1-1

บทท่ี 1หลักการเบ้ืองตนเกี่ยวกับปอมสนาม

1. กลาวนํ าวิชานี้มุงหมายเพื่อใหทราบ ความเปนมาของปอมสนามตลอดจน ใหคุนเคยกับหลักมูลฐานการสราง

และการใชปอมสนาม ซึ่งจะกลาวถึงเร่ืองการจัดที่มั่นตั้งรับแบบเรงดวนและแบบประณีต คู การสรางคู การกรุลาด,เคร่ืองกีดขวาง การคํ านวณวัสดุแรงงานตลอดจนการสรางเคร่ืองกีดขวางแบบตางๆ ซึ่งก็คงจะไมสามารถกลาวไดครอบคลุมถึงรายละเอียดทุกแงทุกมุมไดมากนัก เพียงแตใหใชเปนแนวทางในการปฏิบัติในสนามและพอเพียงที่จะสามารถแกปญหาในยุทธบริเวณไดเทานั้น

2. ประเภทของปอมคายปอมคายเปนงานที่สรางข้ึนโดยหนวยรบและหนวยชวยรบทุกหนวย ทหารชางเปนเพียงผูใหความ

ชวยเหลือ ใหคํ าแนะนํ าแกหนวยตางๆ ที่ยึดครองพื้นที่ การใหความชวยเหลือนี้อาจรับผิดชอบงานปอมคายเฉพาะแหงทั้งหมดโดยส้ินเชิง ปอมคายแบงออกได 2 ประเภท คือ ปอมถาวร และปอมสนาม

2.1 ปอมถาวรบรรดาปอมคายที่สรางข้ึนในขณะที่ไมมีการปะทะกับขาศึก และเมื่อการเขาตีของขาศึกยังไม

เกิดข้ึน ขาศึกยังไมเคล่ือนตัวเขามาใกลโดยธรรมดาสรางดวย คอนกรีต เหล็กหรือวัสดุที่คลายคลึงกัน2.2 ปอมสนาม

คือปอมคายที่สรางข้ึนขณะที่ปะทะกับขาศึกหรือใกลปะทะกับขาศึก ปอมสนามธรรมดาจะท ําการสรางโดยหนวยทหารที่ยึดครองพื้นที่นั้น ๆ โดยไมเจาะจงวาจะเปนทหารเหลาใด ทหารชาง มีหนาที่เพียงใหการสนับสนุนดานวัสดุอุปกรณในการสราง เชน กระสอบทราย ,ลวดหนาม และใหคํ าแนะนํ ากํ ากับดูแลเมื่อหนวยทหารเหลานั้นขอมา ทํ าการสรางดวยเคร่ืองมือประจํ ากายของ ทหารแตละคน หรือเคร่ืองมือโยธาสนามหมายเลข 2 ซึ่งเปนเคร่ืองมือของหมวด

3. ปอมสนามแบงตามการใชงานปอมสนามแบงตามการใชงาน สามารถแบงออกไดเปน 2 ประเภท คือ ปอมสนามเรงดวน และปอม

สนามแบบประณีต3.1 ปอมสนามเรงดวน

คือปอมสนามที่สรางข้ึนขณะที่จะปะทะกับขาศึก หรือใกลที่จะปะทะกับขาศึก และสรางดวยวัสดุที่หาไดในภูมิประเทศ งานเหลานั้นประกอบดวย

3.1.1 การถากถางพื้นที่3.1.2 การขุดที่วางตัว ที่ตั้งอาวุธ ที่พักก ําบัง

1-2

3.1.3 การวางสนามทุนระเบิดดักรถถัง สนามทุนระเบิดสังหาร3.1.4 การสรางเคร่ืองกีดขวาง ชนิดลวดหนาม

3.2 ปอมสนามแบบประณีตคือปอมสนามเรงดวนที่ไดรับการพัฒนาใหแข็งแรงข้ึนมั่นคงข้ึนสามารถปองกันอันตรายที่เกิด

จากกระสุนปนใหญ ปน ค. และจากการทิ้งระเบิดของเคร่ืองบิน ปองกันกระแสลม แสงแดด ลมฝน และอากาศที่หนาวเหน็บ ปอมสนามแบบประณีตจะท ําการสรางในขณะที่ไมมีการปะทะกับขาศึก และขาศึกยังไมเคล่ือนเขามาใกลสรางดวยวัสดุที่ทนทาน เชน คอนกรีต เหล็ก หรือวัสดุที่ คลายคลึงกัน

4. การใชปอมสนามปอมสนามยอมใชไดทั้งการรบดวย วิธีรุก วิธีรับ และวิธีรนถอย ซึ่งหากหนวยทหาร หรือทหารมีความ

รูความเขาใจหลักการตาง ๆ ของปอมสนามอยางถองแทยอมน ําไปใชใหเกิดประโยชนแกตัวเองและสวนรวมได4.1 การใชปอมสนามในการรุก

ปอมสนามจะชวยใหการเขาจูโจมตอก ําลังของขาศึกอยางไดผลและตอเนื่อง ทํ าใหกํ าลังพลที่เขาทํ าการโจมตีขาศึกไดมีเวลาพักผอนเพื่อการโจมตีตอไปเมื่อมีโอกาสหรือสถานการณบังคับ และเปนการปองกันตัวของหนวยทหารเองในเมื่อขาศึกตีโตตอบกลับมา ฉะนั้นหากทหารหรือหนวยทหารมีความรู มีความชํ านาญในการสรางในการดัดแปลงส่ิงตางๆ รอบตัวใหเกิดประโยชนในการปองกันตัวเองทหารก็จะปลอดภัยและมีขวัญก ําลังใจในการตอสูเพื่อทํ าลายขาศึก เพื่อขยายผลตอไป

4.2 การใชปอมสนามในการตั้งรับ ภารกิจหลักของทหารชางในการตั้งรับที่สํ าคัญมีอยู 3 ประการ

4.2.1 การขัดขวางความคลองแคลวในการเคล่ือนที่ของขาศึก (mobility) 4.2.2 ความคลองแคลวในการเคล่ือนที่ของหนวย (countermobility)

4.2.3 ความอยูรอดในสนาม (survivability)

จากหลัก 3 ประการนี้จะท ําใหมองเห็นวาในการตั้งรับเราตองพรอมที่จะท ําการรุกโตตอบตอขาศึกไดและตองชิงเปนฝายริเร่ิมจากขาศึกที่กํ าลังทํ าการรบ การตีโตตอบเชิงรุกก็เปนสวนหนึ่งของการตั้งรับดวย การตั้งรับที่ดีคือการปองกันตัวเองของหนวยทหารทั้งรายบุคคลและเปนสวนรวมเคร่ืองกีดขวางทุกชนิดที่นํ ามาวาง ตองพิจารณาถึงขอดีขอเสียโดยพิจารณาจากภูมิประเทศรอบ ๆ ตัว ประกอบสนามทุนระเบิด คูเคร่ืองกีดขวางลวดหนาม และเคร่ืองกีดขวางอ่ืน ๆ จะตองสามารถชวยยับยั้งการรุกคืบหนาของขาศึกได และสามารถที่จะแยกรูปขบวนการเขาตีของขาศึกที่จะกระทํ าตอฝายเราใหออกจากกันได การรักษาความคลองแคลวในการเคล่ือนที่สํ าหรับการตั้งรับ เปนการรักษาเสรีในการดํ าเนินกลยุทธและการสนับสนุนดานการสงกํ าลังบํ ารุงของฝายเรา ผูดํ าเนินกลยุทธจะตองสามารถเคล่ือนที่เขาปะทะกับขาศึก และเคล่ือนยายไปสูที่มั่นแหงอ่ืนไดดวยฉะนั้นในการตั้งรับจะตองมีเสนทางเขาออกอยางเพียงพอตอการ

1-3

เคล่ือนยายกํ าลังของตนเอง และของหนวยเสริมก ําลังที่จะท ําการตั้งรับเสนทางหลักทาง การสงกํ าลังจึงตองเปดอยูตลอดเวลา เพื่อสนับสนุนการตั้งรับ และการตีโตตอบของฝายเรา

4.3 การใชปอมสนามในการรนถอยการเคล่ือนที่ออกหางจากขาศึกอยางมีระเบียบอาจเปนการกระทํ าโดยเต็มใจ หรือถูกบังคับให

กระท ําการรนถอย แบงออกได 3 แบบ การรบหนวงเวลา - การถอนตัว - การถอยการรนถอย จะตองมีการขัดขวางการเคล่ือนที่ของฝายเราจากขาศึก เราใชเคร่ืองกีดขวางในทางลึก และสนามทุนระเบิด และตามแนวเคล่ือนที่หลักอาจมีความจ ําเปนตองวางเคร่ืองกีดขวาง เพื่อปองกันการตีโอบ การวางเคร่ืองกีดขวางในการรนถอยจะครอบคลุมพื้นที่มากกวาการตั้งรับ เนื่องจากจะตองใชเคร่ืองกีดขวาง เพื่อปองกันการตีโอบ การวางเคร่ืองกีดขวางในการรนถอยจะครอบคลุมพื้นที่มากกวาการตั้งรับเนื่องจากจะตองใชเคร่ืองกีดขวางมากในตํ าบลที่สํ าคัญตั้งแตขอบหนาของพื้นที่กํ าบัง หรือจากจุดรนถอยไปจนถึงจุดส้ินสุดการรนถอย

5. ลํ าดับความเรงดวนของงานปอมสนามในการต้ังรับงานตาง ๆ ที่เกี่ยวกับการเตรียมที่มั่นตั้งรับ ตองดํ าเนินการไปพรอมๆ กัน แตงานบางอยางตองปฏิบัติ

ตามลํ าดับความเรงดวน เพราะฉะนั้นผูบังคับหนวยทหารตองกํ าหนดลํ าดับของข้ันงานในการเตรียมที่มั่น และพึงระวังเปนพิเศษบางประการ ที่จะตองทํ าการพรางควบคูไปกับงานดวยเพื่อไมใหเกิดงานซํ้ าซอน หรือยอนกลับมาท ําอีกคร้ัง

5.1 ลํ าดับขั้นความเรงดวนของงาน 5.1.1 การระวังปองกันตัวเอง 5.1.2 กํ าหนดที่ตั้งอาวุธ 5.1.3 การถากถางพื้นที่ยิงร้ือถอนวัสดุที่กํ าบังการยิงออกไปและหาระยะยิงไปยังเปาหมาย 5.1.4 วางขายการติดตอส่ือสาร 5.1.5 เตรียมดัดแปลงที่ตั้งอาวุธ, หลุมบุคคลและที่ก ําบังเหนือศีรษะ 5.1.6 วางสนามทุนระเบิด, เตรียมท ําลายตํ าบลที่สํ าคัญ 5.1.7 สรางเคร่ืองกีดขวาง 5.1.8 เตรียมเสนทางเคล่ือนที่, การสงกํ าลัง 5.1.9 เตรียมที่ตั้งสํ ารอง และเพิ่มเติม 5.1.10 เตรียมที่ปองกัน (หลุมหลบภัย) อาวุธ เคม ีชีวะ รังสี 5.1.11 เตรียมสรางส่ิงลวง ตามแผนของหนวยเหนือ

5.2 ความรับผิดชอบในการทํ างาน ผบ. หนวยทุกระดับเปนผูรับผิดชอบ ฝอ. ทหารชางทุกระดับเปนผูชวยเตรียมการ วางแผน ส่ังการ ตรวจทางเทคนิค ใหคํ าแนะนํ าก ํากับดูแล

1-4

5.3 การวางแผนการพรางควรเลือกที่ตั้งของงานสนามตาง ๆ ใหงายแกการพราง การพิจารณาปจจัย การพรางเสียแต

ตนจะชวยใหประหยัดแรงงานไดในภายหลังเปนอันมาก และใหผลในการพรางดีดวยการสรางที่ตั้ง หรือส่ิงลวงและ เคร่ืองลวงอ่ืน ๆ ประกอบกับวิธีการซอนเรน หรือการพรางมักกระท ําไปพรอม ๆ กับงานอ่ืน ๆ ที่ตั้งลวงนี้จะตองกํ าหนดที่ตั้งใหรอบคอบเพื่อใหแผนของสวนรวมไดผล

6. การจัดท่ีม่ันต้ังรับ ( Organization of a defensive position )6.1 การลาดตระเวน (Reconnaissance)

ปอมสนามเปนงานตั้งรับในสนามที่สรางข้ึน เพื่อเสริมความแข็งแรงของลักษณะที่ตั้งรับโดยธรรมชาติของภูมิประเทศนั้น ดังนั้นจึงเปนธรรมดาที่เราจะตองเลือกที่มั่นตั้งรับที่จะไดประโยชนจากการใชลักษณะภูมิประเทศใหไดผลดีที่สุดและจะเปนที่มั่นที่แข็งแรงที่สุด มีอยูหลายกรณีที่ทานในฐานะทหารชางจะไมตองเลือกบริเวณสํ าหรับที่มั่น แตทานอาจถูกขอให คํ าแนะนํ าเพื่อชวยผูบังคับบัญชาในการเลือกดังนั้นกอนที่สามารถใหคํ าแนะนํ าอยางถูกตองแนนอนแกผูบังคับหนวยทหารราบ ทานจะตองทราบวาที่มั่นตั้งรับนั้นเขาจัดกันอยางไร ผูบังคับบัญชาคนใดที่จะยึดครองภูมิประเทศใดๆ ใหไดเปรียบ ,ผูบังคับบัญชาผูนั้นจะตองทํ าการลาดตระเวนและศึกษาหรือประเมินคาของภูมิประเทศเสียกอน การลาดตระเวนจะใหสมบูรณ หรือกวางขวางเพียงใดนั้นยอมแลวแตสถานการณ และเวลาที่มีอยูบางคราวอาจมีความจ ําเปนที่ทํ าไดแตเพียงการศึกษาแผนที่เทานั้น ปจจัยตาง ๆ นี้ตองพิจารณาในการลาดตระเวนไดแก พื้นที่ยิง ทางที่ขาศึกนาจะเขามาการตรวจการณการซอนพราง และเสนทางคมนาคม เปนตน

6.2 การจัดระเบียบยทุธวิธ ี ( Tactical Organization )จากการศึกษาภูมิประเทศยอมทํ าใหผูบังคับบัญชาหนวยยุทธวิธีสามารถจัดการตั้งรับของตน

ใหเหมาะสมกับแบบการตั้งรับของหนวยใหญ ซึ่งหนวยตนเปนสวนหนึ่งของหนวยใหญนั้นเสนแบงเขตตางๆ ของที่มั่นตั้งรับจะตองกํ าหนดข้ึนและจะตองระมัดระวังที่จะไมกํ าหนดเสนแบงเขตลงบนภูมิประเทศที่สํ าคัญ (Critical Terrain Features) เชน แนวสันเขา หรือหวย ทั้งนี้เพื่อใหหนวยขางเคียงไดเขาใจ ความรับผิดชอบโดยแนนอนในภูมิประเทศเหลานี้อยางแจมแจงและจะไดวางแผนกับหนวยขางเคียงดวยขอบเขตเหลานี้จะตองกํ าหนดเขตจํ ากัดหนาหลังของที่มั่นใหแนนอน และจุดจํ ากัดเขตดวย ซึ่งจะเปนเคร่ืองกํ าหนดแนวขอบหนาพื้นที่การรบ (ขนพร.) วาอยูที่ใด แนว ขนมพร. นี้คือขอบเขตหนาสุดของที่มั่นใหญ และเปนที่ซึ่งระบุใหการยิงของหนวยตาง ๆ และอาวุธสนับสนุนมีการยิงประสานกัน ขอบเขต และจุดตาง ๆ จะตองกํ าหนดลงไปใหแนนอนโดยมีทั้งในภูมิประเทศ และในแผนที่ ในทุกกรณี

1-5

6.3 การจัดระเบียบการยิง ( Organization of Fire ) การจัดการยิงทางปกอยางมีระเบียบของปนกลเพิ่มเติมดวยการยิงของอาวุธอ่ืน ๆ นับวาเปนมูลฐานของที่มั่นตั้งรับ จะตองวางแผนการยิงฉากปองกันข้ันสุดทาย ( Final protective Fire ) เพื่อใหการยิงกวาด (Crazing Fire) ประสานกันโดยตอเนื่องเต็มกวางดานหนาของที่มั่นใหไดผลดีที่สุดเทาที่สามารถทํ าได ปนกลที่วางอยูในแนวปองกันข้ันสุดทาย ( Final Protective Line ) ควรวางเปนคูและหาง กันประมาณ 30 - 40 เมตร ทั้งนี้เพื่อใหมั่นใจวาการยิงในแนวปองกันข้ันสุดทาย นั้นตอเนื่องอยูเสมอ การยิงจะตองประสานกับหนวยขางเคียง เพื่อใหการสนับสนุนซึ่งกัน และกัน ไดผลดีดวยการกระทํ าดังกลาวนี้ ยอมท ําใหเขตติดตอระหวางหนวยซึ่งโดยธรรมดาออนแอทางยุทธวิธีไดรับการเสริมใหแข็งแรงข้ึนดวยการยิง การยิงของปนใหญ และเคร่ืองยิงลูกระเบิด จะตองประสานกับแผนการยิงในการตั้งรับ เพื่อคลุมตํ าบลอับกระสุนตาง ๆ ( Dead Spaces ) ในยานการยิงของปนกล และในจุด สํ าคัญ ๆ ไมวาสภาพของทัศนวิสัยจะเปนอยางไร, ในแผนจะตองมีการชี้เปาหมายไดโดยแนนอน เพื่อให การขอการยิงใชเวลานอยที่สุด แผนการยิงที่สมบูรณจะตองจัดการใหการยิงหนักยิ่งข้ึนเมื่อขาศึกใกลแนวขอบหนาที่มั่น (ขนพร.) เขามา

6.4 การดัดแปลงภูมิประเทศการดัดแปลงภูมิประเทศ มีค ําจํ ากัดความวา "คือการปรับปรุงที่มั่น ตั้งรับโดยการมอบที่ตั้ง

เฉพาะใหแกหนวยที่ยึดครองโดยการเสริมความแข็งแรงในการตั้งรับตามธรรมชาติของภูมิประเทศ "ทานในฐานะผูบังคับกองรอย หรือผูบังคับหมวดที่สนับสนุนหนวยยุทธวิธ ี ควรจะมีความรูในการแบงมอบพื้นที่ซึ่งกระท ําโดยผูบังคับหนวยยุทธวิธีกํ าหนดที่ตั้งให และทานจะตองเปนผูที่ชํ านาญในศิลปของการเสริมความแข็งแรงในการตั้งรับตามธรรมชาติของภูมิประเทศนั้น เราจะกลาวถึงงานตางๆ ที่เกี่ยวของกับการดัดแปลงภูมิประเทศอยางกวางๆ ไปกอน, แลวเราจึงจะศึกษางานนั้นอยางละเอียดในภายหลัง ที่จะกลาวตอไปนี้มิไดกลาวตามลํ าดับของงานที่เร่ิมตามที่เรียกกันวาลํ าดับความเรงดวน ซึ่งโดยธรรมดาจะก ําหนดไวในคํ าส่ังของผูบังคับหนวยยุทธวิธ ีแตโดยแทจริงแลวทานจะพบอยูเสมอวางานตาง ๆ เหลานี้จะตองกระท ําพรอม ๆ กันไป

6.4.1 การถากถางพื้นยิงเมื่ออาวุธเขาประจ ําที่มั่นแลว จํ าเปนจะตองถากถางพื้นยิง เพื่อใหฝายตั้งรับมองเห็น

ฝายเขาตีโดยมองผานศูนยปนในระยะปานกลาง และระยะประชิด การถากถางเร่ิมกระท ําตั้งแตแนวขอบหนาที่มั่น และตอไปขางหนาอยางนอย 100 เมตร จะตองระมัดระวังอยาถากถางมากเกินไปจนเปนการเปดเผยที่มั่น กลาวโดยยอก็คือการถากถางกระทํ าเทาที่จํ าเปนมิใหขาศึกใชซอนพราง และปองกัน แตไมมากจนท ําใหขาศึกผลักดัน หรือท ําลายที่มั่นฝายเราได ดังนั้นในการถากถางพื้นยิงจะตองคํ านึงถึงหลักการดังตอไปนี้

1-6

(ก) อยาถากถางมากจนเกินไป หรืออยาขาดความระมัดระวังจนเปนการเปดเผยที่มั่น(ข) ในพื้นที่ที่จัดไวสํ าหรับการตั้งรับประชิด ใหเร่ิมถากถางใกลแนวขอบหนาที่มั่น และ ตอไปขางหนา

อยางนอย 100 เมตร(ค) ไมวาในกรณีใด ๆ ใหเหลือฉากธรรมชาติของตนไมไวบาง ๆ เพื่อซอนพรางที่มั่น(ง) ในพื้นที่ที่เปนปาไมบาง ๆ ใหตัดกิ่งตํ่ า ๆ ของตนไมใหญที่กระจัดกระจายออก บางโอกาสก็เปนส่ิง

พึงปรารถนาที่จะตัดตนไมตาง ๆ ที่ขาศึกอาจใชเปนจุดอางอิงสํ าหรับการยิงหาหลักฐาน ออกเสีย(จ) ในปาทึบ การถากถางพื้นยิงโดยส้ินเชิงยอมเปนไปไมได และก็เปนส่ิงที่ไมพึงปรารถนาดวย, ทาน

จะตองตัดแตเฉพาะตนไมเตี้ยที่ข้ึนใตตนไมใหญ และกิ่งตํ่ า ๆ ของตนไมใหญเทานั้น กลาวอีกอยางหนึ่งก็คือ ถากถางชองยิงใหแคบ ๆ สํ าหรับอาวุธกลนั้นเอง

(ฉ) ตัดหรือทํ าหมูไมเตี้ยๆ ที่หนาทึบใหบางๆ หมูไมเตี้ยๆ ที่หนาทึบใชเปนเคร่ือง กีดขวางที่เหมาะสมและก็ไมเปนอุปสรรคตอพื้นยิงดวย

(ช) ทุงหญาคา และตนขาว ถาแกและแหงใหเกี่ยวหรือเผาเสีย ถาไมเปนการเปดเผยที่มั่น โดยธรรมดาจะกระท ําเชนนี้ไดเฉพาะเมื่อเปนที่มั่นปราณีตซึ่งไดจัดการไวกอนการปะทะกับขาศึกเทานั้น

(ซ) นํ าตนไมและกิ่งไมที่ตัดออกไปไว ณ ที่ซึ่งจะไมเปนการใหการซอนพรางแกขาศึก และ ไมเปนการเปดเผยที่มั่นฝายเราดวย

(ฌ) กอนที่จะถากถางพื้นยิง ใหประมาณอยางรอบคอบวาจะถากถางพื้นยิงไดมากนอยเพียงใดตามเวลาที่มีอยูการประมาณนี้มักเปนเคร่ืองก ําหนดลักษณะ และความมากนอยในการถากถางที่จะกระท ํา เพราะวาพื้นที่ถากถางเพียงบางสวนอาจใหการซอนเรน และการกํ าบังดีกวาพื้นที่ซึ่งอยูในสภาพธรรมชาติเดิมของมันเสียอีก

6.4.2 การทํ าลายขั้นแรกและ สนามทุนระเบิดเพื่อที่จะขัดขวางขาศึกมิใหใชเสนทางรุกที่เกื้อกูล จึงจํ าเปนตองวางสนามทุนระเบิด

และเตรียมการทํ าลายสะพานตาง ๆ และ เตรียมท ําหลุม ระเบิด ณ จุดสํ าคัญตาง ๆ ไว การทํ าลายโดยปกติจะปฏิบัติตามคํ าส่ังจาก บก.หนวยเหนือ

6.4.3 ท่ีตรวจการณ และการติดตอสื่อสารผูบังคับหนวยยุทธวิธียอมไมสามารถที่จะควบคุม หรือใชหนวยของตนไดอยางเหมาะสม ถาผูบังคับหนวยนั้นไมมีการตรวจการณอยางดีไปยังเสนทางรุกของ ขาศึก และขางหนาตน โดยธรรมดาผูบังคับหนวยยุทธวิธีมักสรางที่ตรวจการณ (ตก.) และวางสายการส่ือสาร โดยความชวยเหลือของเจาหนาที่ส่ือสาร

1-7

ตารางท่ี 1.1 การถากถางพื้นท่ียิง

พื้นท่ีเดิม กอนเร่ิมถากถางพื้นท่ียิง

พ้ืนท่ี ท่ีถากถางพ้ืนท่ียิงมากเกินไป

พ้ืนท่ี ท่ีถากถางพ้ืนท่ียิงไดเหมาะสม

1-86.4.4 การสรางท่ีตั้งอาวุธ คูท่ีมั่น และท่ีพักกํ าบัง

มักจะมีงานหนึ่งในการดัดแปลงภูมิประเทศ ที่ทหารชาง จะตองเตรียมพรอมเปนอยางดีที่จะชวยทหารราบกระทํ า คือ การสรางที่ตั้งอาวุธ ( Emplacements ) คูที่มั่น ( Intrenchments ) และที่พักกํ าบัง (Shelters)จะตองหวังไดวาทหารชางจะตองเปนผูชํ านาญในงานนี้ และโดยเหตุที่เปนงานเทคนิค ทหารราบยอมจะไมรูเร่ืองนี้มากนักและไมไดรับการฝก หรือไมมีเคร่ืองมือที่จะท ํางานบางอยางดวย ดังนั้นเราจะพิจารณางานดังกลาวนี้อยางกวางขวางในบทเรียนที่เกี่ยวกับเร่ืองนี้โดยเฉพาะ

6.4.5 การทํ าลายขั้นรอง และ เคร่ืองกีดขวางอ่ืนๆในงานแรก ๆ นั้น เราไดพิจารณาอยางกวาง ๆ ถึงการทํ าลายข้ันแรก และสนามทุน

ระเบิดมาแลว แตยังมีการทํ าลายอยางอ่ืนอีกที่มีความสํ าคัญข้ันรองและเคร่ืองกีดขวางอ่ืนๆ ซึ่งมีความสํ าคัญอยางยิ่งยวดตอที่มั่นตั้งรับ เคร่ืองกีดขวางลวดหนามปองกันบุคคลเปนสวนหนึ่งของที่มั่นตั้งรับ ซึ่งจะขาดเสียมิได และควรมีการกํ ากับดูแลทางการชางเพื่อใหการใชและการสรางเหมาะสมมีอยูบทเรียนหนึ่งในวิชานี้ที่ทานจะไดศึกษารายละเอียดในการสรางร้ัวลวดหนามแบบตางๆและทานจะไดลงมือสรางลวดกระโจมสูง 4 กาว 2 กาว ดวยตนเอง

6.4.6 เสนทางสงกํ าลังหลักเสนทางสงกํ าลังและสงกลับจะตองไดรับการปรับปรุงใหดีข้ึน นับแตเร่ิมเขายึดครอง

ภูมิประเทศนั้น จะตองบํ ารุงรักษาและปรับปรุงใหดีข้ึนเมื่อมีเวลา เสนทางสงกํ าลัง เปนความรับผิดชอบของทหารชางในการสราง ปรับปรุง และบํ ารุงรักษา

6.4.7 การพรางถึงแมวาจะมิไดกลาวไววาการพรางเปนงานหนึ่งในการดัดแปลงภูมิประเทศ ก็ตาม

แตก็เปนงานที่ควรกระทํ าพรอมกันไปกับงานอ่ืนใหตอเนื่องกันควรพยายามทุกวิถีทางที่จะเลือกที่ตั้งของงานที่จะชวยใหการพรางงายเทาที่จะท ําได โดยมิใหเปนอุปสรรคแกภาระกิจหลักของอาวุธนั้น การพิจารณาในปจจัยนี้ตั้งแตแรกมักจะชวยใหไดผลดีแกการพราง โดยประหยัดแรงงานไดมากดวยในพื้นที่ทะเลทราย หรือแหงแลง ซึ่งไมสามารถซอนพรางการปฏิบัติการทางทหารไดแลว การสรางส่ิงกอสราง ยานพาหนะ และที่ตั้งปนลวง (Dummy) ยอมมีความสํ าคัญกวาการเลือกที่ตั้งในภูมิประเทศ การนํ าความรูการพรางที่ทานไดศึกษามาใชจะชวยใหเกิดคุณคาแกงานดัดแปลงภูมิประเทศเปนอยางมาก

1-9

สรุปเราไดพิจารณาอยางกวางๆ ถึงงานในการดัดแปลงภูมิประเทศมาแลว และทํ าอยางไรจึงจะบังเกิดผล

สํ าเร็จในงานนี ้ตอไปนี้เปนหัวขอสํ าคัญบางประการที่ทานจะตองจดจํ าคือ ประการแรกจะตองกํ าหนดที่มั่นข้ันแรกข้ึนเสียกอน แลวคอยๆ ปรับปรุงใหเปนที่มั่นแข็งแรงดีข้ึนเมื่อเวลา และสถานการณอํ านวย แมวาผูบังคับหนวยยุทธวิธีนั้นจะมุงหมายใหอยูในที่มั่นนั้นเพียงสองสามชั่วโมงก็ตาม ฉะนั้นจงระลึกในขอนี้เสมอวา ถาทานถูกขอใหคํ าแนะนํ า สถานการณและสภาพที่เปล่ียนแปลงไปอาจทํ าใหตองยึดครองที่มั่นอยูเปนวันๆ หรือเดือนๆฉะนั้นการวางแผนในตอนเร่ิมตนดีอาจประหยัดกํ าลังคน และเวลาไดหลายชั่วโมง ประการที่สองที่ควรจดจํ าก็คือที่มั่นตั้งรับจะตองไดรับการปรับปรุงใหดีข้ึนเร่ือย ๆ ตราบเทาที่ยังยึดครองอยูจากปอมสนามเรงดวนเปนปอมสนามปราณีตจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ จากนั้นก็บํ ารุงรักษาเพื่อใหที่มั่นนั้นอยูในสภาพที่ไดรับการซอมแซมอยูตลอดเวลา ตารางท่ี 1.1 คน - ชั่วโมงท่ีตองใชในการถากถางพื้นท่ียิง 100 ตร.ม.

ลักษณะการถากถาง เคร่ืองมือท่ีใช คน - ชม.ท่ีใช1. การถากถางปานกลาง (ถากถางตนไม) ที่ยังไมโตและตนไมที่เสนผาศูนยกลาง เล็กกวา 12 นิ้ว

2. การถากถางขนาดเบา (ถากถางหมูไม เล็ก ๆ)

เล่ือย, ขวาน

ขวาน,มีดขอ,มีดใหญ

5

3

7. ความรับผิดชอบของทหารชางเราก็ไดเห็นแลววาทหารชางมีหนาที่ และสวนเกี่ยวของในการปรับปรุงที่มั่นตั้งรับ เราไดกลาวถึง การ

แนะนํ าเทคนิค และการกํ ากับดูแลมาแลว นอกจากนี้ยังมีหนาที่งานชางอ่ืน ๆ ที่มีความสํ าคัญพอพอกัน ดังตอไปนี้

7.1 อุปกรณ และเคร่ืองมือพิเศษ (Special Equipment) ทหารชางมีเคร่ืองมือพิเศษและอุปกรณตางๆ ซึ่งบางทีมักมีคุณคาโดยเฉพาะ และประหยัดเวลาและแรงงานไดเปนอันมาก ตัวอยางของส่ิงเหลานี้ไดแกรถถากถาง,เล่ือยยนต และเคร่ืองมือชางไม ซึ่งผูบังคับหนวยยุทธวิธีอาจทราบ หรืออาจไมทราบก็ไดวามีอยู ดังนั้นงานสวนหนึ่งของหนวยคือทานจะตองทราบอยูเสมอวาหนวยของทานมีเคร่ืองมืออะไรอยูบางพอที่จะสนับสนุนหนวยเหนือ หรือหนวยที่ทานใหการสนับสนุนไดบาง โดยการติดตอประสานกับนายทหารยานยนตอยางใกลชิด และควรมียอดอัตรารถที่ใชไดและใชไมไดอยูในมือเสมอ เพื่อชี้แจงให ผบ.หนวยทราบโดยทันที

1-10

7.2 การสงกํ าลัง และควบคุมสิ่งอุปกรณสายชาง (Supply and control) วัสดุที่ใชในงานปอมสนามสวนมากเปนส่ิงอุปกรณสายชาง ดังนั้นทานจะตองใหคํ าแนะนํ า แกผูบังคับหนวยยุทธวิธีและจัดหาวัสดุเหลานั้น และใหพรอมใชอยูเสมอ เมื่อจ ําเปนตองใชอาจมีไมที่เล่ือยทอนไวแลว สํ าหรับสรางที่ตั้งอาวุธ และที่พักก ําบังในตํ าบลสงกํ าลังสายชาง ซึ่งทานสามารถที่จะชวย ผูบังคับหนวยยุทธวิธีในการสรางปอมสนาม ทานจะตองเปนผูใหคํ าแนะนํ าแกผูบังคับหนวยยุทธวิธ ี ในเร่ืองที่เกี่ยวกับการสงกํ าลังบํ ารุง วัสดุเคร่ืองกีดขวางลวดหนาม และอ่ืน ๆ และในเร่ืองเวลาที่ตองใชในการสรางเคร่ืองกีดขวางตางๆ ดวยผูบังคับหนวยทหารชางที่กระฉับกระเฉง และตื่นตัวจะมีคุณคาอยางมากแกผูบังคับหนวยยุทธวิธีที่ตนสนับสนุน และจะกอใหเกิดความเชื่อมั่น และความนับถือแกเจาหนาที่ทุกคนภายในหนวยนั้นหรือกลาวอีกอยางหนึ่งวา ถาทหารชางไมกระฉับกระเฉง และคอยใหความชวยเหลืออยูเสมอแลว ทหารชางเหลานั้นอาจจะไมไดนั่งอยูอยางนั้นแตจะตองไปทํ าการรบในแนวหนาอยางทหารราบ

7.3 โครงการงานพิเศษ (Special plan) มีบางโอกาสที่ทหารชางอาจตองทํ างานสวนใหญดวยการลงมือสรางที่มั่นใหแข็งแรงเอง ถาเปนการวางแผนในการรนถอยเพื่อปรับปรุงหรือยึดครองที่มั่นที่แข็งแรงกวา ทหารชางอาจตองเตรียมที่มั่นไวใหแกทหารราบที่ถอยมา นอกจากการสรางถนน และสะพานโดยปกติแลวยังมีความรับผิดชอบทางการชางอยางอ่ืนทํ านองเดียวกันนี้ ที่ทานอาจตองพบซึ่งเกิดข้ึนเสมอในการปฏิบัติการทางทหาร

7.4 การแนะนํ า และการก ํากับดูแล (Suggest and control) ทานยอมรับผิดชอบในการใหคํ าแนะนํ าผูบังคับหนวยยุทธวิธ ีเกี่ยวกับงานซึ่งทานเกี่ยวของโดยตรง

ทานจะตองกํ ากับดูแลการสรางปอมสนาม และในบางกรณีทานอาจตองฝกคนในหนวยที่ทานสนับสนุนดวย

8. การปรับปรุงใหกาวหนาจากการที่เราไดศึกษากันมาทั้งหมดเราไดพูดกันถึงเร่ืองการดัดแปลงภูมิประเทศนั้น เราไดกลาว

กวางๆ ถึงการปรับปรุงที่มั่นใหแข็งแรงจากข้ันเร่ิมตนหรือเรงดวนไปสูข้ันสุดทาย หรือประณีต ถาที่มั่นนั้นถูกยึดครองเปนเวลาหลายวันมีขอคิดอยูบางประการเกี่ยวกับการยึดครองซึ่งควรศึกษาใหละเอียดอีกเล็กนอย จงจํ าไววาเมื่อยึดครองที่มั่นในตอนแรกนั้น ควรจะไดจัดการใหการตั้งรับดีที่สุดเทาที่สามารถทํ าได แมวาการยึดครองนั้นจะมีเวลาวางแผนเพียงสองสามชั่วโมงก็ตาม "การขุดลงไปในดิน (Digging in) " จะตองเร่ิมตนโดยทันทีเทาที่สามารถทํ าได และที่ตั้งอาวุธควรจะเปนแบบ มาตรฐานการกระท ําดังนี้มีเหตุผลดี คือสมมุติวาแทนที่ทานจะอยูในที่มั่นตอไปอีกสองสามวัน หรือบางที่อาจเปนสัปดาห ๆ ถาภูมิประเทศไดรับการดัดแปลงอยางเหมาะสม และที่ตั้งอาวุธถูกแบบมาตรฐานแลว ก็เหลือแตเพียงงานที่จะดํ าเนินตอไปเพื่อใหที่ตั้งอาวุธ และหลุมบุคคลเสร็จบริบูรณเทานั้น จากนั้นควรเร่ิมสรางคูติดตอ และส่ือสาร การกรุลาด การปรับปรุงอ่ืน ๆ ทั่วไปก็คงดํ าเนินตอไปเทาที่ยังยึดครองที่มั่นนั้นอยูตอไปก็ปรับปรุงที่มั่นตั้งรับ โดยสรางที่กํ าบังเหนือศีรษะแกบางสวนของระบบคู (Trench system) เปนอันวาการสรางที่มั่นตั้งรับไดถึงที่สุดแลว ตอไปก็เปนการบํ ารุงรักษาและปรับปรุงเล็ก ๆ นอยตลอดที่มั่นทั้งส้ิน