Upload
others
View
3
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
1
MATERIALS TESTING: Lecture
By
Dr. Sittichai SeangatithSCHOOL OF CIVIL ENGINEERING
INSTITUTE OF ENGINEERINGSURANAREE UNIVERSITY OF TECHNOLOGY
2
บทที่ 4: พฤติกรรมทางกลของวัสดุ4.1 Stress และ Strain
Stress แสดงความเขมขน (intensity) ของแรงภายใน (internal force) ทีก่ระทาํอยูบนระนาบพืน้ที่หนาตัดของตัวอยางทดสอบ มีหนวยเปนแรงตอพื้นที ่เชน MPa, kg/cm2, และ ksi
3
หนวยแรงตั้งฉาก (normal stress) คือ ความเขมขนของแรงภายในที่กระทําตั้งฉากกบัพืน้ที่หนาตัดของตัวอยางทดสอบ - หนวยแรงดึง (tensile stress)- หนวยแรงกดอดั (compressive stress)
avgPA
σ =
4
หนวยแรงเฉือน (shear stress) คือ ความเขมขนของแรงภายในที่กระทําขนานกบัพืน้ที่หนาตัดของตัวอยางทดสอบ
avgVA
τ =
5
Strain เปนคาการเปลี่ยนแปลงรูปรางของตัวอยางทดสอบ เนื่องจากการกระทําของหนวยแรง (stress)
ความเครียดตั้งฉาก (normal strain) เปนการยืดตัว (elongation) หรือการหดตัว (contraction) ของสวนของเสนตรงบนตัวอยางทดสอบตอหนึ่งหนวยความยาวของสวนของเสนตรงนั้น
avgs ss
ε′∆ − ∆
=∆
6
ความเครียดเฉือน (shear strain) เปนการเปลีย่นแปลงของมุมที่เกิดขึน้ระหวางสวนของเสนตรงสองเสนบนตัวอยางทดสอบ ที่เริ่มตนทํามุมตั้งฉากซึง่กันและกัน
2avgπγ θ′= −
7
θ'
2avgπγ θ ′= −
8
การทดสอบแรงดงึ (tension test) – ใชหาความสัมพันธระหวางหนวยแรงตั้งฉาก (σ) และความเครียดตั้งฉาก (ε) ของวัสดุ
o
PA
σ =
oLδε =
Stress:
Strain:
4.2 Stress-Strain Diagram
9
0.23876479.141.227E-04 11.938058.80.17780507.661.227E-04 8.890062.30.12700525.591.227E-04 6.350064.50.06096507.661.227E-04 3.048062.30.02032435.141.227E-04 1.016053.40.00498355.281.227E-04 0.249043.60.00330333.281.227E-04 0.165040.90.00204308.021.227E-04 0.102037.80.00120259.941.227E-04 0.060031.90.0003590.451.227E-04 0.017511.1
001.227E-04 00
Strain (mm/mm)Stress(MPa)Area (m)Elongation (mm)Load (kN)
10
11
Conventional หรือ Engineering Stress-Strain Diagram
12
Note: yielding strain มีคาประมาณ 25 เทาของ proportional stain
13 14
4.3 Ductile และ Brittle Materials
( )Percent elongation = 100%f o
o
L LL−
( )Percent reduction of area = 100%f o
o
A AA−
วัสดุเปราะ (brittle materials) - เปนวัสดทุี่ไมเกิดการ yielding หรือมีแตนอยมากกอนการวิบัติ เชน cast iron และ concrete เปนตน
วัสดุเหนียว (ductile materials) – เปนวัสดทุี่มีการเปลี่ยนแปลงรูปรางสูงกอนการวิบัติ (failure) เชน mild steel เปนตน (ดดูซึมพลังงานไดมาก)
15
Offset methodใชในการหาคา yielding stress ของโลหะที่ไมมีจุด yielding ที่ชัดเจน เชน
aluminum และ high-strength steel เปนตน
16
Stress-strain Behavior ของ Brittle Materials
17 18
Stress-Strain Curves ของวัสดุประเภทตางๆ
19
แรงดึงทําให microcrack (ที่เกดิจากขบวนการผลิต) ในเนื้อวัสดุเปราะเกดิการขยายตัวใหญขึ้น ซึ่งทาํใหพื้นที่หนาตัดของวัสดุลดลง แตในทางกลบักนั microcrack ดังกลาวจะถูกปดลงภายใตแรงกดอัด
การทีว่ัสดุเปราะมีกําลงัรับแรงดึงต่ํากวากาํลังรับแรงอัดมากมีสาเหตุมาจาก?
20
4.4 Hooke’s Law
Eσ ε=
เมื่อ E = modulus of elasticity ของวัสดุ ซึ่งเปนคาความชันของ stress-strain curve ในชวง linear elastic
“หนวยแรงแปรผันโดยตรงกับความเครียด จนถึงจุด proportional limit”
E = 750 MPa/0.004 mm/mm = 187.5 GPa
21
Strain Hardening
ทาํใหวัสดุมีชวง elastic region ที่ใหญขึ้น (เปนผลให yielding stress มีคาสูงขึ้น)
แตทาํใหวัสดุมีความเหนียว (ductility) ลดลง (เปราะมากขึ้นและดูดซับพลังงานไดลดลง)
22
Strain Energy เนื่องจาก Uniaxial Stressพลังงานความเครียด (strain energy) คือ พลังงานที่ถูกเกบ็กกัไวในวัสด ุ
เมื่อวัสดุถูกทาํใหเปลี่ยนแปลงรูปราง ภายใตการกระทําของแรงภายนอก งานภายใน (internal work) ที่สะสมในวัสดุ = งานภายนอกเนื่องจากแรงภายนอก
1 ( )2
U P δ∆ = ∆
ถาวัสดุมีพฤติกรรมอยูในชวง linear elastic แลว
( )P A x yσ σ∆ = ∆ = ∆ ∆
zδ ε= ∆
1 1( ) ( )2 2
U x y z Vσ ε σε∆ = ∆ ∆ ∆ = ∆
Strain energy density: 21 12 2
UuV E
σσε∆= = =∆
P
δ
23
Modulus of Resilience - ความสามารถของวัสดุในการดูดซึมพลังงานโดยไมมีการเสียรูปอยางถาวร (no permanent deformation)Modulus of Toughness- ความสามารถของวัสดใุนการดูดซึมพลังงานกอนเกิดการวิบัติ
Eu pl
plplr
2
21
21 σ
=εσ=⎟⎟⎠
⎞⎜⎜⎝
⎛ +≈
2uy
ftuσσ
ε
24
สมบัตทิางกลของวัสดุ
25
ตัวอยาง
12.5 mm
50 mm
การทดสอบแรงดึงของตัวอยางทดสอบทีท่าํดวย steel alloy
จงเขียน stress-strain diagram และจงหาคาของ a.) modulus of elasticityb.) proportional stress, modulus of resilience และ yielding stressc.) ultimate stress และ fracture stress
26
500 mm 400 mm
20 mm15 mm
PP
A B C
d.) ถาแทงเหล็กทรงกลมซึ่งทําดวยเหล็กดงักลาว ถูกกระทําโดยแรงดึง P = 68 kN จงหาคาการยืดตัวของแทงเหล็ก
e.) ถาเอาแรงดึง P ออก จงหาวาแทงเหล็กจะคืนรูปสูรูปรางเดิมหรือไม ถาไม แทงเหล็กดังกลาวจะมีการยืดถาวรเหลือเทาไร?
270.23876479.141.227E-04 11.938058.80.17780507.661.227E-04 8.890062.30.12700525.591.227E-04 6.350064.50.06096507.661.227E-04 3.048062.30.02032435.141.227E-04 1.016053.40.00498355.281.227E-04 0.249043.60.00330333.281.227E-04 0.165040.90.00204308.021.227E-04 0.102037.80.00120259.941.227E-04 0.060031.90.0003590.451.227E-04 0.017511.1
001.227E-04 00
Strain (mm/mm)Stress(MPa)Area (m)Elongation (mm)Load (kN)o
PA
σ =oLδε =
28
29
0.0012 mm/mm0.0010 mm/mm
255
530
480
220
335
a.) modulus of elasticity220 MPa 220 GPa
0.001 mm/mmE = =
b.) σpl, ur, และ σY255 MPaplσ =
3
121 (255 MPa)(0.0012 mm/mm)2
0.153 MJ/m
r pl plu σ ε=
=
=
335 MPaYσ =
530 MPauσ = 480 MPafσ =
c.) σu และ σf30
d.) หาคาการยืดตัวของแทงเหล็ก
3
268(10 )N 216.5 MPa(0.01 m)AB
PA
σπ
= = =
3
268(10 )N 384.8 MPa
(0.0075 m)BCPA
σπ
= = =
335 MPaAB Yσ σ< =เนื่องจาก
ABAB E
σε =
เนื่องจาก 335 MPaBC Yσ σ> = ดังนั้น จาก stress-strain diagram
จาก Hooke’s law
500 mm 400 mm
20 mm15 mm
PP
A B C
0.0009841 mm/mm=6
9216.5(10 )Pa220(10 )Pa
=
ดังนั้น AB อยูในชวง linear elastic
310.0108 mm/mm
384.8
32
0.0108 mm/mmBCε ≈
0.0009841(500 mm) 0.0108(400 mm) 4.8 mmLδ ε= = + =∑
0.0009841 mm/mmABε =
500 mm 400 mm
20 mm15 mm
PP
A B C
e.) ถาเอาแรงดึงออก จงหาวาแทงเหล็กจะคืนรูปสูรูปรางเดิมหรือไม ถาไมคืนรูปสูรูปรางเดิม แทงเหล็กดงักลาวจะมีการยืดถาวรเหลือเทาไร?ชิ้นสวน AB จะคืนรูปกลบัสูที่รูปรางเดิมเนื่องจากมีพฤติกรรมอยูในชวง elastic แตชิ้นสวน BC จะไมคืนเนื่องจากมีพฤติกรรมอยูในชวง inelastic
linear elastic plastic
330.0108 mm/mm
384.8
0.00905 mm/mm
0.00175 mm/mm
6
rec 9384.8(10 ) Pa 0.00175 mm/mm220(10 ) Pa
BC
Eσε = = =
remain 0.00905(400 mm) 3.6 mmBCLδ ε′ = = =
34
Shear Stress-Strain Diagramมักถกูหาไดโดยการทดสอบตวัอยางที่มีผนังบางโดยใช torsional testing machine
35θ' 36
จากการทดสอบโลหะโดยใช pure shear test พบวา shear stress-strain diagram มีลักษณะคลายกบั tension stress-strain diagram
37
“ในชวงที่วัสดมุีพฤติกรรมแบบ elastic อัตราสวนของความเครียดตามขวางตอความเครียดตามยาวจะมีคาทีค่งที ่และเปนคาเฉพาะของวัสดุแบบ homogenous และ isotropic แตละชนิด”
lat dδε′
= −Llongδε =
long
lat
εε
−=−=νstrain axialstrain lateral
4.5 Poisson’s Ratio
38
39
4.6 Failure of Materials due to Creep and FatigueCreep - เปนการเปลี่ยนแปลงรูปรางอยางถาวรของวัสดบุางชนิดทีข่ึ้นอยู
กบัเวลา ถาขนาดของแรงมีคาสูงและกระทําเปนเวลานานแลว creep จะมีคามากกวาเมื่อวัสดุนั้นถูกกระทําโดยแรงที่มีคาต่ํากวาและถูกกระทําเปนนระยะเวลาทีส่ั้นกวา
Relaxation – เปนการลดลงของหนวยแรงทีก่ระทาํตอวัสด ุเมื่อเวลาผานไป Elongation
TimePtO
(a) (b)
Prestressed wire
(c) (d)
Stress
TimetO
σO
δO
40
ตัวอยาง: creep ในคอนกรีต
1. กอใหเกดิการสูญเสียแรงดึง pre-stress ใน prestressed concrete structures
2. อาจกอใหเกดิการการโกงตัวของโครงสรางที่มากเกนิไป3. อาจกอใหเกดิหนวยแรงกระทําตอ non-load bearing member
41
Relaxation ใน prestressed concrete slab
42
Fatigue - เกดิขึ้นเมื่อวัสดุจําพวกโลหะ (และวัสดุเหนียว) ถูกกระทําโดยหนวยแรงหรือความเครียด ทีม่ีคานอยกวาคา σY หรือ εY แบบซ้ําไปซ้ํามา (repeated cycles) แลวเกิดการวิบัติแบบเปราะ (brittle fracture)
43
การวิบัตใินลักษณะนี้เกดิขึ้นจาก localized stress ที่เกดิขึ้นที ่defects ที่มีขนาดเล็กมากๆ ทีม่ักจะพบอยูทีผ่ิวของชิ้นสวนของโครงสราง
คา localized stress นี้มีคาสูงกวาคาเฉลี่ยของ stress บนหนาตัดของชิ้นสวนของโครงสรางมาก เมื่อวัสดุถูกกระทําโดย localized stress แบบซ้าํไปซ้ํามาแลว defects ในวัสดุจะมีการขยายตัวใหญขึ้น ซึ่งทาํใหคา localized stress ที่ defects มีคาสงูขึ้น และทําให defects นั้นมีขนาดใหญขึ้นไปอีก
ในที่สดุ พื้นที่หนาตัดของชิ้นสวนของโครงสรางจะมีขนาดลดลงจนถึงจุดๆ หนึ่งที่ชิ้นสวนของโครงสรางไมสามารถรับแรงกระทําตอไปไดอกี และจะเกิดการวิบัติแบบฉับพลนั (sudden หรือ brittle fracture) ขึ้น
44
จากการทดสอบพบวา วัสดุจําพวกเหล็กแสดงพฤติกรรมที่มี endurance limit ซึ่งเปนคา “limit” ของหนวยแรงกระทําซ้ําที่เหล็กไมเกดิการวิบัติโดยการลา
45
แตโลหะจําพวก nonferrous metal เชน aluminum ไมมี endurance limit ที่ชัดเจน โดยมาตรฐานการออกแบบกาํหนดใหวัสดุเหลานี้ม ีpseudo-endurance limit ทีห่นวยแรงทีส่อดคลองกบัจาํนวนแรงกระทาํซ้ํา 106-5x108 รอบ ขึ้นอยูกบัลกัษณะการใชงาน
46
( )2I
ij ijK fr
σ θπ
=
when 0,r→ ijσ α→
47
Fatigue fracture of an AISI/SAE 4140 low alloy carbon steel pin.
48
49
End of Chapter 4