Upload
others
View
0
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
ศาสนาฮินดู(ความเปนมิตรกับความเชื่อตาง ๆ)
๑. พหุเทวนิยม อติเทวนิยม เอกเทวนิยม๒. พัฒนามาจากความเชื่อดึกดําบรรพ ศาสนาโบราณ ศาสนาปจจุบัน๓. เปนการบงบอกสภาพแวดลอม, วิถชีีวิต, ความเชื่อ
และประวัติศาสตรของประเทศอินเดียโดยเฉพาะ๔. เปนหลักปฏิบัติขั้นพื้นฐานของชาวอินเดีย (ยอมรบัและปฏิเสธ)
- อาสติกะ - นาสติกะ
๕. ไมมีระบบที่แนนอน เพราะ- วิวัฒนาการมาจากดกึดําบรรพ- เก็บสะสมเรื่องราวตางๆ เอาไวตามยุคนั้นๆ- หลายเผา หลายภาษา ทําใหเกดิแนวคิดไปตางๆกนั
๖. มีทุกอยางที่ศาสนาอืน่ๆ พึงมี (เทวนิยม)๗. แตลกัษณะเดนกวาศาสนาอื่นๆ ที่มีชีวิตก็คือ เนนจารีตพิธกีรรม๘. ศาสนาโดยหลกัทั่วๆไปมี ๒ สวนคอื
- ศาสนา = พระพรหม, พระนารายณ,อิศวรฯลฯ- ปรัชญา = พรหมัน
ขอแตกตาง ระหวางพรหมัน, พระพรหม๑. พรหมันมฐีานะเปนสิ่งแทจริงสูงสุด = เทพเจา๒. พรหมันม ี๒ ฐานะ
- ภาวะที่เปนสิ่งสมบูรณ (The Absolute) เรียกวา ปรพรหม
- ภาวะที่เปนเทพเจาสูงสุด (God) เรียกวา อปรพรหม หรือ อิศวร (ตามคัมภีรอุปนิษัท)
๓. พรหมันพฒันาขึ้นมาภายหลังพระพรหมเปนไปตามลักษณะปรัชญา หรือเปนการอธิบายพระพรหมใหเปนเทพเจาหรือสิ่งสูงสุดของทุกชนชั้น
๔. พระพรหมไดรับการบูชากอนที่จะเกิดคัมภรีอุปนิษัท๕. มีฐานะเปนเทพเจาสูงสุดตามแนวศาสนา๖. จัดอยูในประเภทศาสนาเอกเทวนิยม (ยุคพระเวท)๗. เปนเทพเจาที่รับชวงเรือ่ง ปชาบดี หรืออติเทวนิยม๘. โดยมีหลักรับรองที่วา เอกเมวอทวีติยัม
เทวนยิมในระดบัตางๆ
๑. ยุคพระเวท * - พหุเทวนิยม = ๓๓๓๘ องค เทพเจาสําคัญมี ๓๙ องค แบงเปน ๓ กลุม (เทพเจาในยุคแรก)
ก. เทพเจาประจาํทองฟาข. เทพเจาประจาํอากาศค. เทพเจาประจาํพื้นดิน
• เทพเจาไดรับยกยองวามี อํานาจเสมอกัน๒. ยุคอุปนิษทั - เอกเทวนิยมพระพรหมมีลักษณะเปนตัวสําแดง (ปรากฏ) ของพรหมนัทีป่รากฏตนเองในสภาพสิ่งรับรู
๓. แมศาสนาฮินดจูะเชื่อตางกนั แตโดยทั่วไปก็ยอมรับเทพเจา ๓ องคพระพรหม, พระวิษณุ (พระนารายณ) และพระศิวะ (พระอิศวร) รวมเรียกวา ตรีมูรติเปนหนึ่งเดียว แตแสดงออก ๓ ดานเทานัน้ –ปรมาตมนั
ตรีมูรติหรือตรีเอกภาพ- พระพรหม = ผูสราง- พระวิษณุ = ผูรักษา- พระศิวะ = ผูทําลาย
* ทั้ง ๓ องคนี้ มอีกัษรยอในภาวนาวา โอม = อะ, อุ, มะ
ความหมาย
- คําวา ฮินดู เพี้ยนมาจากคําวา “สินธุ” “หินทู” “ฮินดู” ในที่สุด
- คําวา ฮินดู แปลวา ผูนับถืออหิงสา, ผูไมเบียดเบียน
ชื่อเรียก
๑. สนาตนธรรม - ศาสนาเกาแก หรือศาสนานิรันดร๒. ไวทิกธรรม – ศาสนาที่เนื่องดวยพระเวท๓. อารยะ - ประเสริฐ๔. พราหมณะ – เปนศาสนาที่พัฒนามาอยูในยุคกลาง๕. ฮินดู - ศาสนายุคใหม ใชระบบปรัชญา ชี้นํา
บอเกิด- พัฒนามาจากศาสนาดึกดําบรรพ- มีหลายระบบ, หลายคมัภีร, หลายนิกาย ฯลฯ- แตรวมกันได เพราะเคารพสิทธิ์
•ไมมีผูกอตั้ง ไมมีลัทธติายตัวและมีความเชือ่ที่แตกตางกนัมากมาย•มีความเชือ่ที่เปนศูนยกลางคอื.....“มีวิญญาณสากลดวงหนึ่งที่เปนสารัตถะชั่วนิรันดร”
(ตรีมูรติ)
• พระพรหมทรงสรางมนุษยคนแรกชื่อ มนู• วรรณะทั้ง 4 ออกมาจาก มน ู ( กฎแหงมนู)• กฎแหงกรรม: ดีมาจากดี ชั่วมาจากชั่ว• การเวียนวายตายเกิด มีวิญญาณเปนอมตะ• ชีวิตที่มีคุณธรรมเทานัน้จึงจะเขาสู นริวาณ
ตรีมูรติวิวัฒนาการมาจากวิญญาณโลก (พรมหมนั) กาํลังสราง กําลังพัฒนาและกําลังเปลี่ยนแปลงอยางไมหยุดหยอน เมือ่ถึงที่สุดรอบหนึ่งซึ่งเรียกวา “วันของพระพรหม” พระศิวะจะทรงทําลายโลกและพระพรหมจะทรงสรางขึ้นมาใหมอกีและพระวิษณุจะมาปรากฏเพื่อรักษาเพื่อนําและใหแสงสวางแกมนษุย
ฮินดตูรีมูรติ
คัมภีร
๑. คัมภีรพระเวท ซึ่งเปนคมัภีรที่เกาแกที่สุด- เดิมเรียกวา ฤคเวท- ภายหลังพราหมณรวบรวมเปนหมวดหมูเรียกวา “สัมหิตา”หรือพระเวท ไตรเวท
- ตอมาเกิดขึ้นอกี ๑พระเวท รวมเปน ๔ พระเวท หรือสัมหิตา ไดแก :-
ไตรเวท/จตุรเวทก) ฤคเวท - ประพันธสรรเสริญเทพเจาข) ยชุรเวท - ประพันธสําหรับใชในพิธีกรรมค) สามเวท - ประพนัธที่วาบทสวดขับรองง) อาถรรพเวท - คาถาอาคมหรือไสยศาสตร
คัมภีรพระเวททั้งหมด ชาวฮินดูเชื่อวาเปน ศุรติ หรืออเปารุเษยะศุรติ = สิ่งที่ไดยินมาอเปารุเษยะ = สิ่งที่มิไดสรางขึ้นดวยมนุษย
พระเวททัง้ ๔ แตละคมัภีรตางก็ประกอบดวย ๔ สวน
๑. มันตระ - สดุดีขับรองและสรรเสริญพระเจา๒. พราหมณะ - อรรถกถาอธิบายความในมันตระ๓. อารัณยกะ - อธิบายเพิ่มเติมในพราหมณะ ๔. อุปนิษัท - เนนปรัชญา
- เปนคัมภีรสุดทาย ของพระเวท- บางครั้งถูกเรียกวา เวทานตะ
สวนคัมภีรประเภทสัมฤติ = อิติหาสะ๑) อุปเวท๒) เวทางค๓) ภควัทคีตา- มหากาพย รามายณะ(การผจญภัยของพระราม)- มหากาพย มหาภารตะ(พี่นองผูยิ่งใหญ)
“บุคคลสามารถฆารางกายได แตไมอาจฆาวิญญาณไดที่สุดของการเกิดคือการตายและที่สุดของการตายคือการเกดิ”
๔) มนูศาสตร กลาวถึงเรื่องลําดับชวีิต ( อาศรม 4 )๑. พรหมจารี
- ๘, ๑๑, ๑๒ ป- สายธุรํา, ยัชโญปวีตะ(พิธกีารสวมใสสายดายศักดิส์ิทธิ์)- ปฏิบัตอิยู ๑๒ ป
๒. คฤหัสถะ - มีครอบครัว๓. วนปรัสถ - ทดลองอยูในปา๔. สันยาสี - ละโลกียวิสัย
พิธีกรรมในมนูศาสตร = สนัสการ
๑) ตั้งครรภ๒) ทราบวาตั้งครรภเปนชาย๓) ตัดผมมารดา เมื่อตั้งครรภได ๔, ๖ และ ๘ เดอืน๔) เอาน้ําผึ้งแตะที่ลิ้นเด็ก ๓ ครั้ง๕) ตั้งชื่อ เมื่ออายุ ๑๐ หรือ ๑๒ วัน
๖) นําเด็กออกดูดวงอาทิตย เมื่ออายุได ๔ เดือน๗) เลี้ยงเดก็ดวยขาว - ๕-๘ เดือน๘) ไวจุก - ๓ ป๙) ยชัโญปวีตะ๑๐) ตัดจุก - ๑๐ ป, ๒๒ ป และ ๒๔ ป๑๑) กลับบานหลังจากสําเร็จการศึกษา๑๒) วิวาหะ
๕) คมัภีรปุราณะและอุปปุราณะ- เปนเรื่องราวทีก่ลาวถึงเทพเจา ๕ ประการ (ลักษณะ)- โดยสรุป กลาวถึงพฤติกรรมของพระเจา ๓ องค : พระพรหม, พระวิษณุ และอีศวร- มีประโยชนมากสําหรับการศึกษาคนควาเรื่องราวทกุชนิดที่เกี่ยวกับเรื่องชีวิตของคนอนิเดียโบราณ
๓. คัมภีรตันตระ- เนนเรื่องเวทมนตรคาถาหรือไสยศาสตร- เดิมเปนรูปคําสนทนาระหวางพระศิวะ กับ นางทุรคา ผูเปนชายา- ตอมากอใหเกิดลัทธิศกัติบูชาศักดานุภาพของ เทพเจาฝายหญิง- และตอมาอีกลัทธิศกัต ิแบงออกเปน ๒ นิกาย คือ
๑) ทักษิณจาริน - เปดเผย๒) วามาจาริน - นิกายลี้ลับ
การบรรลุจุดสุดยอดของลัทธินี้ ตองทํา ปญจมการ คือ๑. มชัชะ - ตองดื่มน้ําเมา๒. มางสะ - รบัประทานเนื้อผสมน้ําเมา๓. มนตรา - สาธยายมนตรเพือ่เรงกระตุน๔. มทุรา - สรางลีลาทาทางยั่วยวน๕. ไมถุน - เสพกามกัน
อวตาร
- แปลงรางมาปราบยุคเข็ญ- เดิมนั้น ไมบงชัดวาเทพเจาองคใดอวตารมาเปนวีรบุรษุ- แตปจจบุัน พระวิษณุ เทานั้น
เหตุที่เชื่อเรื่องอวตาร
๑) ตองการใหเทพเจาของตนเองยิ่งใหญกวาใคร๒) รวบรวมวีรบุรษุและเทพเจามากมายใหเปนเรื่องเดียวกัน
อายุของโลกชาวฮินดูเชื่อวาโลกเปนสวนหนึง่ของขบวนการที่ไมมีเบื้องตนและเบื้องปลายเปนวงกลม (วัน-คืนของพระพรหม=45 ลานป)กัลป = ๔ ยุค = มหายุค ๑ กัลป = ๔,๓๒๐,๐๐๐ ป
๑. กฤตยุต = สัตยยุค๒. ไตรคายุค๓. ทวาปยุค๔. กลยีุค
• (1 กัลปเปรียบไดกับบอวางเปลากวาง 1 ไมลและลึก 1 ไมลเต็มไปดวยเสนผมบาง เสนผม 1 เสน จะถูกนําออกไป ทุกๆ 100 ปจนผมหมด)•ความหมายก็คือพวกเขาเชื่อวาโลกนีไ้ดมีมาแลวและจะมตีลอดไป
นิกายของศาสนาฮินดู๑) หลักตรมีรูติ
- นิกายไวษวณะ เทพเจาแหงความสงบและกาลเวลา - นิกายไศวะ เทพเจาแหงเพลงและการรักษาพยาบาล
๒) ลัทธิศักติ - บูชามเหสขีองเทพเจาทั้ง ๓- ทุรคา เทพมารดา
ปางตางๆของพระแมอมุา
จารีตของศาสนาฮินดูกับประเพณีไทย- เกือบ ๖๐% แทรกอยูในพุทธศาสนา- มีทั้งพิธีราษฎรและหลวง- เปนพิธีที่ถกูดัดแปลงใหเหมาะสมกับไทย“ความตายไมใชอะไรอืน่นอกจากความหลับและการลืม”
มหาตมะ คานธี