Upload
others
View
0
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ฝ่ายวิชาการ)
หัวข้อการน าเสนอ
อุบัติเหตุที่เกิดจากรถบรรทุก บัญญัติ 10 ประการ กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q Mark) และ
MOU ที่เก่ียวข้อง โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางถนน
รองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ความตกลงที่เก่ียวข้องกับการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีจ านวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 รองจากประเทศนามิเบีย
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ? ที่เราต้องร่วมมือกันหยุดพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางท้องถนน เพื่อก้าวสู่ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางท้องถนน
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
5
รถจอดเสีย/จอดพกัรถขา้งทาง ไม่แสดงสัญญาณเตือนภยั
19 มกราคม 2559 รถโดยสารชนทา้ยรถบรรทุกออ้ย อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มีผูไ้ดร้บับาดเจ็บ 4 ราย
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
6
รถจอดเสีย/จอดพกัรถขา้งทาง ไม่แสดงสัญญาณเตือนภยั
13 กุมภาพนัธ ์2559 รถโดยสารชนทา้ยรถพ่วง 18 ลอ้ บรรทุกออ้ย อ.ภูกระดึง จ.เลย มีผูเ้สียชีวิต 1 ราย ผูไ้ดร้บับาดเจ็บ 14 ราย
18 มิถุนายน 2559 รถตูโ้ดยสารชนทา้ยรถบรรทุกพ่วง 18 ลอ้ ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบงั กทม. มีผูไ้ดร้บับาดเจ็บ 1 ราย
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
7
จอดรถในทีห่า้มจอด
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
8
ขับรถผ่านทางรถไฟ
30 ตุลาคม 2557 รถไฟชนประสานงากบัรถบรรทุก 10 ลอ้ อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีผูเ้สียชีวิต 5 ราย ผูไ้ดร้บับาดเจ็บ 20 ราย
ไม่ลดความเร็ว ไม่หยุด ไม่ระวงั
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
9
ขับรถผ่านทางรถไฟ ไม่ลดความเร็ว ไม่หยุด ไม่ระวงั 8 มกราคม 2559 รถบรรทุกพ่วง 18 ลอ้ พุ่งชนขบวนรถไฟ อ.เมือง จ.เพชรบุรี มีผูเ้สียชีวิต 5 ราย ผูไ้ดร้บับาดเจ็บ 30 ราย
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
10
ขับรถผ่านทางรถไฟ
30 พฤษภาคม 2559 รถบรรทุกพ่วง 22 ลอ้ พุ่งชนขบวนรถไฟ อ.ก าแพงแสน จ.นครปฐม มีผูไ้ดร้บับาดเจ็บ 3 ราย
ไม่ลดความเร็ว ไม่หยุด ไม่ระวงั
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
11
รถบรรทุกตูบ้รรทุกสินคา้ (Container)
3 กุมภาพนัธ ์2557 ตูบ้รรทุกสินคา้ตกจากรถบรรทุกทบัรถตูโ้ดยสาร บริเวณทางต่างระดบัรงัสิตขาออก มีผูเ้สียชีวิต 1 ราย
ไม่ใช ้Twist-lock ยดึตูส้ินคา้
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
12
รถบรรทุก ตูบ้รรทุกสินคา้ (Container)
ไม่ใช ้Twist-lock ยดึตูส้ินคา้
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
13
รถบรรทุกตูบ้รรทุกสินคา้ (Container) ไม่ใช ้Twist-lock ยดึตูส้ินคา้
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
14
สภาพเคร่ืองอุปกรณส่์วนควบ
21 พฤษภาคม 2558 รถบรรทุกพ่วง22ลอ้ เบรกแตก ชนรวด 16 คนั อ.กบนิทรบุ์รี จ.ปราจีนบุรี มีผูไ้ดร้บับาดเจ็บจ านวนมาก
ไม่พรอ้มใชง้าน
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
15
28 มีนาคม 2559 รถบรรทุกพ่วง18ลอ้ เบรกแตก ชนรวด 9 คนั อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีผูไ้ดร้บับาดเจ็บกว่า 10 ราย
สภาพเคร่ืองอุปกรณส่์วนควบ ไม่พรอ้มใชง้าน
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
16
บรรทุกน ้าหนักเกิน ดัดแปลงสภาพตัวรถ
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
17
บรรทุกน ้าหนักเกิน ดัดแปลงสภาพตัวรถ
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
18
5 กุมภาพนัธ ์2555 รถบรรทุกแกส๊แอลพีจี พลิกคว า่ ถนนล าลูกกา จ.ปทุมธาน ีปิดการจราจรนานกว่า 8 ชัว่โมง
ในขณะหย่อนความสามารถ ขับรถเกินชัว่โมงท างาน หรือ
ร่วมขจดัปัญหาอุบัติเหตุรถบรรทุก
19
23 มีนาคม 2555 รถบรรทุกแกส๊แอลพีจี เสียหลกัพุ่งชนราวสะพาน ถนนพฒันาการ กรุงเทพฯ มีผูไ้ดร้บับาดเจ็บไฟลวกร่างกาย 1 ราย
ในขณะหย่อนความสามารถ ขับรถเกินชัว่โมงท างาน หรือ
ค าพิพากษาศาลฎีกา ในคดีของอุบัติเหตุทางถนน
ข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2556 เวลา 05.50 เกิดเหตุรถตู้โดยสารสาย ปราจีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หมายเลขทะเบียน ฮบ-8901 กรุงเทพมหานคร (รถตู้ป้ายด า) พุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-6551 นครปฐม และตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 70-6525 นครปฐม ที่จอดเสียริมถนนสายปราจีนบุรี -ฉะเชิงเทรา ท าให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 7 ราย
รถตู้ปราจีนบุรี-อนุสาวรีย์ ชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ
ผู้โดยสารเสียชีวิต ใครต้องรับผิดชอบ ?
ความรับผิดทางอาญา มาตรา 59 วรรค 4 กระท าโดยประมาท มิใช่โดยเจตนา แต่
กระท าโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์
มาตรา 291 กระท าโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ ความตาย ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกิน 10 ปี และ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
มาตรา 300 กระท าโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ
คนขับรถพ่วง 18 ล้อ มีความผิดดังนี้
แม้จอดเสียอยู่ข้างทางในเวลามืดค่ า เมื่อคนขับไม่เปิดสัญญาณไฟ คนขับจึงมีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสตามมาตรา 291,300
ความรับผิดทางแพ่ง มาตรา 425 นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้าง ในผลแห่งละเมิด
ซึ่งลูกจ้างได้กระท าไปในทางการที่จา้งนั้น
ผู้ที่ต้องร่วมรับผิดกับคนขับรถตู้และคนขับรถพ่วง 18 ล้อ
นายจ้างรับผิดเฉพาะมูลหน้ีละเมิด ไม่ต้องรับผิดทางอาญา
ตัวอย่างค าพิพากษาศาลฎีกา
ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ 2210/2554 จอดรถบนไหล่ทางในลักษณะไม่กีดขวาง แต่ไม่เปิดไฟหรือใช้แสงสว่าง
ตามท่ีก าหนดในกฎกระทรวงเพื่อเป็นสัญญาณให้ผู้ขับขี่มองเห็นรถ ท่ีจอดอยู่ เป็นความประมาทอันเกิดจากการงดเว้นการที่จักต้องกระท า เพื่อป้องกันผล
บัญญัติ 10 ประการ ส าหรับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า
ด้วยรถบรรทุก
ลงนาม ณ วันที่ 4 เมษายน 2557
บัญญัติ 10 ประการ
1. ห้ามใช้ผู้ขับรถที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ หรือถูกพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
2. ห้ามใช้ผู้ขับรถขับรถติดตอ่กันนาน เกินกว่าที่กฎหมายก าหนด
3. ควบคุมดูแลไม่ให้ผู้ขับรถเสพสุรา ยาเสพย์ติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อ
จิตประสาท ขณะปฏิบตัิหน้าทีข่ับรถ
4. ควบคุมดูแลให้ผู้ขับรถใช้ความเร็วตามที่กฎหมายก าหนด
และขับชิดขอบทางด้านซ้าย
5. จัดท าประวัติคนขับรถและรายงาน
อุบัติเหตุ (ถ้ามี)
บัญญัติ 10 ประการ
10. รถบรรทุก ตู้คอนเทนเนอร ์
ต้องใช้ TWIST LOCK
7. จัดให้มีป้ายสะท้อนแสงหรือไฟ กระพริบส าหรับใช้เมื่อรถเสีย
9. รถบรรทุกวัตถุอันตรายต้องติดตั้งระบบ GPS
8. ไม่บรรทุกน้ าหนักเกินกว่าที่กฎหมายก าหนด
6. ไม่ใช้รถไม่จดทะเบียนเสียภาษี หรือมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หรือเครื่อง
อุปกรณ์และส่วนควบไม่ถูกต้อง
บัญญัติ 10 ประการ
1. ห้ามใช้ผู้ขับรถที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ หรือถูกพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
ชนิดที่ 1 ส าหรับ รถบรรทุกที่มีน้ าหนักรถและ น้ าหนัก บรรทุกรวมไม่เกิน 3.5 ตัน
ชนิดที่ 2 ส าหรับ รถบรรทุกที่มีน้ าหนักรถและ น้ าหนักบรรทุกรวมเกิน 3.5 ตัน
ชนิดที่ 3 ส าหรับ รถลากจูง
ชนิดที่ 4 ส าหรับ รถบรรทุกวัตถุอันตราย
บัญญัติ 10 ประการ
2. ห้ามใช้ผู้ขับรถขับรถติดต่อกันนานเกินกว่าที่ กฎหมายก าหนด
8 Hour Rule
บัญญัติ 10 ประการ
3.ควบคุมดูแลไม่ให้ผู้ขับรถเสพสุรา ยาเสพย์ติด หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถ
บัญญัติ 10 ประการ
4. ควบคุมดูแลให้ผู้ขับรถใช้ความเร็วตามที่กฎหมายก าหนดและขับชิดขอบทางด้านซ้าย
บัญญัติ 10 ประการ
5.จัดท าประวัติคนขับรถและรายงานอุบัติเหตุ (ถ้ามี)
บัญญัติ 10 ประการ
6.ไม่ใช้รถไม่จดทะเบียนเสียภาษี หรือมีสภาพไม่มั่นคง แข็งแรง หรือเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบไม่ถูกต้อง
บัญญัติ 10 ประการ
7. จัดให้มีป้ายสะท้อนแสงหรือไฟกระพริบส าหรับใช้ เมื่อรถเสีย
บัญญัติ 10 ประการ
8. ไม่บรรทุกน้ าหนักเกินกว่าที่กฎหมายก าหนด
บัญญัติ 10 ประการ
9.รถบรรทุกวัตถุอันตรายต้องติดตั้งระบบ GPS
+
บัญญัติ 10 ประการ
10. รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ต้องใช้ TWIST LOCK
กฎกระทรวง การก าหนดประเภทผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
ที่ต้องจัดให้มีสมุดประจ ารถ ประวัติผู้ประจ ารถ รายงานการขนส่ง และรายงานอุบัติเหตุที่เกิดจากการขนส่ง
พ.ศ.2559
กฎกระทรวง
ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ก าหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ต้องจัดให้มี
สมุดประจ ารถ
ประวัติ ผู้ประจ า
รถ
รายงานการ
ขนส่ง
รายงานอุบัติเหตุที่เกิดจาก
การขนส่ง
กฎกระทรวง
• ผู้ประกอบการขนส่งต้องจัดให้มีสมุดประจ ารถ
• แต่ถ้าได้ติดตั้ง GPS และเครื่องรูดบัตรแสดงตัวตน ตามท่ีกรมการขนส่งทางบกก าหนด ให้ถือว่าได้จัดท าสมุด ประจ ารถแล้ว
สมุดประจ ารถ
OR
กฎกระทรวง
• ผู้ประกอบการขนส่ง ต้องจัดท าประวัติผู้ประจ ารถเก็บไว้ และแจ้งกรมฯ ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ผู้ประจ ารถได้ปฏิบัติหน้าที่กับตน โดยต้องมีรายละเอียดดังนี้ • ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
• ชื่อผู้ประจ ารถ ใบอนุญาตผู้ประจ ารถ และต าแหน่ง
• ระยะเวลารับเข้าท างานและการเลิกจ้าง
• ประวัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดตา่งๆ
• ในกรณีมีการเปลี่ยนแปลง ต้องแจ้งกรมฯ ภายใน 15 วัน นับแต่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล
ประวัติผู้ประจ ารถ
กฎกระทรวง
• ผู้ประกอบการขนส่งต้องจัดท ารายงานการขนส่งตามแบบที่กรมการขนส่งทางบกก าหนดและรายงานให้กรมฯทราบ ทุก 3 เดือน ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี ้• ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
• รถที่ใช้ประกอบการขนส่ง • ผู้ประจ ารถ • ประเภทและปริมาณสินค้า • เส้นทางพร้อมทั้งสถานที่หยุดและจอด หรือสถานที่
ท าการขนส่ง
• จ านวนเที่ยว
รายงานการขนส่ง
กฎกระทรวง
• เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการขนส่ง ที่มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส หรือมีความเสียหายของทรัพย์สิน มูลค่าเกิน 100,000 บาท ต้องรายงานกรมฯ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้ • ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง • ผู้ประจ ารถ
• รถที่เกิดอุบัติเหตุ • คู่กรณี
• สถานที่ และเวลาที่เกิดเหตุ • ผู้บาดเจ็บ และความเสียหาย
• ลักษณะหรือพฤติการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุ • สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ
รายงานอุบัติเหตุ
ที่เกิดจาการขนส่ง
กฎกระทรวง ความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ.2558
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง
ในการใช้รถท าการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ต้องไม่ใช้หรือยินยอมให้บุคคลดังต่อไปปฏิบัติหน้าที่ขับรถ
• ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต,ใบอนุญาตไม่ตรงตามประเภทและชนิดรถที่ใช้ขนส่ง หรือใบอนุญาตสิ้นอาย ุ• ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ขับรถเกินชั่วโมงการท างานที่กฎหมายก าหนด • ผู้ที่หย่อนความสามารถในการขับรถ
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง
ในการใช้รถท าการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ต้องจัดให้มี สิ่งต่อไปนี้
• เครื่องหมายหรือสัญญาณแสดงเม่ือจ าเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง • อุปกรณ์หรือเครื่องมือท่ีจ าเป็นในการระงับเหตุฉุกเฉิน • สิ่งป้องกันไม่ให้ของตกหล่นหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน •เอกสารหรือคู่มือการปฏิบัติเม่ือเกิดเหตุฉุกเฉิน •รายงานข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการขนส่ง
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง
ในการใช้รถท าการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ต้องควบคุม ก ากับ ดูแล
• ให้ผู้ขับรถใช้อุปกรณ์และส่วนควบ ตามที่กฎหมายก าหนด • ให้ผู้ขับรถใช้ความเร็วไม่เกินกว่าที่กฎหมายก าหนด • การบรรทุกสัตว์หรือสิ่งของให้ตรงตามลักษณะรถที่ก าหนดไว้ในเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบการ •ให้ผู้ขับรถเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรและระยะเวลาที่กรมการขนส่งทางบกก าหนด
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง
ในการใช้รถท าการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ
ผู้ขับรถต้องปฏิบัติหน้าที่ดังต่อไปนี้ • จัดท าสมุดประจ ารถ (ยกเว้นในกรณีที่รถติดตั้ง GPS และเชื่อมต่อกับ Server ของกรมแล้ว) • ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ • ใช้อุปกรณ์และส่วนควบท่ีจ าเป็นตามที่กฎหมายก าหนด •แสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณเมื่อจ าเป็นต้องจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง
กฎกระทรวง ความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน พ.ศ. 2558
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ในการใช้รถท าการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งวัตถุอันตราย ต้องไม่ให้หรือยินยอมบุคคลดังต่อไปปฏิบัติหน้าที่ขับรถ
• ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตชนิดที่ 4 ,ถูกพักใช้,เพิกถอนหรือใบอนุญาตสิ้นอายุ • ผู้ที่ไม่มีหนังสือรับรองผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กรมการขนส่งทางบกก าหนด • ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ขับรถเกินชั่วโมงการท างานที่กฎหมายก าหนด • ผู้ที่หย่อนความสามารถในการขับรถ
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ในการใช้รถท าการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งวัตถุอันตรายต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
• ใช้รถที่มีอุปกรณ์และส่วนควบ ตามที่กฎหมายก าหนด • จัดให้มีอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่จ าเป็นในการระงับเหตุฉุกเฉิน • จัดให้มีเอกสารการขนส่งอยู่ในรถตลอดการขนส่ง • ติดป้ายอักษร ภาพและเครื่องหมายวัตถุอันตรายท่ีรถขนส่ง • ตรวจสอบภาชนะบรรจุวัตถุอันตรายให้เป็นไปตามท่ีกฎหมายก าหนด
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ในการใช้รถท าการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งวัตถุอันตรายต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
• จัดให้มีเคร่ืองหมายหรือฉลากเพื่อแสดงความเป็นอันตราย • ตรวจสอบความถูกต้องของการจัดวาง ผูกรัด ติดตรึง และบรรทุก • ไม่บรรทุกเกินน้ าหนักที่กฎหมายก าหนด • จัดท าและรายงานข้อมูลการขนส่งวัตถุอันตราย • ควบคุมผู้ขับรถไม่ให้ใช้ความเร็วเกินอัตราตามท่ีกฎหมายก าหนด
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ในการใช้รถท าการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ผู้ขับรถวัตถุอันตรายต้องตรวจสอบความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายดังต่อไปน้ี
• ความพร้อมของ อุปกรณ์หรือเครื่องมือท่ีจ าเป็นใน การระงับเหตุฉุกเฉิน • ความถูกต้องของเอกสารการขนส่ง • ความถูกต้องของป้ายอักษร ภาพและเครื่องหมายวัตถุอันตรายท่ีรถขนส่ง • เครื่องหมายฉลาก และภาชนะบรรจุวัตถุอันตราย ให้เป็นไปตามที่กฎหมายก าหนด •ความถูกต้องของการจัดวาง ผูกรัด ติดตรึง และบรรทุก
กฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ในการใช้รถท าการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน
ผู้ขับรถวัตถุอันตรายต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้ • ไม่บรรทุกผู้โดยสารไปกับรถขนส่งวัตถุอันตราย • ไม่เปิดภาชนะที่บรรจุวัตถุอันตรายในระหว่างท าการขนส่ง • ไม่สูบบุหรี่ในระหว่างการขนส่ง ขนถ่าย และเคลื่อนย้าย วัตถุอันตราย ทั้งในบริเวณใกล้เคียงและภายในรถ • ไม่กระท าการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดเปลวไฟหรือ ประกายไฟ • ดับเครื่องยนต์ในระหว่างการขนถ่ายวัตถุอันตรายข้ึนและลงจากรถ ยกเว้นกรณีที่ต้องใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนอุปกรณ์ในการขนถ่ายวัตถุอันตราย • ใช้ห้ามล้อทุกครั้งที่จอดรถบรรทุกวัตถุอันตราย
สถิติจ านวนใบอนุญาตขับรถ ณ วันที่ 31 พ.ค. 59
สถิติ ทั่วประเทศ กรุงเทพฯ ส่วนภูมิภาค รวมใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 28,672,883 4,490,339 24,182,544
รวมใบอนุญาตผู้ขับรถตามกฎหมายด้วยการขนส่งทางบก 1,710,415 116,588 1,593,827
-ใบอนุญาตผู้ขับรถชนิดที่ 1 13,591 671 12,920
-ใบอนุญาตผู้ขับรถชนิดที่ 2 127,010 97,302 1,173,708
-ใบอนุญาตผู้ขับรถชนิดที่ 3 313,442 12,655 300,787
-ใบอนุญาตผู้ขับรถชนิดที่ 4 112,372 5,960 106,412
สถิติรวมใบอนุญาตทั้งสิ้น 30,418,312 4,618,545 25,799,767
สถิติจ านวนรถที่จดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 31 พ.ค. 59
สถิติ ทั่วประเทศ กรุงเทพฯ ส่วนภูมิภาค รย. 3 รถยนต์ส่วนบุคคล Van & Pick Up 6,199,916 1,259,175 4,940,741
รวมรถบรรทุก 1,039,073 136,206 902,867
-รถบรรทุกไม่ประจ าทาง 264,839 72,152 192,687
-รถบรรทุกส่วนบุคคล 774,234 64,054 710,180
สถิติจ านวนรถทุกชนิด 37,015,647 9,170,861 27,844,786
มาตรฐานคุณภาพ บริการขนส่งด้วยรถบรรทุก
60
ขอ้ก าหนด 44 ขอ้ > บงัคบั 24 ขอ้ > แนะน า 20 ขอ้
หน่วยตรวจประเมินอิสระ (IB)
หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมในการตรวจประเมิน เร่ิมต้นที่ 13,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าเดินทางและค่าที่พัก
61
สถิติการด าเนินการของหน่วยตรวจประเมินอิสระ
12 11 12 12 12 13 12
1 1 1
5 6 6
8 4
5 5
5 5 5
0
5
10
15
20
25
2559 2558
รวม 141 บริษัท
สถิติผู้ตรวจประเมิน และหัวหน้าผู้ตรวจประเมิน
สถิติ ยังไม่หมดวาระ(ราย) หมดวาระ (ราย) รวม(ราย)
ผู้ตรวจประเมิน 1,181 780 1,961 หัวหน้าผู้ตรวจประเมิน 43 - 43 รวม 1,224 780 2,004
หัวหน้าคณะผู้ตรวจ (ยังไม่หมดวาระ), 43
ผู้ตรวจ (ยังไม่หมดวาระ),
1,181
ผู้ตรวจ (หมดวาระแล้ว),
780
Q Mark
Inspector
สถิติผู้ประกอบการที่ได้รับ Q Mark
สถิติ ได้รับการรับรองฯ จากทั้งหมด ร้อยละ
ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไมป่ระจ าทาง(ราย) 295 19,304 1.53
รถบรรทุกไม่ประจ าทาง(คัน) 43,945 268,031 16.40
หมายเหตุ : การรับรองมาตรฐานฯ ณ 10 ก.พ. 2559 จ านวนผู้ประกอบการและรถทั้งหมด ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 2559
สถิติผู้ประกอบการที่ได้รับ Q Mark แบ่งตามขนาดกิจการ
ขนาดกิจการ จ านวนผู้ประกอบการ(ราย) จ านวนรถ (คัน) S (รถ 1 - 30 คัน) 72 983 M (รถ 31 - 100 คัน) 92 5,532 L (รถ 101 - 1,000 คัน) 127 32,031 XL (รถมากกว่า 1,000 คัน) 4 5,399
รวม 295 43,945
2.24%12.59%
72.89%
12.29%
จ านวนรถท่ีได้รับการรับรอง Q Mark แยกตามขนาดกิจการ
S (รถ 1 - 30 คัน) M (รถ 31 - 100 คัน)L (รถ 101 - 1,000 คัน) XL (รถมากกว่า 1,000 คัน)
การจัดท าบันทึกความร่วมมือ (MOU) ที่เกี่ยวกับ Q Mark บันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมการขนส่งทางบก ผู้ว่าจ้าง (ภาครัฐ)และผู้ว่าจ้าง (ภาคเอกชน) ดังต่อไปนี้
1. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2. บริษัท เอสซีจี โลจสิติกส์ แมนเนจเม้นท์ จ ากัด
3. องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน German International Cooperation (G IZ)
4. หน่วยงานประกันภัย (ในอนาคต) เพ่ือส่งเสริมให้ผู้ว่าจ้าง ตระหนักในการเลือกใช้ผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รับ การรับรองมาตรฐาน Q Mark ซึ่งให้บริการด้วยความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่างบันทึกความร่วมมือ (MOU)ระหว่าง กรมการขนส่งทางบก กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
• สนับสนุนวิทยากรและเอกสารในการให้ความรู้ Q mark • สนับสนุนการพัฒนาและการตรวจประเมินให้เป็นกรณีพิเศษ •จัดล าดับการเข้าตรวจประเมินส าหรับผู้สมัคร Q Mark ภายใต้ MOU เป็นล าดับแรก
• ก าหนดนโยบายในการสนับสนุนให้ในนิคมอุตสาหกรรมเลือกใช้ผู้ประกอบการ Q Mark • จัดการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ Q Mark ปีละ 1 คร้ัง
บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมนเนจเม้นท์ จ ากัด ร่างบันทึกความร่วมมือ (MOU)ระหว่าง กรมการขนส่งทางบก กับบริษัท เอสซีจี โลจสิติกส์ แมนเนจเม้นท์ จ ากัด
• สนับสนุนวิทยากรและเอกสารในการให้ความรู้ Q mark • สนับสนุนการพัฒนาและการตรวจประเมินให้เป็นกรณีพิเศษ •จัดล าดับการเข้าตรวจประเมินส าหรับผู้สมัคร Q Mark ภายใต้ MOU เป็นล าดับแรก
• ก าหนดนโยบายในการผลักดันให้ พันธมิตรคู่ค้าเข้าสู่ระบบมาตรฐาน Q Mark อย่างต่อเนื่อง • จัดการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ Q Mark ปีละ 1 คร้ัง • ก าหนดสิทธิประโยชน์ ให้แก่พันธมิตรคู่ค้าท่ีได้รับ Q Mark
องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน ร่างบันทึกความร่วมมือ (MOU)ระหว่าง กรมการขนส่งทางบก กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ)
• สนับสนุนวิทยากรและเอกสารในการให้ความรู้ Q Mark แก่ผู้ประกอบการในกลุ่ม CLMV+T •สนับสนุนการพัฒนาและจัดตั้งระบบมาตรฐาน Q Mark ในกลุ่มประเทศ CLMV •ร่วมมือกับ GIZ ในการพัฒนาปรับปรุงข้อก าหนดต่างๆ รวมถึงการก ากับดูแลด้านการขนส่งสินค้าอันตราย
• จัดฝึกอบรม และให้ค าปรึกษาหลักสูตร ECO Driving ให้แก่ พขร. • สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าอันตราย •สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาการก ากับดูแลการขนส่งสินค้าอันตราย •ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ Q Mark ในประเทศ CLMV • จัดประชาสัมพันธ์ สัมมนาผู้ประกอบการเร่ือง Q Mark และการขนส่งสินค้าอันตราย ในประเทศ CLMV+T
สิทธิประโยชน์ส าหรับ ผู้ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ
บริการขนส่งด้วยรถบรรทุก
สิทธิประโยชน์
การประกอบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
(Road Transport Permit)
ผู้ประกอบการท่ีได้การรับรอง Q MARK จะได้รับการโปรโมท
ประชาสัมพันธ ์
การเข้าใช้สถานีขนส่งสินค้า (Truck Terminal)
ของกรมการขนส่งทางบก
ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมประชุมสัมมนาเพ่ือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ
สิทธิประโยชน์ 1. การประกอบการขนส่งสินค้า
ระหว่างประเทศ
(Road Transport Permit)
ผู้ประกอบการที่ ได้ การรับรอง Q Mark จะได้รับคะแนน 35 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 ค ะ แ น น ใ น ก า ร ข อ อ นุ ญ า ตประกอบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
สิทธิประโยชน์ 2. ได้รับสิทธิ์ เข้าร่วมการประชุม /สัมมนา เพื่อสร้าง
พันธมิตรทางธุรกิจ (Business Matching) ด้านการขนส่งสินค้าทางถนน ณ ประเทศเพื่อนบ้าน
และการส ารวจเส้นทาง หรือกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับคณะผู้บริหารของกรมการขนส่งทางบก
สิทธิประโยชน์ 3. ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรอง Q MARK
จะได้รับการโปรโมต ประชาสัมพันธ์ ผ่านกิจกรรมต่างๆของกรมการขนส่งทางบก อาทิเช่น
เผยแพร่ผ่าน www.thaitruckcenter.com ,
เผยแพร่เป็นเอกสารประกอบการประชุมระหว่างหน่วยงานภาครัฐในภูมิภาคอาเซียน
สิทธิประโยชน์ 4. การเข้าใช้สถานีขนส่งสินค้า
(Truck Terminal) ของกรมการขนส่งทางบก
ผู้ประกอบการที่ได้รับรอง Q MARK จะได้รับการพิจารณาในล าดับแรก ในการคัดเลือกผู้เข้าใช้พื้นที่สถานีขนส่งสินค้ากรมการขนส่งทางบก ทั้ งสถานีขนส่งที่ให้บริการในปัจจุบัน และที่อยู่ในแผนพัฒนาสถานีในส่วนภูมิภาค
พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางถนนของไทย • พัฒนาเครือข่ายและการส่งเสริมการประกอบธุรกิจการขนส่งในภูมิภาคอาเซียนให้มี
ประสิทธิภาพ ปลอดภัย น่าเชื่อถือ o จัดประชุมหารือเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐ
(G to G) จัดสัมมนาในประเทศเพื่อนบ้าน (B to B) และการสร้างพันธมิตรทางการค้า พร้อมทั้งจับคู่พันธมิตรคู่ค้า (Business Matching) พร้อมทั้งเผยแพร่ระบบมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก(Q Mark) ในประเทศอาเซียนที่มีพรมแดนทางถนนติดต่อกับประเทศไทยและพื้นที่ต่อเน่ืองทั้ง 8 ประเทศ
o จัดท าคู่มือผู้ประกอบการขนส่ง ภายใต้หัวข้อ “เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการขนส่งอาเซียน” ของแต่ละประเทศ จ านวน 8 ประเทศ เพื่อเผยแพร่ให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและผู้ที่เก่ียวข้องได้มีความรู้พื้นฐานก่อนจะด าเนินการขนส่งสินค้าในประเทศภูมิภาคอาเซียน
o เผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าในอาเซียนเป็นรูปแบบ online บนเว็บไซต์ www.thaitruckcenter.com
55 57
56 57
57 INDIA
57
CHINA
56 57
55 57
56
56
60 MALAYSIA
60
60
60
77
ปี 2560
78
มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน
ขอรับงบประมาณเพื่อด าเนินโครงการ 25 ล้านบาท
ส ารวจเส้นทางครอบคลุมพื้นที่ 4 ประเทศ
ประชุมเชิงปฏิบัตกิาร (Workshop) ภาครัฐและภาคเอกชนด้านการขนส่งสินค้าของไทย จ านวน 3 ครั้ง
- การส ารวจเส้นทาง
- ก าหนดประเด็นหารือและเตรียมความพร้อม การประชุม G to G
- ก าหนดประเด็นหารือและเตรียมความพร้อม การประชุม B to B
ประชุมระหว่างองค์กรภาครัฐ (G to G) ณ ประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ
การประชุมระหว่างภาคเอกชน (B to B) พร้อมกิจกรรมการจับคู่พันธมิตรธุรกิจ (Business Matching)
ณ ประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ
สัมมนาเพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาและส ารวจเส้นทาง 200 คน
คู่มือ “เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการขนส่งไทยสู่อาเซียน” ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน (ประเทศละ 500 เล่ม)
ความตกลงที่เก่ียวข้องกับการขนส่งทางถนนระหว่างประเทศ o ความตกลงว่าด้วยการยอมรับ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ในประเทศ ที่ออกโดย
ประเทศ สมาชิกอาเซียน ประเทศสมาชิกอาเซียนตกลงร่วมกันในการยอมรับใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ในประเทศทุกประเภท (เว้นแต่ใบอนุญาตขับรถชั่วคราว/เฉพาะกาล/ผู้หัดขับ) ที่ออกโดย เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายหรือ สมาคมยานยนต์แห่งชาติของประเทศสมาชิกอาเซียน
ทั้งนี้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ใดถ้ามิได้เขียนขึ้นเป็นภาษาอังกฤษจะต้องแนบ ค าแปลเป็นภาษาอังกฤษ ที่ได้รับรองแล้วด้วย o ความตกลงว่าด้วยการยอมรับ หนังสือรับรองการ การตรวจสภาพของแต่ละ
ประเทศ ประเทศสมาชิกอาเซียน ตกลงยอมรับหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ท่ีถูกต้องที่ออกส าหรับ รถบรรทุกสินค้า และรถบริการสาธารณะ (ยกเว้นส าหรับรถท่ีใช้ขนส่งสินค้าอันตราย) โดย เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายของประเทศสมาชิก
ส าหรับในประเทศไทยผู้ประกอบการสามารถขอหนังสือรับรองได้ที่ กรมการขนส่งทางบกและส านักงานขนส่งจังหวัดท่ัวประเทศ ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
2,500 บาท ค่าธรรมเนียมออกหนังสือนุญาตรถระหว่างประเทศ(เล่มเขยีว) พร้อมหนังสือ
รับรองการตรวจสภาพรถ และสติกเกอรต์ัว T 20 บาท/คัน (หนังสือหมดอายุพร้อมภาษีประจ าปี)
ข้อมูลล่าสุด 17 พ.ค. 2559
ความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางถนนไทย-ลาว o ภาคีคู่สัญญาจะให้สิทธิ ซึ่งกันและกัน ในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร
ระหว่างประเทศ รวมทั้ง การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารผ่านแดนโดย ยานพาหนะที่ใช้ในการพาณิชย์ทั้งของรัฐและเอกชน โดยไม่จ ากัดจ านวนรถ
o ความตกลงดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติแล้ว โดยผู้ประกอบการขนส่งที่ประสงค์จะประกอบการขนส่งภายใต้ ความตกลงฯ สามารถยื่นเอกสาร/หลักฐาน เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ ที่กรมการขนส่งทางบก และส านักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
o สถิติใบอนุญาตประกอบการขนส่งสินค้า ระหว่างประเทศไทย-ลาว รถบรรทุกไม่ประจ าทาง(รถ 70) จ านวน 1,205 ราย จ านวนรถ 27,684 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล(รถ 80) จ านวน 173 ราย จ านวนรถ 1,830 คัน
ข้อมูลล่าสุด 31 พ.ค. 2559
เส้นทางขนส่งสินค้าตามความตกลงไทย-ลาว
เส้นหมายเลข 3 (R3A) ห้วยทราย-น้ าทา
เส้นหมายเลข 13 อุคมไซ-เวินค า (ชายแดนลาว-กัมพูชา)
เส้นหมายเลข 9 สะหวันนะเขต-แดนสะหวัน (เช่ือมมุกดาหารกับเวียดนาม)
เส้นหมายเลข 10 วังเตา-ปากเซ (เชื่อมอุบลราชธานีกับสปป.ลาว)
เส้นหมายเลข 13 และ 18 ปากเซ- อัตตะบือ (ชายแดนลาว-เวียดนาม)
เส้นหมายเลข 8 บอลิค าไซ-น้ าพาว (ชายแดนลาว-เวียดนาม)
เส้นหมายเลข 12 ท่าแขก-จะลอ
(เชื่อมนครพนมกับเวียดนาม)
เส้นหมายเลข 1 น้ าทา- เมืองขวา (ชายแดนลาว-เวียดนาม)
MOU ว่าด้วยการขนส่งทางถนนไทย-ลาว-เวียดนาม o อยู่ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนใน
อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ าโขง (GMS CBTA) เป็นการแลกเปลี่ยนสิทธิ การเดินรถบรรทุกสินค้า จ านวนรวมฝ่ายละ 400 คัน ณ จุดผ่านแดนมุกดาหาร -สะหวันนะเขต และแดนสะหวัน -ลาวบาว
o สถิติใบอนุญาตประกอบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย-ลาว-เวียดนาม รถบรรทุกไม่ประจ าทาง(รถ 70) จ านวน 25 ราย จ านวนรถ 379 คัน
o ความคืบหน้าในการปรับปรุงความตกลง ปัจจุบันประเทศไทย -ลาว -เวียดนาม ได้ ลงนามในบทเพิ่มเติมบันทึกความเข้าใจฯ แล้ว เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อขยายเส้นทางให้ครอบคลุมท่าเรือส าคัญและเมืองหลวง 3 ประเทศ (ฮานอย เวียงจันทน์ และกรุงเทพฯ) ซึ่งไทยได้ให้สัตยาบันครบทุกภาคผนวกในวันที่ 30 มีนาคม 2558 ขณะน้ียังอยู่ระหว่างรอการหารือเพื่อเริ่มด าเนินการจริง
ข้อมูลล่าสุด 31 พ.ค. 2559 กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับกรมขนส่งทางบก ก่อนน าไปเผยแพร่ เนื่องจากจะมีการประชุมหารือกรอบความตกลง GMS ในช่วงปลายปี 2559
เส้นทางขนส่งสินค้าตาม MOU ไทย-ลาว-เวียดนาม
ในสปป. ลาว ใช้เส้นหมายเลข 9 สะหวันนะเขต-แดนสะหวัน
(เชื่อมมุกดาหารกับเวียดนาม) ในเวียดนาม
ใช้เส้น AH 16 ลาวบ่าว-ดงฮา และ AH1 ดงฮา- ท่าเรือดาหนัง
ในเวียดนาม เส้น AH1 ดงฮา-ฮานอย-ท่าเรือไฮฟอง ลงนามและให้สัตยาบันเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรอการหารือทั้งสามฝ่าย
ก่อนด าเนินการใช้จริง
MOU ว่าด้วยการขนส่งทางถนนไทย-กัมพูชา o อยู่ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนใน
อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ าโขง (GMS CBTA) เป็นการแลกเปลี่ยนสิทธิ การเดินรถบรรทุกสินค้าและรถโดยสาร จ านวนรวมฝ่ายละ 40 คัน ณ ด่านพรมแดนอรัญประเทศ - ปอยเปต
o สถิติใบอนุญาตประกอบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา รถบรรทุกไม่ประจ าทาง(รถ 70) จ านวน 16 ราย จ านวนรถ 35 คัน รถโดยสารไม่ประจ าทาง(รถ 30) จ านวน 3 ราย จ านวนรถ 5 คัน
o ความตกลงนี้ยังไม่ตอบสนองต่อความต้องการทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันฝ่ายไทยและกัมพูชา เห็นชอบในหลักการในการเพิ่มโควตารถขนส่งสินค้าและรถโดยสารไม่-ประจ าทางเป็นฝ่ายละ 150 คัน หากแต่ยังคงเหลือการเจรจาในรายละเอียดเพื่อแก้ไขบันทึกความเข้าใจ ฯ
40
150
ข้อมูลล่าสุด 31 พ.ค. 2559 กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับกรมขนส่งทางบก ก่อนน าไปเผยแพร่ เนื่องจากจะมีการประชุมหารือกรอบความตกลง GMS ในช่วงปลายปี 2559
เส้นทางขนส่งสินค้าตาม MOU ไทย-กัมพูชา
เส้นAH1 กรุงเทพ- พนมเปญ ผ่านด่านบ้านคลองลึก
MOU ว่าด้วยการขนส่งทางถนนไทยผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์
o บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายทางถนนจากประเทศไทยผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ลงนามเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2522 ณ กรุงเทพฯ
o ประเทศมาเลเซียยินยอมให้มีการขนส่งสินค้าเน่าเสียง่ายทางถนน จากประเทศไทยผ่านแดนมาเลเซียไปยังสิงคโปร์ ปีละ 30,000 ตัน โดยยกเว้นการช าระอากร ภาษีค่าธรรมเนียม และค่าภาระอื่นๆ
ทั้งน้ี สินค้าเน่าเสียง่าย ได้แก่ ปลา สัตว์น้ าที่มีเปลือกหุ้ม ตัวหอย เน้ือสัตว์แช่เย็นหรือแช่แข็ง ผลไม้ ผักสดแช่เย็นหรือแช่แข็ง และมีการจ ากัดจ านวนผู้ประกอบการขนส่งเท่าที่รัฐบาล 2 ฝ่าย เห็นชอบเท่านั้น
o บันทึกความเข้าใจฯดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติแล้ว โดยมีผู้ประกอบการขนส่งที่ด าเนินการในปัจจุบัน จ านวน 1 ราย
ได้แก่ บริษัทอาเซียนคอนเทนเนอร์ ทรานซ์ จ ากัด จ านวนรถ 20 คัน
ข้อมูลล่าสุด 31 พ.ค. 2559
MOU ว่าด้วยการขนส่งทางถนนไทย-เมียนมา o อยู่ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ าโขง (GMS
CBTA) ได้มีการจัดท าร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารข้ามพรมแดน ณ จุดผ่านแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก และแม่สอด-เมียวดี โดยมีโควตาจานวนรถ (รวม 2 ด่าน) 200 คัน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 แต่ยังไม่ได้มีการลงนาม เน่ืองจากรอความพร้อมของเมียนมา ทั้งน้ี ล่าสุดได้รับการประสานงานจากเมียนมา ว่าเมียนมาได้น าร่างบันทึกความเข้าใจฯ ให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องพิจารณาแล้ว
ข้อมูลล่าสุด 31 พ.ค. 2559 กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับกรมขนส่งทางบก ก่อนน าไปเผยแพร่ เนื่องจากจะมีการประชุมหารือกรอบความตกลง GMS ในช่วงปลายปี 2559