห็นภาพความสูญเสียนั้น ได้ออกค าสั่งให้พวกแอชดราก้อนที่อยู่ใกล้ๆเขากว่า 20 ตัว ยิงล าแสงโจมตีใส่ยูเอะ.. ผลคือพวกแอชดราก้อนต่างยิ่งล าแสงใส่เธอมาจากทุกทิศทุกทาง

    ขณะที่ห่าล าแสงกว่า 100 สาย ได้ถูกยิงพาดผ่านท้องฟ้าจนฟ้าอร่ามแสง ได้พุ่งเข้ามายังที่ยูเอะนั้น หากว่าเป็นจอมเวทย์ทั่วไป.. ถ้าตกอยู่ในวงล้อมนั้นคงได้แต่เงอะงะ ลนลานจนท าอะไรไม่ได้และตายไปแล้ว แต่พายุน ้าแข็งมรณะของยูเอะนั้นกลับได้เป็นปราการรับห่าล าแสงที่พุ่งมาจนหมด

    แต่ถึงกระนั้น.. พายุน ้าแข็งมรณะก็ได้เริ่มสลายไปในอากาศจากพลังของห่าล าแสงที่กระหน ่า ซึ่งหากเป็นธรรมดาแล้วโดนแบบนี้คงได้บาดเจ็บหนักแน่ๆ แต่ในความจริงแล้วนั้นกลับไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะว่านอกจากยูเอะจะไม่บาดเจ็บแล้ว ยังยืนนิ่งเฉยโดยมีลูกกลมสีด าลอยอยู่รอบๆตัวเธอ

    และเพือ่ไม่ให้เสียเวลา ห่าล าแสงกว่าอีกร้อยสายได้พุ่งเข้าใส่ศัตรูที่ยังยืนอยู่รอดได้อยู่เป็นการซ ้าคร้ังที่สอง

    อย่างไรก็ตาม ห่าล าแสงกลับถูกลูกกลมสีด าอันสามารถดูดกลืนกินได้ทุกอย่างที่ลอยโดยรอบยูเอะนั้นกลืนเข้าไปภายใน หรือก็คือ ไม่ว่าจะล าแสงที่ได้พุ่งมาจากบนฟ้าเหนือหัว หรือพื้นดินเบื้องล่าง ก็ไม่อาจจะที่จะท าอันตรายยูเอะได้แม้แต่เส้นขนซักเส้นเพียงปลายก้อยเดียวเลย

  • แต่กระนั้น ยูเอะก็ยังถูกห้อมล้อมด้วยคลื่นสีเทาของพวกแอชดราก้อนอยู่ดี...

    ยูเอะที่ถูกล้อมนั้นกลับไม่ได้กังวลในการที่โจมตีที่หมายให้ถึงตายของพวกแอชดราก้อนเลย อีกทั้งยังได้หลับตาลงอย่างสงบ ซึ่งเมื่อใดที่ท าแบบนั้น ทุกคนจะรู้กันว่า..ตอนนั้นเธอได้ท าการท าสมาธิ ซึ่งเธอจะขยับตัวไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งเป็นโอกาสให้พวกแอชดราก้อนเตรียมการได้เสร็จพร้อมกับอ้าปากออกเตรียมยิงล าแสง

    และในขณะที่พวกมันคิดว่าเหยื่อของมันยอมแพ้ และไม่อาจจะหนีความตายที่มันจะมอบให้แล้วนั้นเอง ยูเอะที่อยู่เบื้องหน้าพวกมันก็ได้ลืมตาขึ้นพร้อมเอ่ยปากร่ายพลังเวทย์ออกมา

    ยูเอะ : "Beheading Threads - [ด้ายสะบ้ันเศียร]"

    ซึ่งในจังหวะนั้นเอง พื้นพิภพได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง...

    พวกแอชดราก้อนได้แข็งทื่อไปชั่วขณะ ต่อจากนั้นร่างของมันก็เร่ิมสะบั้นออกพร้อมๆกับเลือดที่พุ่งออกมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะแตกออกกลายเป็นชิ้นๆ ราวกับพวกมันเป็นเหมือนกระจกที่มีคนจงใจท าให้มันแตก กระจัดกระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า

  • แม้ว่าเวทย์โจมตีสายท าลายแบบครอบคลุมพื้นที "Beheading Threads (ด้ายสะบ้ันเศียร)" นั้นจะสามารถตัดผ่านวัตถุได้แทบทุกอย่าง แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่สามารถตัดผ่านพลังเวทย์ได้

    และด้วยเวทย์สะบั้นวัตถุนั่นเอง ท าให้พวกแอชดราก้อนกว่า 30 ตัว ได้ถึงแก่ความตายลงอย่างที่ไม่อาจจะร้องขอชีวิตหรือแม้แต่รู้ตัวว่าโดนอะไรเลย ซึ่งภาพแห่งการท าลายล้างอันที่ซึ่งไม่ใช่แค่ทรงพลังอย่างเดียว แต่ยังรวดเร็วผิดธรรมชาติ ท าให้ฟรีดตัวส่ันด้วยความหวาดหวั่น เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่ายูเอะเหนือกว่าเขาหลายขุม

    ฟรีด : "สามารถเพียงนี้...นี่แกเป็นผู้ถูกเลือกหรือไงกัน แบบนี้...เห็นทีค าเชิญของข้าคงไม่ได้ผลแล้ว"

    ฟรีดที่เหงื่อเย็นไหลโชกได้พูดอกมาราวคนที่ท าใจยอมรับความจริงได้อย่างสงบ แต่ถ้าหากมองดูท่าทางของยูเอะใกล้ๆแล้ว คงพอเดาออกทันทีเมื่อได้เห็นว่า : "เข้าใจผิดยังพอว่า แต่ดันเลยเถิดขนาดนั้นฉันทนไม่ได้"

    ยูเอะ : "ตลกล่ะ...ที่ฉันสู้ก็เพื่อฮาจิเมะคนเดียวเท่านั้น อย่าได้เอาฉันไปรวมกับไอ้คนบัดซบอย่างแกนะ..."

  • ค าพูดที่ทั้งแสบสันต์และหยาบคายนั้น ท าให้ฟรีดผู้ศรัทธาในมหาเทพของตนสูงสุดอย่างหาที่ใดเปรียบได้โกรธสุดขีด เพราะการหยามมหาเทพคือสิ่งที่ต้องห้ามของฟรีด

    ฟรีด : "ก็ได้...ข้าจะไม่พูดมากอีกแล้ว พวกเราจะฆ่าเจ้า และโยนศพของเจ้าให้ไปตกอยู่เบื้องหน้าไอ้หมอนั่น แม้ตอนนั้นอาจจะดูขลุกขลัก แต่คราวนี้ไอ้หมอนั่นไม่รอดแน่"

    ยูเอะ : "พูดมากจริง...ท าให้ได้ก่อนแล้วค่อยพูดดีกว่ามั้ง...ไอ้อัปรีย์"

    ฟรีดตอบรับค าพูดเย้ยหยันนั้นด้วยอาการโกรธจัดจนเส้นปูดขึ้น และอย่างที่ยูเอะพูด ท าให้เห็นดีกว่าพูดปากเปล่า

    และอย่างที่เห็นที่ "«Guryuu-en Great Volcano» มหาอัคคีบรรพตกุริวเอ็น" ฟรีดได้ท าการออกค าสั่งต่อเจ้าอีกาปีศาจที่อยู่บนไหล่ของเขา จากนั้นกลุ่มพวกปีศาจบัดซบบางส่วนได้ถอนก าลังไปโจมตีก าแพงชั้นนอก ในส่วนพวกอยู่ภาคพื้นดินได้เริ่มท าการโจมตียูเอะ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเจตนาแต่เดิมอยู่แล้ว

    ขณะที่ยูเอะใช้ลูกกลมแรงโน้มถ่วงสีด ารับห่าล าแสงของพวกแอชดราก้อนนั้นเอง เธอก็ได้ท าการร่ายเรียก "Thunder Dragon - มังกรอัสนี" ออกมา ซึ่งมังกรตัวนั้นก็ได้ถลาลงมาจากท้องฟ้าอันด าทะมึนพร้อมกับเสียงสีหนาทค าราม พร้อมกับบินตรงไปที่ห่าล าแสงของพวกแอชดรา

  • ก้อนและฟรีดที่ถูกเวทย์ "Exceeding Curse" ตรึงไว้ ซึ่งผลก็คือ มังกรอัสนีได้ท าการกลาดล้างพวกที่อยู่ภาคพื้นดินจนสิ้น

    และอย่างที่เคยเป็น ทุกๆสิ่งที่อยู่ใกล้จะต่างกระโดดเข้าไปในปากของมังกรอัสนี...ซึ่งมันก็เป็นส่ิงที่เกิดขึ้นทุกครั้งอยู่แล้ว แต่ในขณะที่มังกรอัสนีก าลังล้างผลาญศัตรู มันก็ได้ถูกเต่าหกขาที่ดูแล้วน่าจะเป็นพวกเดียวกับ "Absod - อาบูโซด" ขนาด 5 เมตร จ านวน 6 ตัวขวางเอาไว้ ซึ่งพวกมันต่างเปิดปากเพื่อที่จะกลืนกินมังกรอัสนีนั้นให้ได้...

    "Absod - อาบูโซด" ถือว่าเป็นหนึ่งในสัตว์อสุรปีศาจ ที่สตรีชนเผ่าปีศาจนามว่า "Cattaleya - คัทลิย่า" ได้น าไปใช้ที ่"«Orcus Great Dungeon» มหาดันเจี๋ยนแห่งออร์คุส (มหาวงกตแห่งออร์คุส)" ซึ่งมันมีความสามารถดูดพลังเวทย์ของผู้อื่นใช้มาเป็นของตัวมันเองได้ อย่างไรก็ตาม... ขนาดของเจ้าอาบูโซดที่ก าลังกลืนกินมังกรอัสนีพวกนี้มีความแตกต่างจากตัวที่อยู่ในมหาดันเจี๋ยน(มหาวงกต)มากมาย ซึ่งหมายความว่าพวกนี้เป็นพวกที่ได้รับการดัดแปลงและปรับปรุงมาแล้ว...

    อย่างไรก็ตาม สมกับมังกรอัสนีอันทรงพลัง แม้ว่าพวกอาบูโซดจะดูดกลืนพลังเข้าไปอย่างเชื่องช้าและดูจะคงที่ก็ตาม แต่ว่า ข้อจ ากัดของพวกมันที่ว่าสามารถดูดกลืนเวทย์สายธาตุได้เพียงครั้งละหนึ่งสายธาตุ

  • เท่านั้นก็ยังไม่เปลี่ยน เพราะถึงแม้ว่าจะกลืนเวทย์อัสนีธาตุได้ แต่ว่าเพียงมหาเวทย์แรงโน้มถ่วงก็พอที่จะท าลายมันได้แล้ว

    อาบูโซดทั้งหกตัวลอยเข้าหามังกรอัสนีที่อ่อนพลังเวทย์แห่งอัสนีธาตุอย่างรวดเร็ว และก่อนที่พวกมันจะถูกดูดเข้าไปยังในปากของมังกรนั้นเอง อาบูโซดอีกตัวนั้นได้เริ่มดูดกลืนมหาเวทย์แรงโน้มถ่วง ซึ่งก็ตามคาด... แม้แต่มังกรอัสนีเองนั้นก็ไม่อาจที่จะทานทนต่อพลังจาก "Magic Stroge (คร่ากุมพลังเวทย์)" ได้ ซึ่งนั่นท าให้มังกรอัสนีไม่อาจจะคงสภาพอยู่ได้อีกและได้ถูกดูดกลืนเข้าไปจนหมดสิ้น

    แต่หลังจากนั้นเวทย์มนตร์อันทรงพลังก็ถูกยิงจากปากของมันใส่ยูเอะ

    ยูเอะ : "ร าคาญชะมัด..."

    การโจมตีได้พุ่งเข้าหายูเอะราวกับจรวดต่อต้านอากาศยานที่ถูกยิงขึ้นมาจากภาคพื้นดิน.. ซึ่งยูเอะได้ใช้ลูกกลมแรงโน้มถ่วงที่ดีที่สุดในตอนนี ้รับมือห่าล าแสงของพวกแอชดราก้อน มังกรขาว และอาบูโซด ท าให้รอดพ้นจากการร่วงหล่นลงไปได้อย่างหวุดหวิด

    ฟรีด : "หึหึ...ข้าพอจะเข้าใจถึงพลังของไอ้มังกรแปลกนั่นแล้วล่ะ ตราบใดที่มีอาบูโซด...เวทย์มนตร์ของเจ้าก็ไร้ผล"

  • แม้ฟรีดจะพูดเย้ยเยาะ แต่ยูเอะที่ถูกกล่าวถึงกลับไม่น าพามองไปที่อาบูโซดอย่าเงียบงัน และในช่วงสั้น เธอก็คิดอะไรบางอย่างออก และเร่ิมโจมตีพวกมันอีกครั้ง

    ฟรีด : "คิดใช้พลังสะบั้นแผ่นดินนั่นอีกครั้งเหรอ...อย่าหวังเลย"

    เจ้ามังกรและพวกแอชดราก้อนเพิ่มระดับความแรงของการโจมตีขึ้น และในจังหวะนั้นเอง เจ้าสัตว์อสรุปีศาจที่คล้ายแมวด าก็ได้กระโดดข้ึนจากพื้นดินพุ่งตรงเข้าหาเธอ

    แม้ว่าจะใช้ลูกกลมแรงโน้มถ่วงสกัดห่าล าแสงที่พุ่งมาได้ก็ตาม แต่ทว่าสมาธิส่วนใหญ่ของยูเอะนั้นกลับถูกใช้ไปกับการสร้างและก็ควบคุมเวทย์มนตร์บทอื่น ท าให้การเคล่ือนของเธอช้าลงกว่าที่เคย ซึ่งเจ้าแมวด าได้ฉวยจังหวะนั้นกระโจนขึ้นจากพื้นดินพุ่งตรงเข้าหาเธอ และได้ยิงหนวด(รยางค์)จ านวนนับไม่ถ้วนใส่อย่างรวดเร็ว ซึ่งไอ้เจ้าแมวด านั่นมันก็เป็นสัตว์อสุรปีศาจอีกประเภทหนึ่งในสตรีชนเผ่าปีศาจที่ตายไปคนนั้นเคยใช้เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะต้องใช้ลูกกลมแรงโน้มถ่วงรับมือห่าล าแสงที่พุ่งเข้ามาโจมตีแล้ว เธอนั้นก็ยังต้องรับมือกับทั้งหนวด(รยางค์)และกรงเล็บที่ฟาดตะปบใส่ด้วย

    ซึ่งในขณะที่ทั้งโจมตีและป้องกันไปด้วยพร้อมกันนั้นเอง บาดแผลจ านวนมากจนนับไม่ถ้วนก็ได้ปรากฏขึ้นทั่วร่างของยูเอะ พร้อมกับละอองเลือดที่กระเว็นไปทั่วท้องฟ้ายามสนธยา แต่บาดผลพวกนั้นไม่ใช่

  • ปัญหาด้วยเพราะเป็นแผลสด และเวทย์มนตร์ที่แท้จริงนั้นก็ไม่ใช่ลูกกลมแรงโน้มถ่วงมาตั้งแต่แรก แต่มันกลับเป็นเวทย์ "Regeneration Power - คืนกายา(ฟื้นฟูอัตโนมัติ)" ที่สุดแสนจะขี้โกงต่างหาก

    และเหตุที่ใช้ข่ายมนตร์ป้องกันการโจมตีนั้นก็เพราะตอนนี้มีชาวคณะอยู่ด้วย อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้ผ้าผ่อนเสื้อแสงที่เธอใส่ได้รับความสกปรกเสียหายจนสร้างความล าบากและต้องเปลี่ยนชุดให้ร าคาญใจ ซึ่งการที่เธอไม่ได้สนใจในการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ปล่อยให้มันโจมตีใส่อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเป็นการปล่อยให้โจมตีฝ่ายเดียวนั้น คือสไตล์การการโจมตีทั่วไปที่แท้จริงของยูเอะ

    ฟรีดที่ซึ่งแสดงสีหน้าราวกับว่าตัวเองเป็นผู้ชนะเมื่อก่อนหน้านี้นัน้ ได้แปรเปลี่ยนไปกลายเป็นตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเขาได้เห็นพลัง "Regeneration Power - คืนกายา(ฟื้นฟูอัตโนมัติ)" ของยูเอะ

    ฟรีด : "มหาเวทย์แห่งเทวสมัย... นี่อีนังนั่นมันได้มากี่บทกันแน่เนี่ย"

    แม้ว่าสิ่งที่ฟรีดพูดให้ยูเอะได้ยินนั้นจะไม่ได้เป็นการเข้าใจผิดไปหลายโยชน์ แต่เขาได้ท าการออกค าสั่งให้ท าการกระหน ่าโจมตีเธอต่อไปจนกว่าพลังแห่งการฟื้นฟูนั้นจะถึงขีดจ ากัด และต่อจากนั้นเขาก็ฉวยโอกาสร่ายคาถามหาเวทย์แห่งยุคเทพเจ้า...

  • อย่างไรก็ตาม ยูเอะกลับเหนือยิ่งกว่าฟรีด ด้วยเพราะเธอนั้นได้หลับตา ตั้งจิตเพ่งสมาธิไปกับการร่ายมนตร์อยู่ก่อนแล้ว... ซึ่งในขณะที่ลืมตานั้นเอง ท้องนภาได้เกิดเสียงดังสนั่นกัมปนาทแห่งสายอัสนีดังขึ้น พรอ้มกับเสียงเอ่ยคาถาอันน่ารักของแม่สาวน้อย

    ยูเอะ : "Five Heavenly Dragons - [มังกรเทพปัญจธาตุ]"

    สิ้นเสียงนั้น.... เมฆสีด าทะมึนก็ได้ปรากฏขึ้นพร้อมๆกับอัสนีค าราม อีกทั้งสายลมพัดแรงจนกลายเป็นพายุกรรโชก รวมไปถึงกระแสน ้าถูกสายลมเย็นยะเยือกกลายเป็นน ้าแข็ง และลมพัดเอาทรายทั้งหลายทั้งปวงแปรสภาพขึ้นเป็นรูปร่าง พร้อมกับมหาเพลิงที่ซึ่งได้แปรสภาพรูปร่างแห่งกายสรรพธาตุ สรรพธาตุทั้งหมด พสุธา...วารี...วาย.ุ..อัคคี...อัสนี ต่างได้แปรสภาพกลายเป็นมังกรยักษ์ห้าตัว ก่อให้เกิดความประหวั่นพรั่นพรึงถาโถมไปทั่วทั้งอาณาบริเวณ

    อย่างที่คาดเอาไว้.. มังกรเทพปัญจธาตุทั้งห้าสามารถมองเห็นได้ในท้องฟ้ายามกลางคืนเหนือพระนคร แม้ว่าแกนภายในนั้นจะเป็นมหาเวทย์แรงโน้มถ่วง แต่กายภายนอกของแต่ละตัวนั้นเป็นร่างกายที่แตกต่างกันในแต่ละธาตุ

    Gooaaaaaaa~!!!

  • ทั่วนภากาศยังต้องสั่นสะเทือนด้วยเสียงสีหนาทค ารามแห่งเหล่ามังกรเทพปัญจธาตุ

    พวกแอชดราก้อนต่างรู้ตามสัญชาตญาณว่าพวกมันไม่อาจจะสู้กับมังกรเทพปัญจธาตุทั้งห้าที่ทรงพลังปานเทพอสูรได้ พร้อมกับได้ร้องครางออกมาด้วยความหวาดกลัวสุดขีด ซึ่งในสายตาของพวกมันต่างพากันส าเหนียกแล้วว่า ยังไงพวกมันก็ไม่สามารถที่จะจัดการยูเอะได ้พร้อมกับมองไปฟรีดราวกับขอความช่วยเหลือ

    ฟรีดที่ขี่หลังมังกรขาวนั้นได้เกิดอาการโกรธจัดอีกครั้ง เมื่อเขาได้เห็นท่าทางของเจ้าพวกแอชดราก้อนที่ต่างหวาดหวั่น และได้คลายการร่ายเวทย์ลง ซึ่งยูเอะไม่รอช้า ได้ใช้จังหวะนั้นสั่งการให้มังกรเทพปัญจธาตุทั้งห้าโจมตีศตัรูที่อยู่ภาคพื้นดินในทันที

    พวกอาบูโซดที่กลืนกินมังกรอัสนีไปในเมื่อก่อนหน้านี้ได้เข้ารับมือด้วยการอ้าปากหมายกลืนกินพลังเวทย์ แม้ว่ามังกรอัสนีจะถูกดูดกลืนพลังไปบ้าง แต่ในคราวนี้.... ไม่เหมือนที่แล้วมา ด้วยเพราะว่าเจ้ามังกรฟ้าครามได้พุ่งเข้ามาจากด้านหลังของมังกรอัสน ีซึ่งเมื่อพลังของมังกรธาตุทั้งสองได้มารวมกัน.. พลังอันทรงอ านาจที่ซึ่งร้อนระอุสุดขั้วนั้นก็ได้เผาเจ้าอาบูโซดที่เคราะห์ร้ายนั้นจนกลายเป็นตอตะโกก่อนที่จะกลายเป็นเถ้าถุลี

    [Kuaaaaaan~!!]

  • เจ้าอาบูโซดเคราะห์ร้ายตัวนั้นกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากการถูกเพลิงมหาวินาศที่รวมธาตุอัคคีและอัสนีเอาไว้ด้วยเล่นงานจนหลอมเหลวทั้งเป็นไป ซึ่งมังกรธาตุทั้งสองได้แยกออกจากกันก่อนที่จะหันไปจัดการกับเป้าหมาย คือ อาบูโซดตัวอื่นๆต่อ อีกด้านหนึ่ง อาบูโซดอีกตัวก าลังถูกจัดการโดยมังกรวายุ และที่เหลือก็ต่างกรีดร้องเสียงไปถึงฟากฟ้าด้วยเพราะถูกมังกรกัดใส่ ซึ่งพวกมังกรได้ทั้งเอาเศษซากที่หลอมเหลวและเป็นตอตะโกของพวกอาบุโซดทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง

    ใกล้ๆกันนั้นก็มีเหตุท านองเดียวกันเกิดขึ้น อาบูโซดอีกตัวถูกแช่แข็งโดยมังกรเหมันต์ ส่วนมังกรพสุธานั้นท าให้อาบูโซดอีกตัวที่ร่างกลายเป็นหินกลิ้งไปบนพื้น ซึ่งนอกจากนี ้มังกรวายุที่จัดการเป้าหมายเสร็จก็รวมเข้ากับมังกรอัสนีจัดการเจ้าปีศาจแมวด าที่อยู่ข้างๆอาบุโซดอีกตัวจนเป็นชิ้นๆอีกด้วย

    และอย่างที่พอจะเดาออก... ยูเอะเหนื่อยหอบพร้อมเหงื่อที่ไหลโชกทั้งศรีษะของเธอ อันเนื่องมาจากการใช้มังกรเทพปัญจธาตุอย่างหักโหม ซึ่งพอพวกมันได้จัดการพวกอาบูโซดที่อยู่ภาคพื้นดินแล้ว เป้าหมายต่อไปของพวกมันก็คือพวกแอชดราก้อนที่อยู่ภาคพื้นอากาศ

    ในตอนนี้กองก าลังมังกรไร้ผู้ต้านของฟรีดได้ถูกท้าทายโดยมังกรเทพปัญจธาตุของยูเอะ และคงไม่ต้องสงสัยว่าพวกแอชดราก้อนจะ

  • กลายเป็นอาหารอันโอชะของพวกมันหรือไม่ ซึ่งภาพที่ปรากฏนั้นแสดงให้เห็นว่ายูเอะเหนือกว่าฟรีดแค่ไหน

    ฟรีดเพิ่งจะมาส านึกส าเหนียกก็เอาเมื่อในตอนสายเกินแก้ - ภาพของปีศาจที่ซึ่งตัวเขานั้นควรจะหลีกหนี...ไม่ใช่ต่อสู้ ที่ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเด็กหนุ่มที่จู่โจมสร้างความเสียหายต่อเขาที่ "«Guryuu-en Great Volcano» มหาอัคคีบรรพตกุริวเอ็น" เท่านั้น แต่ว่ายังได้รวมไปถึงแม่สาวน้อยที่มาปรากฏอยู่ตรงหน้าต่อสายตาของเขาในตอนนี้ด้วย ซึ่งคงแทบจะไม่ต้องสงสัยเลย ว่าหากสู้กับเธอนั้นมันก็เหมือนกับเอาชีวิตไปเสี่ยงขว้างทิ้งอย่างหาประโยชน์อะไรไม่ได้อีก...

    เขาเริ่มเสียใจแล้วที่หาญกล้าพูดหยาบคายหยิ่งยโสใส่เธอไปแบบนั้น...

    และหลังจากนั้นฟรีดก็ได้ทุ่มพลังเวทย์ทั้งหมดโจมตีใส่ยูเอะ

    ฟรีด : "ยิ่งกว่าพื้นพสุธาที่สั่นสะเทือนหวั่นไหว หรือใคร่เหนือก าปั้นเหล็กแห่งยักษา ช่างเหนือสีหนาทแห่งนาคา อีกทั้งก้าวบาทาอันย ่าไป... แม้นว่าพสุธามิเคยเห็น แต่ใช่ว่าเป็นได้ยิน ซึ่งสิ้นเสียงร้องกรีดสะท้อน โอ้..เทวเนตรอันทรงฤทธิ์ ปราณเทวัญอันศักดา จนบดขยี้สิ้นหวังอันหนักหนา ให้ได้แหลกราญลงมาด้วยเถอญ..."Trembling Heaven"..."

    พื้นที่ทั่วอาณาบริเวณนั้นเกิดอาการสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับโลกก าลังคร ่าครวญ

  • "หึ" ยูเอะได้ใช้ความคิดพร้อมกับเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นด้วยเพราะเธอเวทย์บทนี้ดี ซึ่งนั่นท าให้เธอเตรียมการรับมือในทันใด เพราะต่อให้หนียังไงก็ไม่พ้นอ านาจของเวทย์บทนี้ ซึ่งได้ท าให้การป้องกันของเธอแหลกสลายลงในทันใด

    หลังจากได้คลายอ านาจเวทย์ที่ใช้ไปกับมังกรเทพปัญจธาตุและลูกกลมแรงโน้มถ่วงแล้ว ยูเอะได้ตกลงไปในพื้นที่แห่งเวทย์นั้น ด้วยเพราะว่าเธอนั้นไม่มีพลังพอที่จะใช้เวทย์บทอื่นแล้ว ซึ่งในขณะที่ยูเอะตกอยู่ในพื้นที่แห่งเวทย์นั้น จู่ๆพื้นที่อยู่ในอาณาเขตแห่งเวทย์นั้นก็ยุบลงเกิดการระเบิดรุนแรงึ้น

    พื้นดินยุบลงและดันประทุข้ึนมาเอง ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่ารุนแรงแค่ไหน และถึงแม้ว่าพวกกองก าลังภาคพื้นดินและพวกแอชดราก้อนจะพินาศสิ้นไปแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นหลังจากนั้น มันช่างกลับทรงพลังจนถึงกับคว้านเอาพื้นดินเป้าก้อนเมฆาออกไปเลยทีเดียว

    เวทย์มนตร์สายธาตุพสุธาแบบครอบคลุมพื้นที่ "Trembling Heaven" จะท าให้พื้นที่ในอาณาเขตแห่งเวทย์นั้นถูกบีบอัด เป็นเวทย์มนตร์ที่ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนและระเบิดประทุขึ้นมา

    ฟรีด : "ฮึ...สมแล้วที่เป็นมหาเวทย์แห่งเทวสมัย"

  • อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะโดยการท าลายล้างอันรุนแรงถาโถมใส่หนักหนาสาหัส แต่ยูเอะก็ยังรอดมาได้ ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าจะฉีกขาด อีกทั้งยังมีเลือดไหลซิบๆที่มุมฝีปาก และก็ยังมีอาการที่บอกว่าอวัยวะภายในบอบช ้าอีกด้วย แต่ถึงจะอย่างนั้น เมื่อเทียบกับความรุนแรงที่กระหน ่าใส่ อาการของยูเอะยังออกจะดูน้อยไปด้วยซ ้า...

    ซึ่งอาการบาดเจ็บของเธอได้หายไปอย่างรวดเร็ว...

    และเป็นปกติธรรมดา... ด้วยเพราะพลังที่ยังมีเหลือเฟือ ท าให้บาดแผลทั่วทั้งร่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นได้ เพราะว่ายูเอะได้ใช้เวทย์ "Restraining Threads - ยั้งธรณี" ก่อนที ่"Trembling Heaven" จะท างาน มันเป็นเวทย์สายพสุธาที่ใช้ในการฟื้นฟูพ้ืนที ซึ่งเป็นเวทย์มนตร์ที่มีประโยชน์ที่ใช้ทั้งการในการป้องกันและยับยั้งในคราวนี้ ยิ่งไปกว่านั้น พลังเวทย์ที่ต้องใช้ก็ได้อยู่ในจุดที่ต้องยอมให้เสื้อผ้าของเธอฉีกขาดอีกด้วย

    แต่กระนั้นพ้ืนดินที่เสียหายก็ยังไม่กลับมาดีดั่งเดิมด้วยเพราะได้รับการฟื้นฟูอย่างฉับพลัน และแม้ว่ายูเอะจะเสียหายบางส่วน ซึ่งสามารถใช้พลัง "Regeneration Power - คืนกายา(ฟื้นฟูอัตโนมัติ)" รักษาอาการบาดเจ็บทางกาย ส่วนเสื้อผ้าก็ใช้ "มหาเวทย์แห่งการเยียวยาและการฟื้นฟู (หรือในอกีชื่อคือ "มหาเวทย์แห่งการคัดลอกและย้อนคืน")" ให้คืน

  • มาใหม่ได้ก็ตาม แต่ถึงกระนั้น ด้วยพลังอันล้นเหลือท าให้ร่างกายภายในของเธอกลับมาสวยดั่งเดิมอีกครั้ง

    รูปร่างอันทรงสง่าท่ามกลางแสงจันทราที่สาดส่องราวกับไม่มีมลทินใดๆบนพื้นแผ่นดินโดยรอบที่ล้วนพินาศส้ินไปนั้น กลับเป็นสิ่งที่ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสวยงามราวกับเป็นเทพฤทธิ์ที่มีชีวิตได้อย่างน่าตกตะลึงสุดจะพรรณา

    อย่างไรก็ตาม มีเพียงคนเดียวที่ไม่หลงสนใจในความงดงามของยูเอะ ซึ่งเขาได้เข้าท าร้ายจากจุดบอดของเธอ

    ฟรีด : "รู้อยู่แล้วว่าต้องทนได้... เพราะงั้นอีนังอสูรคราบเด็กน้อยเอ๋ย...จงตายเสียเถิด"

    ฟรีดได้พุ่งผ่านทวาราข้ามมิติที่จู่ก็เปิดออกปรากฏขึ้นด้านหลังของยูเอะ ซึ่งตอนนั้นเองเจ้ามังกรขาวก็ได้เค้นพลังล าแสงเตรียมยิงเอาไว้อยู่แล้ว

    และถึงแม้ว่ายูเอะจะใช้พลัง "Falling (หลบฉับพลัน)" เบี่ยงหลบล าแสงมรณะไปได้ แต่ก็ไม่วายไม่พ้นต้องถูกเจ้ามังกรขาวเข้าขย ้า ซึ่งมันตั้งใจจะขย ้าแขนทั้งข้างของเธอลงไปในท้องของมัน

    เลือดได้ไหล "ฉูดดดดดด" ออกมาจากแขนข้างที่ขาดไปด้วยรอยขย ้าของมังกรขาวที่ฝากเอาไว้ ด้วยเพราะไม่อาจจะขย ้าแขนจรดไหล่ทั้งข้าง

  • ลงไปได้ ซึ่งในขณะที่เลือดได้เปรอะไปทั่วทั้งผิวหนังของมัน มันก็ได้เค้นพลังยิงล าแสงมรณะใส่ในระยะเผาขนในทันที

    ดูเหมือนว่าในขณะที่ฟรีดใช้มหาเวทย์นั้นจะได้เตรียมแผนการณ์เอาไว้หมดแล้ว จึงท าให้ตอนนี้เขากลับมามองไปที่สารรูปของยูเอะพร้อมกับยิ้มราวกับเป็นผู้ชนะอีกครั้ง แต่ในขณะที่เขามองลงไปดูสารรูปของผู้ที่เขาคิดว่าแพ้ไปแล้วนั่นเอง อาการขนลุกซู่ไปจนถึงไขสันหลังได้พุ่งผ่านทั่วทั้งร่างของฟรีด ซึ่งมาพร้อมกับสายตาแห่งความสะใจที่ได้แปรเปล่ียนเป็นตกใจสุดขีด

    เพราะตอนนี้ ยูเอะที่ควรบาดเจ็บหนักกลับลุกขึ้นมาได้อย่างง่ายดายหน้าตาเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมๆกับได้ยิ้มแบบโค้งมนปานพระจันทร์เสี้ยว ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ซึ่งไม่ได้แสดงถึงความเป็นศักดิเทพผุ้ทรงอ านาจอันสูงส่งอย่างเช่นเคย เพราะว่าเมื่อแสงสว่างได้ทาทาบบนร่างของยูเอะอีกครั้ง รอยยิ้มแห่งความศักดิ์สิทธิ์นั้นได้แปรเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มแห่งมหาจอมอสูรผู้ทรงเดชาแห่งความชั่วช้าอันสุดประมาณ...

    ซึ่งสายลมแห่งยามสนธยาได้พัดพาให้ผมสีบลอนด์นั้นปลิวสยายอย่างน่าเกรงขาม... และเผยให้เห็นเนตรสีแดงดุจทับทับทิมที่วาวโรจน์

    หรือก็คือ

    -บังอาจแตะต้องถึงเพียงนี้เลยเหรอ

  • และ

    บทร่ายเวทย์แห่งมหาเวทย์แห่งยุคเทพเจ้าก็ได้เอื้อนออกมาจากปากของยูเอะอย่างเงยีบๆ

    ยูเอะ : "[ดาบคืนสนอง]"

    ทันใดนั้นนั้น จู่ๆภายใต้แสงจันทร์อันเฉิดฉายนั้นก็ได้พลันเกิดเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดทรมานสุดพรรณาราวคนใกล้ชะตาขาดสองเสียงดังขึ้นมา

    ฟรีด : "อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    Kuuruaaan~!!

    มังกรขาวบิดร่างของมันไปมาด้วยความเป็นปวดที่รุนแรงและร้าวลึก แม้ว่าแขนที่ขาดไปของยูเอะนั้นจะงอกคืนมาเป็นปกติแล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่กังวลเหตุอันใด ทั้งยังใช้มหาเวทย์แรงโน้มถ่วงท าให้เธอลอยขึ้นสู่ท้องนภา และในขณะช่วงที่แขนอันได้ขาดไปนั้นงอกคืนมานั่นเอง เธอก็ได้เป็นฝ่ายที่เมียงมองลงไปที่ฟรีดกับเจ้ามังกรขาวที่ต่างดีดดิ้นพล่านไปมาพร้อมๆกับเลือดที่ทะลักออกมาจากทั่วทั้งร่างของทั้งสองบ้าง...

    ยูเอะ : "เป็นไง...บาดแผลที่เกิดขึ้นกับฮาจิเมะ เจ็บปวดถึงข้ัววิญญาณไหมล่ะ..."

  • ฟรีด : "อ้ากกกก....อีนังบัดโซ๊บบบบบบบบบบบบบ"

    ฟรีดได้จ้องมองไปที่ยูเอะที่มีพระจันทร์ที่สาดส่องเป็นฉากหลังด้วยความโกรธ

    ทั้งฟรีดและเจ้ามังกรขาวล้วนต่างได้รับบาดเจ็บหนักทั้งคู่ เจ้ามังกรขาวนั้นได้รับบาดที่ตรงหน้าอกที่โดนเผาไหม้จนมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดตลอดเวลา ซึ่งดูเหมือนว่า อีกแค่ภายในเวลาไม่นานมันก็จะถึงแก่ความตาย ส่วนฟรีดเองก็ใช่ย่อย มีทัง้เลือดไหลอาบหน้าและมีบาดแผลที่หน้าอกเช่นกัน แขนซ้ายห้อยต่องแต่งอันได้มาจากความเสียหายอันรุนแรง อีกทั้งยังได้กระอักเลือดเสียออกมาเป็นระยะ ด้วยเพราะอวัยวะภายในได้รับความเสียหาย นอกจากนี้...ยังมีบาดแผลทั้งเล็กและใหญ่อีกนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่ทั่วทั้งร่าง

    บาดแผลทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เป็นบาดแผลเดียวกับที่ฮาจิเมะประสบที่ "«Guryuu-en Great Volcano» มหาอัคคีบรรพตกุริวเอ็น" ทั้งสิ้น ซึ่ง "ดาบคืนสนอง" เป็นอีกหนึ่งบทเวทย์มนตร์ที่ซึ่งอยู่ใน "มหาเวทย์แห่งการเยียวยาและการฟ้ืนฟู (หรือในอีกชือ่คือ "มหาเวทย์แห่งการคัดลอกและย้อนคืน")" ที่ซึ่งสามารถโยกย้ายความเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บทั้งหลายทั้งปวงที่ซึ่งได้สะสมเอาไว้ภายในของผู้ใช้ทั้งหมดนั้น ไปยังที่เป้าหมายที่ซึ่งอยู่ในอาณาเขตไม่เกินเกินรัศมี 3 เมตร ซึ่งจะให้ไกลมากขึ้นแค่ไหน อีกทั้งจะให้ส่งถ่ายอาการบาดเจ็บมากเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับ

  • พลังเวทย์ที่ใช้ว่ามากแค่ไหน ยิ่งอาการหนักหนาสาหัส ยิ่งต้องใช้พลังเวทย์มาก

    อันที่จริงถ้าเป็นไปได้ยูเอะอยากจะใช้เวทย์บทนี้ตอนต้อนให้ฟรีดจนมุม ซึ่งการผลการต่อสู้ในครั้งนี้ได้จบลงด้วยการช าระความแค้นส่วนตัวได้ส าเร็จ และชัยชนะของยูเอะ เพราะว่าตอนที่คนอันเป็นที่รักของเธอถูกโจมตีจนปางตายที่ "«Guryuu-en Great Volcano» มหาอัคคีบรรพตกุริวเอ็น" นั้น ภาพที่เห็นนั่น...ท าให้เธอนั้นใจแทบขาดรอน และไม่อาจจะให้อภัยต่อความหยาบช้าในครั้งนั้นได้ ท าให้นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เธอจึงได้สาบานกับตัวเธอเองว่า : "เจอกันครั้งหน้า...กูจะส่งมึงลงนรกให้ได้"

    และในตอนที่เธอนั้นได้รับ "มหาเวทย์แห่งการเยียวยาและการฟื้นฟู (หรือในอีกชื่อคือ "มหาเวทย์แห่งการคัดลอกและย้อนคืน")" จาก "«Meljeenae’s Seabed Ruin» ซากมหาโบราณสถานใต้ทะเลแห่งเมลจีเนอี" ภาพแหง่ความเลวทรามที่ "«Guryuu-en Great Volcano» มหาอัคคีบรรพตกุริวเอ็น" ในคราวนั้นก็ได้หวนคืนกลับเข้ามาในความคิดของเธอ ท าให้เธอเกิดความคิดที่จะใช้เวทย์ "ดาบคืนสนอง" ใส่เขา ซึ่งท าให้ยูเอะเกิดอาการ "ยันเดเระ" แบบที่ควบคุมไม่อยู่ขึ้นมา...

    อย่างไรก็ตาม เพราะว่ายูเอะนั้นเป็นสายต่อสู้ระยะไกล จึงอ่อนด้อยเร่ืองการต่อสู้ระยะประชิดตัว ท าให้ไม่สามารถเปิดใช้ในตอนที่ฟรีดกับ

  • เจ้ามังกรขาวนั้นได้บินหนีไปด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะโดนเข้าไปเต็มๆในภายหลังได้ ดังนั้นเธอจึงคิดว่า : "ก่อนที่จะใช้เวทย์บทนี้ต้องท าให้ตัวเองเจ็บให้มากๆถึงมากที่สุดเสียก่อน แล้วพอถึงเวลาที่จะใช้ เวลานั้นแหละมันถึงจะสาแก่ใจฉัน..." อย่างไรก็ตาม...ฟรีดและเจ้ามังกรขาวได้เดินเข้ามาติดกับดักที่เธอวางเอาไว้เข้าเต็มเปา ท าให้เธอได้ยิ้มออกมาอย่างระคนที่อยากบอกว่าช่วยไม่ได้.. และทั้งๆที่อยู่ต่อหน้าศัตรุของฮาจิเมะ เธอนั้นก็ยังคงไม่หยุดอาการ "ยัน" เลย

    ฟรีด : "แม้ว่าข้าจะไม่ใช่ผู้ชนะที่เด็ดขาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าเป็นฝ่ายชนะ ข้ายังไม่พร้อมพอที่จะจัดการเจ้า..."

    ยูเอะ : "คิดหนีเรอะ..."

    ฟรีดได้แต่กัดฟันด้วยรู้ว่าวันนี้เป็นวันชะตาขาดของเขา เมื่อเห็นยูเอะก าลังจะใช้เวทย์เป่าหัวของเขา แต่ทว่าก่อนที่จะได้ท าแบบนั้น จู่ยูเอะก็จับกระแสพลังเวทย์ที่พุ่งมาหาเธอได้...

    "โปรดถอยออกมาเร็วเข้าเถอะ...ท่านฟรีด"

    "เราจะถ่วงเวลาให้ท่านเอง"

    ดูเหมือนว่าพวกที่บุกเข้ามาในเมืองจะสังเกตุเห็นว่าตอนนี้ฟรีดก าลังตกอยู่ในสภาวะอันตรายถึงชีวิต จึงต่างได้กรุเข้ามาเพื่อที่จะช่วยชีวิตเขา

    ฟรีด : "พวกเจ้า...อึ่ก...ขอโทษนะ"

  • พวกปีศาจบัดซบได้ตรงเข้าช่วยเหลือชีวิตที่ร่อแร่ของฟรีดในทันที และหลังจากที่ต่างเห็นว่าทั้งร่างของฟรีดและก็เจ้ามังกรขาวล้วนต่างเต็มไปด้วยบาดแผล พวกมันก็ได้โจมตียูเอะด้วยสายตาที่เกลียดชังสุดขั้ว อย่างทิ้งการป้องกันทั้งหมดเข้าโจมตีพลีชีพอย่างไม่กลัวตาย แต่ยังไงซะ... แม้ว่าไอ้การโจมตีพรรค์นั้นท าอะไรยูเอะไม่ได้อยู่แล้วก็เถอะ แต่ถึงกระนั้น ยังดูเหมือนว่าไอ้พวกที่โจมตีอย่างที่ไม่สนขีดจ ากัดนั้นจะขอตายเพื่อซื้อเวลาให้ฟรีดสามารถเปิดทวาราข้ามมิติได้อย่างพอดิบพอดีอีกด้วย...

    "ขวางนังมารเอาไว้เร็ว"

    ยูเอะได้ไล่ตามฟรีดที่ก าลังจะหลบหนี จนกระทั่งเสียงร้อง : "กล้าดียังไงถึงกล้าท ากับท่านฟรีดเช่นนี้" อันแสนเยือกเย็นได้ออกมาจากพวกปีศาจบัดซบที่พุ่งเข้าโจมตี ที่ได้มาพร้อมกับตะโกนเวทย์สายธาตุพสุธา "Trembling Heaven" ที่ฟรีดเคยใช้ก่อนหน้านี้ไปด้วย และแม้ว่ายูเอะจะสามารถท าลายอาการแยกเขี้ยวของพวกมันลงได้ก็ตาม แต่ถ้าหากในตอนนี้ได้ลองดูสีหน้าของยูเอะแล้ว ก็คงพอรู้นะว่าตอนนี้เธอก าลังหงุดหงิดสุดขีดที่แค้นส่วนตัวของเธอนั้นช าระแค้นครบต้นแล้ว...แต่ดอกเบี้ยยังไม่ครบ ยังระบายออกมายังไม่หมดเลย...

    ซึ่งในขณะที่ยูเอะตั้งใจให้สงบพร้อมๆกับหายใจเข้าลึกๆนั้นเอง จู่ๆเสียงสดใสที่ไม่เข้ากับสนามรบก็ได้ดังขึ้น

  • เซียอา : "คุณยูเอะค้าาาาา...ไอ้บัดซบนั่นยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าคะเนี่ยยยยยยยย ถ้าหากว่ามันยังอยู่ล่ะก็...ขอให้ข้าได้จัดการมันด้วยเถอะค๊าาาาาาาา หวา...อะไรเนี่ย ภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือไงคะเนี่ย..."

    หูกระต่ายของเธอโบกสะบัดไปมาในขณะที่เธอกระโดดลงมาจากแผ่นลอยตัว พร้อมกับได้ถามด้วยความตกใจเมื่อได้ภาพแห่งความวินาศสันตะโรโดยรอบ...

    เซียอา : "...เข้าใจล่ะ"

    เซียอาได้เอ่ยออกมาเพียงแค่ประโยคเดียวด้วยเพราะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่มองไปทางฟรีดที่ก าลังจะหายไปในทวาราข้ามมิติที่ได้แต่แสดงความประหลาดใจ อย่างที่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอคู่กรณีอีกคนหนึ่งทีนี ่ซึ่งเธอได้แต่ยิ้มอย่างบอกบุญไม่รับต่อยูเอะ ก่อนที่ทวาราข้ามมิตินั้นจะปิดลง

    และในขณะที่เติมพลังเวทย์ที่ถอยให้เต็มและทั้งสองต่างได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันและกันนั้นเอง จู่ๆได้เกิดการระเบิดขึ้นที่มุมหนึ่งของพระราชวัง ตามมาด้วยเสาล าแสงที่สาดส่องลงมาจากท้องฟ้า และเมื่อพวกเธอได้เห็นมหาทัพเรือนล้านแห่งปีศาจและสัตว์อสุรปีศาจที่อยู่อีกด้านของก าแพงชั้นนอกได้ถูกท าลายจนพินาศย่อยยับอันไม่น่าเป็นไปได้นั้นแล้ว พวกเธอก็ได้หันกลับมามองกันและกันอีกครั้ง

  • "(คุณ)ฮาจิเมะ"

    ทั้งสองต่างเรียกชื่อของคนท าออกมาพร้อมกัน...

    เซียอา : "ดูท่า...เห็นทีพวกเราต้องรีบไปที่วังหลวงซะแล้วสินะคะ"

    ยูเอะ : "อืม..."

    ทั้งยูเอะและเซียอาต่างส่งรอยยิ้มให้กันด้วยต่างรู้และสรุปว่าผู้ที่ซึ่งกระท าเหตุการณ์ที่เหนือสามัญส านึกนี้ต้องเป็นฮาจิเมะแน่นอน พร้อมๆกับได้มองไปที่หลุมขนาดใหญ่มหายักษ์ อันเป็นที่ซึ่งพวกปีศาจบัดซบและสัตว์อสุรปีศาจนับล้านได้หายไป จากนั้นพวกเธอได้หันกลับ และรีบตรงไปที่วังหลวงซึ่งฮาจิเมะก าลังคอยอยู่นั้นในทันที....

    ตอนที่ 102 : "สาวกแห่งเทพ...โนอินโต้" :

    [Spoiler และ เปิดเผย รวมลองแปล] Arifureta Shokugyou de

    Sekai Saikyou (Ep.178) - page 54 - ห้องนิยายแปล

    ผู้เขียน

  • 22-28 นาท ี

    ปีกสีเงินโผผินพาดผ่านภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง

    ไม่ใช่เพื่อที่จะโผบิน แต่เป็นการสลัดขนนกสีเงินใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างหมายใจที่จะใหต้ายต่างหาก กระสุนสีเงินอันมีพลังเวทย์ที่น่าพรั่นพรึงแฝงอยู่ได้กระจายไปทั่วทั้งท้องนภาที่อยู่สูงเหนือพื้นพิภพกว่า 8000 เมตร กระหน ่าพุ่งเข้าใส่เป้าหมายเดียวกันอย่างโหดเหี้ยม

    สิ่งที่คอยรับมือพวกมัน เป็นอาวุธโลหะที่เคลือบด้วยแสงสีแดง ทุกๆครั้งที่เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นได้แผดเสียงค าราม พวกขนนกสีเงินที่พุ่งเข้ามาก็มีอันต้องแตกกระจายไป ต่อให้พวกมันพุ่งเข้าตรงตามที่ค านวณเอาไว้แล้วก็ตาม เพราะแม้ทรงพลัง แต่จะมีประโยชน์อะไรหากไม่ถูกเป้าหมาย และช่องทางที่เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นสร้างขึ้นก็กลายเป็นที่หลบภัยการโจมตีชั้นดีอันท าให้สามารถหลบการโจมตีแห่งขนนกสีเงินได ้ท าให้การโจมตีล้มเหลวไป แต่หากอยากจะหลบเลี่ยงไปอย่างสมบรูณ์ ก็คือต้องสู้ เผชิญหน้า และล้มมันลงให้ได้.....

    ไอโกะ : "ว้ายยยยยยยยยยยยยยย"

    ทั้งๆที่อยู่ในสภาพการณ์เลวร้ายที่แทบจะเอาชีวิตไปได้ภายในชั่วเสี้ยววินาทีแท้ๆ ก็ยังดันมีเสียงหลงที่ไม่เข้ากันดังขึ้น เป็นเสียงหลงของ "ฮา

  • ตายามะ ไอโกะ (Hatayama Aiko)" ที่ไม่อาจจะทนต่อสภาพที่เกิดขึ้นกับตัวเธอเองในตอนนี้นั่นเอง ซึ่งดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่หากเทียบกับสถานการณ์หรือช่วงเวลาในตอนนั้น ฮาจิเมะได้ใช้ปืนกล "Metherai - เมเธอไร" จัดการห่าขนนกสีเงินของ "สาวกแห่งเทพ" ที่เรียกตัวเองว่า "โนอินโต้ (Nointo)" ซึ่งไอโกะที่ตอนนี้เกาะกุมแขนขวาของเขาเอาไว้นั้นก็ได้สัมผัสลิ้มรสชาติของการต่อสู้กลางอากาศแบบเผาขนเป็นคร้ังแรกในชีวิตของเธอ

    ฮาจิเมะ : "อาจารย์...ช่วยหุบปากหน่อยได้ไหมเนี่ย ขืนยังร้องแบบนี้มีหวังได้กัดลิน้ตัวเองแน่"

    ไอโกะ : "ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ... อี๊ก...กัดแย้วอ้าาาา"

    ค าเตือนของฮาจิเมะมีอันต้องกลายเป็นของสูญเปล่าและไร้ค่าในทันทีที่ไอโกะนั้นได้หันมามองหน้าเขาด้วยใบหน้าที่เอ่อคลอน ้าตา อันความจริงแล้ว... เธอไม่ได้ร้องไห้ตั้งแต่ตอนนั้นหรอก แต่มันนับตั้งแต่ตั้งที่เธอถูกหิ้วกระเตงขึ้นไปร่วมในการต่อสู้กลางอากาศโน่นแล้ว เพราะงั้น... ไอ้ที่บอกว่าร้องไห้เพราะกัดลิ้นตัวเองน่ะ เป็นเหตุผลแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น

    ฮาจิเมะรู้เรื่องนี้ดี เพราะว่าไอโกะนั้นมีสถานะในทางกายภาพต ่า ซึ่งมันไม่ได้สูงพอที่จะทานทนต่อสภาพแบบนี้ได้เนิ่นนาน เขาจึงได้ใช้ "Light Speed (ความเร็วแสง)" เพื่อที่จะหลบการโจมตีอันรวดเร็วและฉับพลัน พร้อมกับจัดการห่าขนนกสีเงินที่พุ่งเข้ามาโจมตีเขาดั่งก าแพงคลื่นสีเงิน

  • พร้อมกับพยายามหลบหลีกโดยใช้พลังให้น้อยที่สุด แต่จะถึงกระนั้นความเร็วก็ยังคงเทียบเท่ากับเจ็ตโคสเตอร์อยู่ดี ท าให้ในตอนนี้ไอโกะที่อยู่กับฮาจิเมะจึงมีสภาพวิงเวียนไม่ต่างอะไรกับคนเมาเรือ

    อย่างไรก็ตาม หากยังมีไอโกะให้คอยอุ้มอยู่ เขาก็ไม่อาจจะที่พุ่งทะลวงไปข้างหน้าได้ และก็เพราะว่าการโจมตีอันบ้าคลั่งที่กระหน ่าใส่ไม่หยุดของโนอินโต้ ท าให้ฮาจิเมะที่มีไอโกะให้คอยอุ้มอยู่แทบจะมีเวลาที่จะท าแบบนั้นเลย บวกกับขืนหากปล่อยให้ไอโกะเอาไว้คนเดียว มีความเป็นไปได้สูงที่การโจมตีใส่เขาจะหันไปที่ตัวไอโกะแทน ถึงแม้ว่าจะดีกว่านี้ ถ้าหากต่อสู้ได้โดยสามารถท�