ใบเนื้อหาหน่วยที่ 2 หน่วยที่ 2 ... · 2020-02-18 · 1 ใบเนื้อหาหน่วยที่ 2 หน่วยที่

1

ใบเนื้อหาหน่วยที่ 2 หน่วยที่ 2

รหัสวิชา 2001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ สอนครั้งที่ 2-3

ชื่อหน่วย ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ จ านวน 6 ชั่วโมง

สาระส าคัญ ระบบปฏิบัติการ เป็นระบบโปรแกรมที่ผู้พัฒนามีจุดประสงค์สร้างขึ้นมาเพ่ือใช้ควบคุมการ

ท างานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟต์แวร์ (Software) ประเภทต่างๆ ให้สามารถท างานร่วมกันกับบุคลากร (Peopleware) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ทั้งทางตรงและทางอ้อมได้อย่างราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการที่ดียังมีหน้าที่ควบคุมการท างานให้ผู้ใช้สามารถท างานหลายงาน (Multitasking) หรือหลายคน (Multi-user) ได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ส่งกระทบกับการท างานของบุคคลอ่ืน รวมไปถึงการควบคุม (Control) การใช้งาน การให้สิทธิการเข้าถึงไฟล์ข้อมูล (Access File) การรักษาความปลอดภัย (Security) การป้องกันการรุกราน (Protection) จากผู้ไม่หวังดีเข้ามาใช้งานระบบได้ โปรแกรมระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เช่น วินโดวส์รุ่นต่าง ๆ ระบบปฏิบัติการแมคโอเอส ระบบปฏิบัติการที่ผู้เขียนเปิดเผยรายละเอียดของชุดค าสั่ง เช่น ลินุกซ์ เป็นต้น

โปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 เป็นโปรแกรมระบบปฏิบัติการที่ช่วยให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถท างานบนฮาร์ดแวร์ต่างชนิดกันได้ โดยสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ยังมีความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ภายในเครื่องและอุปกรณ์รอบข้างต่างxๆxได้เป็นอย่างดีxการจัดการกับแฟ้มข้อมูลและโฟลเดอร์ เพ่ือจัดการกับข้อมูลที่มีการจัดเก็บอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นระบบ ง่ายต่อการค้นหาและใช้งาน ตลอดจนการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ให้พร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดประสงค์การเรียนการสอน จุดประสงค์ทั่วไป

1. เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 2. เพ่ือให้ประยุกต์ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 3. เพ่ือให้มีกิจนิสัยในการท างานด้วยความรับผิดชอบ รอบคอบ และปลอดภัย

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ไดอ้ย่างถูกต้อง 2. อธิบายวิธีการเรียกใช้งานโปรแกรมในวินโดวส์ 7 ได้อย่างถูกต้อง 3. อธิบายส่วนประกอบของหน้าจอของวินโดวส์ 7 ไดอ้ย่างถูกต้อง 4. อธิบายระบบไฟล์และโฟลเดอร์ในวินโดวส์ 7 ไดอ้ย่างถูกต้อง 5. อธิบายการใช้โปรแกรมวินโดวส์เอ็กพลอเลอร์ไดอ้ย่างถูกต้อง 6. อธิบายการใช้โปรแกรมดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ด้วยวินโดวส์ 7 ไดอ้ย่างถูกต้อง

2




7. อธิบายการออกจากโปรแกรมวินโดวส์ 7 ได้อย่างถูกต้อง

สมรรถนะประจ าหน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 2. ปฏิบัติการใช้โปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 3. ประยุกต์ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7

เนื้อหาสาระหน่วยที่ 2 2. ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

2.1. ความหมายของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 2.1.1 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) 2.1.2 ระบบปฏิบัติการแมคโอเอส ( Mac OS ) 2.1.3 ระบบปฏิบัติการที่ผู้เขียนเปิดเผยรายละเอียดของชุดค าสั่ง (Open Source)

2.2. ประเภทของระบบปฏิบัติการ 2.2.1 แบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งาน (Divided by Objective) 2.2.2 การแบ่งตามลักษณะการใช้งาน (Divided by Used)

2.3. ระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 2.3.1. เริ่มต้นใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 2.3.2. ส่วนประกอบในหน้าจอของวินโดวส์7 (Desktop)

2.4. ระบบไฟล์และโฟลเดอร์ของวินโดวส์ 7 2.4.1. แฟ้ม (File) 2.4.2. โฟลเดอร์ (Folders)

2.5. การใช้งานวินโดวส์เอ็กพลอเลอร์ 2.5.1. การเข้าสู่วินโดวส์เอ็กซ์พลอเลอร์ มีข้ันตอนดังนี้ 2.5.2. ส่วนประกอบของ วินโดวส์เอ็กซ์พลอเลอร์ 2.5.3. การสร้างโฟลเดอร์ 2.5.4. การเปลี่ยนชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ 2.5.5. คัดลอกไฟล์และโฟลเดอร์ 2.5.6. การย้ายไฟล์และโฟลเดอร์ 2.5.7. การลบไฟล์หรือโฟลเดอร์

2.6. การจดัการไฟล์และโฟลเดอร์ 2.7. การสร้าง Shortcut

3




2.8. การใช้โปรแกรมดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ 2.8.1. โปรแกรมจัดเรียงข้อมูล (Disk Defragmenter) 2.8.2. โปรแกรมตรวจสอบดิสก์ (Scandisk) 2.8.3. โปรแกรมท าความสะอาดสื่อบันทึกข้อมูล (Disk Cleanup)

2.9. การติดตั้งฟ้อนท ์ 2.10. การติดตั้งเครื่องพิมพ์ 2.11. การออกจากโปรแกรมวินโดวส์ 7

4




ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 2.1 ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ เป็นระบบโปรแกรมที่ผู้พัฒนามีจุดประสงค์สร้างขึ้นมาเพ่ือใช้ควบคุมการท างานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟต์แวร์ (Software) ประเภทต่างๆ ให้สามารถท างานร่วมกันกับบุคลากร (Peopleware) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ทั้งทางตรงและทางอ้อมได้อย่างราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการที่ดียังมีหน้าที่ควบคุมการท างานให้ผู้ใช้สามารถท างานหลายงาน (Multitasking) หรือหลายคน (Multi-user) ได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ส่งกระทบกับการท างานของบุคคลอ่ืน รวมไปถึงการควบคุม (Control) การใช้งานให้สิทธิการเข้าถึงไฟล์ข้อมูล (Access File) การรักษาความปลอดภัย (Security) การป้องกันการรุกราน (Protection) จากผู้ไม่หวังดีเข้ามาใช้งานระบบได้ ดังภาพที่ 2.1

ภาพที่ 2.1 แสดงส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการ (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

โปรแกรมระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เช่น วินโดวส์รุ่นต่าง ๆ ระบบปฏิบัติการแมคโอเอส ระบบปฏิบัติการที่ผู้เขียนเปิดเผยรายละเอียดของชุดค าสั่ง เช่น ลินุกซ์ เป็นต้น

2.1.1 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เป็นระบบปฏิบัติการที่รู้จักกันดี ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท

ไมโครซอฟท์ ได้ออกรุ่นต่าง ๆ ต่อเนื่องกันมาหลายปี โดยแบ่งออกเป็น 2 พวก ดังนี้ 2.1.1.1 ส าหรับใช้ตามบ้านทั่ว ๆ ไป ได้แก่, วินโดวส์ เอกซ์พี (Windows XP), วินโดวส์

เซเว่น(Windows 7) 2.1.1.2 ตัวแม่ข่าย เช่น วินโดวส์ 2003 (Windows2003), วินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ (Windows

Server) ส าหรับใช้งานธุรกิจที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ และใช้งานทั่วไป มีการรวบรวมข้อดีของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ทั้งสองตระกูลเข้าด้วยกัน ใช้ส าหรับเครื่อง

ที่ต้องมีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ สามารถสั่งควบคุมด้วยการรีโมทเครื่องได้ และมีระบบ

ฮาร์ดแวร์ Hardware

พีเพิลแวร์ People ware

ซอฟตแ์วร์ Software

ระบบปฏิบัติการ (Operating System)

5




รักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดนอกจากนี้ยังสามารถส ารองข้อมูลต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นระบบวินโดวส์ที่ประสบความส าเร็จค่อนข้างสูง ดังภาพที่ 2.2

ภาพที่ 2.2 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์

(ที่มา : https://www.csdtechnology.com/single-post/ 2017/05/01/Timeline---Windows-through-the-ages)

2.1.2 ระบบปฏิบัติการแมคโอเอส (Mac OS) ระบบปฏิบัติการแมคโอเอส เป็นระบบปฏิบัติการที่เหมาะส าหรับงานเกี่ยวกับการออกแบบทางกราฟิก เนื่องจากสามารถตอบสนองและท างานได้ดีกับลักษณะของกราฟิกที่มีความซับซ้อน แมคโอเอส เป็นระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช (Macintosh) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Apple ดังภาพที่ 2.3

ภาพที่ 2.3 ระบบปฏิบัติการแมคโอเอส (ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/File:MacOS_original_logo.svg)

2.1.3 ระบบปฏิบัติการที่ผู้เขียนเปิดเผยรายละเอียดของชุดค าสั่ง (Open Source) เป็นระบบปฏิบัติการที่ผู้เขียนเปิดเผยรายละเอียดของชุดค าสั่ง ผู้ใช้สามารถสร้างต่อแล้วแจกจ่ายได้ตามต้องการ โดยสามารถคัดลอก แก้ไขสร้างใหม่ให้ดีขึ้นได้อย่างเสรี เป็นระบบปฏิบัติการเหมือนกับวินโดวส์

6




แต่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ สามารถนามาติดตั้งลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ได้โดยไม่ผิดกฎหมายเช่น ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ซิส (LinuxSIS) , เรดแฮต (Red hat), อูบุนตู(Ubuntu) เป็นต้น ดังภาพที่ 2.4

ภาพที่ 2.4 ระบบปฏิบัติการลินุกซ์อูบุนตู (ที่มา : https://www.xda-developers.com/xda-external-link/

lazyflasher-is-an-alternative-to-the-anykernel2-project/) 2.2 ประเภทของระบบปฏิบัติการ

2.2.1 แบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งาน (Divided by Objective) 2.2.1.1 การใช้งานโดยล าพัง (Stand-alone) เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย

วัตถุประสงค์เพ่ือใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่รู้จักกันในรูปแบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลx(PersonalxComputerx:xPC)xหรือเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) ที่ท างานโดยไม่มีการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอ่ืน เช่น MS-DOS, Linux, Mac OS, และวินโดวส์ รุ่นต่างๆ

2.2.1.2 การใช้งานโดยมีการเชื่อมโยง (NetworkxConnection) เป็นระบบ ปฏิบัติการ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยวัตถุประสงค์เพ่ือใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทีการเชื่องโยงกันตั้งแต่หนึ่งเครื่องขึ้นไป โดยมีการใช้ทรัพยากรร่วมกับบนระบบเครือข่ายแม่/ผู้ให้บริการ (Server) และเครือข่ายลูก/ผู้รับบริการ (Client) เช่น Novell Netware, Linux, UNIX, Windows Server และ Solaris เป็นต้น

2.2.1.3 การใช้งานแบบฝังตัว (Embedded) เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยถูกจัดเก็บไว้ในหน่วยความจ าแบบถาวร (Read Only Memory: ROM)xโดยส่วนใหญ่จะพบได้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาxเช่นxWindowsxCE,xWindows Mobile, Pocket PC’s OS, Android, Blackberry OS เป็นต้น

2.2.2 การแบ่งตามลักษณะการใช้งาน (Divided by Used) 2.2.2.1 การใช้งานโดยคนเดียว (SinglexUser) เป็นระบบปฏิบัติการ ที่การ ใช้งานใน

ช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง จะมีผู้ใช้งานเพียงหนึ่งคนเท่านั้น แต่ผู้ใช้งานสามารถที่จะท างานหลายอย่างได้

7




ในเวลาเดียวกันหรือเปิดใช้งานพร้อมกันหลายโปรแกรมได้ เช่น Linux,xMacxOSxและ Windows 95 ขึ้นไป เป็นต้น

2.2.2.2 การใช้งานได้หลายคน (Multi User) เป็นระบบปฏิบัติการที่การใช้งานในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง จะมีผู้ใช้งานได้มากกว่าหนึ่งคนในเวลาเดียวกัน เช่น Novell Netware, Linux, UNIX, Windows Server และ Solaris เป็นต้น

2.2.2.3 การใช้ งาน เดี ยว (SinglexTasking) เป็นระบบปฏิบัติ การที่ ก าหนดให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลการท างานของโปรแกรมได้ที่ละหนึ่งงานเท่านั้น โดยลักษณะการท างานจะเป็นการสั่งให้คอมพิวเตอร์ท างานภายใต้เครื่องหมายค าสั่ง (CommandxLine) ที่ละค าสั่งจนเสร็จ ซึ่งในปัจจุบันผู้ใช้ไม่นิยมใช้ระบบปฏิบัติการประเภทนี้แล้ว เช่น DOS เป็นต้น

2.2.2.4 การใช้งานพร้อมกันได้หลายงานx(MultixTasking)xเป็นระบบ ปฏิบัติการที่ก าหนดให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลการท างานของโปรแกรมได้ที่ละหลายงานพร้อมกัน โดยลักษณะการท างานจะเป็นการสั่งให้คอมพิวเตอร์ท างานมากกว่าหนึ่งงานในเวลาเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันระบบปฏิบัติส่วนจะเป็นการท างานในลักษณะนี้แทบทุกระบบปฏิบัติการ

2.3 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7

โปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟท์มีลักษณะเป็น GUI (Graphic User Interface) ที่น าเอารูปแบบของสัญลักษณ์ภาพกราฟิกเข้ามาแทนการป้อนค าสั่งทีละบรรทัด โดยใช้หลักการแบ่งงานเป็นส่วน ๆ เรียกว่า หน้าต่าง (windows) ที่แสดงผลลัพธ์แต่ละโปรแกรม และช่วยให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถท างานบนฮาร์ดแวร์ต่างชนิดกันได้ โดยสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ภายในเครื่องและอุปกรณ์รอบข้างต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี การจัดการกับแฟ้มข้อมูลและโฟลเดอร์ เพ่ือจัดการกับข้อมูลที่มีการจัดเก็บอยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหลากหลายประเภท ดังนั้นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นระบบ จึงต้องมีการจัดเก็บให้ง่ายต่อการค้นหาและใช้งาน

2.3.1 เริ่มต้นใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 การเริ่มต้นใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส7์ เริ่มจากการเปิดโปรแกรม มีข้ันตอนดังนี้

1. กดปุ่ม Power ของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเปิดใช้งานวินโดวส ์7 2. คลิก User Account ที่ต้องการใช้งาน และป้อน Password 3. กด Enter จะปรากฏหน้าต่างวินโดวส ์7 พร้อมใช้งาน ดังภาพที่ 2.5

8




ภาพที่ 2.5 แสดงเดสก์ทอประบบปฏิบัติการWindows7 (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.3.2 ส่วนประกอบในหน้าจอของวินโดวส์7 (Desktop)

เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา จะพบกับหน้าจอซึ่งเรียกว่า เดสก์ทอป (Desktop) โดยจะเป็นศูนย์กลางในการท างานของโปรแกรมต่างๆ เป็นที่วางสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ข้อมูล โปรแกรมส าหรับใช้งาน และสิ่งตกแต่งอ่ืนๆ ดังภาพที ่2.6

ภาพที่ 2.6 แสดงส่วนประกอบของระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

3. หน้าจอ

2. ไอคอนโปรแกรมที่ปักหมุด

4. ไอคอนหน้าจอ

1. ปุ่ม start

6. Gadgets

5. Task Bar

9




จากภาพที่ 2.6 ส่วนประกอบในหน้าจอของวินโดวส์7 (Desktop) ดังนี้

1. ปุ่ม start เป็นปุ่มเริ่มต้นการท างาน โดยการเรียกใช้โปรแกรม ค าสั่ง และโฟลเดอร์ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบไปด้วยเมนูหลัก ดังภาพที่ 2.7

ภาพที่ 2.7 แสดงส่วนประกอบของปุ่ม start (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

จากภาพที่ 2.7 แบ่งส่วนประกอบของปุ่ม start ได้ ดังนี้ 1.1 หน้าต่างด้านซ้าย ประกอบไปด้วยไอคอนที่ใช้งานล่าสุด และ มีปุ่ม All

Programs เพ่ือเรียกดูโปรแกรมต่าง ๆ ได้ 1.2 หน้าต่างด้านขวา ประกอบไปด้วยรูปภาพผู้ใช้งาน ชื่อผู้ใช้งาน เมนูหลักท่ีใช้

จัดการกับระบบปฏิบัติการวินโดวส7์ เช่น Computer, Control Panel, Default Programs เป็นต้น โฟลเดอร์หลัก เช่น Document, Picture, Music เป็นต้น และมีปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการวินโดวส7์

1.3 ช่องค้นหา เพ่ือค้นหาเร่งด่วน สามารถใช้ค้นหาไฟล์ โฟลเดอร์ รูปภาพที่ต้องการได้ทันที

2. ไอคอนโปรแกรมท่ีปักหมุด เป็นไอคอนที่เรียกใช้งานบ่อย ๆ มีการก าหนดโดยการปักหมุดไว้บนแถบแสดงงาน ท าให้ง่ายต่อการเปิดใช้งาน ลดขั้นตอนในการเปิดใช้งานจาก ปุ่ม start

3. หน้าจอ เป็นพื้นที่ท างาน แสดงผลโปรแกรม วางไอคอน โฟลเดอร์ รูปภาพ และเอกสารต่าง ๆ

4. ไอคอนหน้าจอ เป็นรูปสัญลักษณ์แทนโปรแกรม โฟลเดอร์ ไฟล์ต่าง ๆ 5. Task Bar แสดงผลงานที่ก าลังด าเนินการอยู่ในขณะนั้นว่ามีเอกสารหรือโปรแกรม

อะไรที่ก าลังใช้งานอยู่บ้าง

1.1 หน้าต่างด้านซ้าย

1.3 ช่องค้นหา

1.2 หน้าต่างด้านขวา

10




6. Gadgets เป็นโปรแกรมตกแต่งหน้าจอวินโดวส์ 7 เพ่ือการใช้งานที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม เช่น นาฬิกา ปฏิทิน การวัดความเร็ว CPU เป็นต้น

2.4 ระบบไฟล์และโฟลเดอร์ของวินโดวส์ 7

ข้อมูลที่จัดเก็บนั้น มีหลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น รูปภาพ เอกสาร วิดีโอ หรือเพลง เป็นต้น เพ่ือความเป็นระเบียบเรียบร้อยข้อมูลจะถูกจัดเก็บเป็นแฟ้มข้อมูล และกลุ่มของแฟ้มข้อมูล ในการท างานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ จะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ลงในสื่อบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจ าแฟลช เป็นต้น เพ่ือเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ใช้งานต่อไป อาจเปรียบแฟ้มข้อมูลเป็นเสมือนแฟ้มเอกสาร และเปรียบกลุ่มของแฟ้มข้อมูลเป็นเสมือนตู้เก็บแฟ้มเอกสาร โดยใน 1 กลุ่มของแฟ้มข้อมูลจะมีแฟ้มข้อมูลได้หลาย ๆ แฟ้ม และในแต่ละกลุ่มของแฟ้มข้อมูลสามารถมีกลุ่มของแฟ้มข้อมูลย่อย ๆ ได้ ในการจัดเก็บข้อมูลในโปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ระดับ ดังนี้

2.4.1 แฟ้ม (File) หมายถึง แฟ้มข้อมูลที่ใช้เก็บสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอกสารตัวอักษร ข้อมูลรูปภาพ ข้อมูลตาราง ข้อมูลเพลง ข้อมูลภาพยนตร์ หรือโปรแกรม ซึ่งแต่ละแฟ้มข้อมูลจะมีรูปสัญลักษณ์ประจ าตัว พร้อมทั้งชื่อก ากับ

2.4.2 โฟลเดอร์ (Folders) หมายถึง กลุ่มของแฟ้มข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน และถูกจัดรวมเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อความสะดวกในการค้นหาและใช้งาน กลุ่มของแฟ้มข้อมูลแต่ละกลุ่มสามารถมีกลุ่มของแฟ้มข้อมูลย่อย ลงไปได้อีกหลาย ๆ ชั้น

หลักเกณฑ์ในการตั้งชื่อแฟ้มข้อมูลและโฟลเดอร์ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ มีหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

2.4.2.1 สามารถตั้งชื่อให้มีความยาวได้สูงสุดไม่เกิน 255 ตัวอักษร 2.4.2.2 สามารถก าหนดให้มีช่องว่าง (Spacebar) ได ้2.4.2.3 สัญลักษณ์ท่ีไม่สามารถน ามาตั้งชื่อได้ คือ \ / : * ? “ < > |

2.5 การใช้งานวินโดวส์เอ็กพลอเลอร์ วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์ เป็นส่วนประกอบที่มีให้อยู่แล้วเมื่อติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ลง

ไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นส่วนประกอบที่ใช้จัดการแฟ้มข้อมูล และโฟลเดอร์ ซึ่งให้มีการจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเพ่ือให้สามารถค้นหาและเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์ สามารถเรียกดูแฟ้มข้อมูลทั้งหมดได้ในหน้าต่างเดียว ทางด้านซ้าย จะประกอบด้วยชื่อแหล่งเก็บข้อมูล (Drive) และโฟลเดอร์ที่มีอยู่ ส าหรับทางด้านขวาจะแสดงเนื้อหาของโฟลเดอร์ที่เรียกใช้งาน วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์ จะแสดงแฟ้มข้อมูลและโฟลเดอร์ทั้งหมดเป็นล าดับชั้นเหมือนแผนภูมิต้นไม้ ท าให้เข้าถึงข้อมูลในส่วนต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว

11




2.5.1 การเข้าสู่วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์ มีข้ันตอนดังนี้ 1. คลิกปุ่ม Start (บน Task bar) 2. คลิกเลือก Computer 3. ปรากฏหน้าต่างวินโดวส์เอ็กพลอเลอร์จากนั้นดับเบิ้ลคลิกท่ีไดรฟ์หรือโฟลเดอร์

ดังภาพที่ 2.8

ภาพที่ 2.8 แสดงการเรียกข้อมูลในไดรฟ์หรือโฟลเดอร์

(ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.5.2 ส่วนประกอบของ วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์ ส่วนประกอบของ วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์ ที่มากับวินโดวส์ 7 จะมีส่วนประกอบต่างๆ

ดังภาพที่ 2.9

ภาพที่ 2.9 แสดงส่วนประกอบของ วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์


2. คลิก Computer

1. คลิกปุ่ม Start

3. คลิก Drive ท่ีต้องการ

2. Address 3. Search Computer

6. Libraries

7. Computer

4. แถบเครื่องมือ

8. ไดรว์ต่างๆ

9. ไดรว์ส าหรับเก็บไฟล์ที่ส าคัญ

10. Detail Pane

1. ปุ่มควบคุมหน้าจอ

5. ไอคอน Favorite

12




จากภาพที่ 2.9 แบ่งส่วนประกอบของ วินโดวส์ เอ็กซ์พลอเลอร์ มีรายละเอียด ดังนี้ 1. ปุ่มควบคุมหน้าจอ มีปุ่มย่อขนาด ขยายขนาดและปิดหน้าจอโปรแกรม 2. Address แสดงให้รู้ว่าขณะนั้น เราอยู่ต าแหน่งใด ในพ้ืนที่เก็บข้อมูลในเครื่อง สามารถ

คลิกเพ่ือเลือกต าแหน่งเก็บไฟล์ที่ต้องการได้เลย 3. Search Computer ส าหรับค้นหาไฟล์ใดๆ ในเครื่อง โดยพิมพ์ชื่อลงไป แล้วคลิกรูป

แว่นขยาย 4. แถบเครื่องมือ แสดงค าสั่งต่างๆ ดังนี้

4.1 Organnize รวมค าสั่งจัดการกับไฟล์ ค าสั่งปรับแต่งโปรแกรม Windows Explorer

4.2 System Properties ดูรายละเอียดของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ ดูเสป็คเครื่อง แรม ความเร็วซีพียู รุ่นของวินโดวส์ ที่ติดตั้งในเครื่อง

4.3 Uninstall or change a program ค าสั่งส าหรับการถอดหรือลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการอกจากเครื่องหรือแก้ไขส่วนประกอบของโปรแกรมในเครื่อง

4.4 Map Network Drive กรณีใช้คอมพิวเตอร์ เชื่อมต่อเป็นระบบเครือข่าย ก็สามารถเลือกโฟลเดอร์ใดๆ ที่มีการเข้าใช้ข้อมูลร่วมกัน จับคู่ไว้กับคอมพิวเตอร์ เพ่ือความ สะดวกในการเรียกใช้

4.5 Open Control Panel เรียกใช้งานกลุ่มโปรแกรมปรับแต่งระบบของวินโดวส์ 7 5. ไอคอน Favorites รวมพ้ืนที่เก็บข้อมูลหรือต าแหน่งเก็บไฟล์ที่ต้องใช้บ่อยๆ เช่น

Desktop, Download โดยสามารถเพ่ิมต าแหน่งเก็บไฟล์ที่จ าเป็นใช้บ่อยๆ มาไว้ใน Favorites นี้ได้ 6. Library เป็นรูปแบบการบริหารจัดการไฟล์แบบใหม่ในวินโดวส์ 7 โดยจัดเก็บไฟล์ด้วย

การสร้างไลบรารีแยกเก็บข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่ เพ่ือความง่ายในการค้นหา เก็บ ข้อมูลประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน

7. Computer เป็นไอคอนแสดงอุปกรณ์ที่เป็นสื่อเก็บข้อมูลเช่น ฮาร์ดดิสก์ในเครื่อง ซีดีรอมไดรว ์หรือแฟลชไดรว์ที่ได้เชื่อมต่อไว้

8. ไดรว์ต่างๆ ส าหรับเก็บไฟล์ในคอมพิวเตอร์จะมีสองแบบ คือไดรว์ที่ติดตั้งถาวรหรือฮาร์ดดิสก์จากตัวอย่างจะเป็นไดรว์ C: และ D: และไดรว์ที่สามารถถอดออกได้ เช่น แฟลชไดรว์ CF Card โปรแกรมจะแยกสื่อเก็บข้อมูลทั้งสองแบบนี้ออกจากกันให้ดูเข้าใจง่าย

9. ไดรว์ส าหรับเก็บไฟล์ที่ส าคัญ ที่ต้องท าความรู้จักก็คือไดรว์ C: ไฟล์ต่างๆ ของวินโดวส์ 7 และไฟล์ข้อมูลที่เราได้สร้างขึ้นมา ไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตหรือไฟล์ที่ เกิดจากการท างานของเจ้าของเครื่อง จะถูกเก็บไว้ในไดรว์นี้ (ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยเจ้าของเครื่อง)

13




10. Detail Pane เป็นส่วนแสดงรายละเอียดของไดรว์ หรือไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ถูกคลิกเลือกในขณะนั้น เช่นตอนนี้ได้คลิกท่ีไดรว์ C: (เป็นแถบสี) ก็จะแสดงข้อมูลในไดรว์ C: แสดงขนาดความจุฮาร์ดดิสก์ ระบบไฟล์ พ้ืนที่ว่าง พ้ืนที่ทั้งหมด เป็นต้น

2.5.3 การสร้างโฟลเดอร์ เพ่ือเก็บไฟล์หลาย ๆ ไฟล์ที่อยู่ในประเภทเดียวกัน เพ่ือให้ง่ายต่อการค้นหาและเรียกใช้งาน ซึ่งการสร้างโฟลเดอร์บนวินโดวส์ 7 นั้นมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกปุ่ม Start เลือก Computer 2. ดับเบ้ิลคลิกท่ี Dive (D:) 3. คลิกขวาที่พ้ืนที่ว่างใน Drive (D:) เลือก New 4. คลิก Folder ดังภาพที่ 2.10

ภาพที่ 2.10 แสดงการสร้างโฟลเดอร์ระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.5.4 การเปลี่ยนชื่อไฟล์และโฟลเดอร์

การเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์และไฟล์ โฟลเดอร์หรือไฟล์ที่ได้สร้างขึ้นมานั้น สามารถเปลี่ยนหรือ แก้ไขชื่อได้ แต่ก็จะท าได้ก็ต่อเมื่อไฟล์นั้นไม่ได้เปิดใช้งานอยู่ มีข้ันตอนดังนี้

1. คลิกขวาทีโ่ฟลเดอร์ที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ (ปรากฏเมนูป๊อบอัพ) 2. คลิก เมนู rename (ปรากฏชื่อโฟลเดอร์เก่าถูกคลุมด า) 3. ป้อนชื่อใหม่ที่ต้องการเปลี่ยน และคลิกพ้ืนที่ว่างบนหน้าจอ (ปรากฏชื่อใหม่จะมา

แทนที่ชื่อเก่าทันที) ดังภาพที่ 2.11



4. คลิก New 5. คลิก Folder

3. คลิก Drive (D:)

14




ภาพที่ 2.11 แสดงการเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์

(ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.5.5 คัดลอกไฟล์และโฟลเดอร์ การคัดลอกไฟล์หรือโฟลเดอร์จากที่หนึ่งไปวางอีกที่หนึ่งได้ ซึ่งจะท าให้ไฟล์หรือโฟลเดอร์

นั้นมีจ านวนเพิ่มขึ้นในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ส าหรับวิธีการนั้นท าได้ดังนี้ 1. คลิกขวาโฟลเดอร์ที่ต้องการคัดลอก (ปรากฏเมนูป๊อบอัพ) 2. คลิก copy 3. คลิกขวาที่พ้ืนที่ว่าง (ปรากฏเมนูป๊อบอัพ) 4. คลิก Paste ดังภาพที่ 2.12

ภาพที่ 2.12 แสดงการการคัดลอกโฟลเดอร์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

3. คลิกป้อนชื่อ folder ที่ต้องการ

2. คลิก Rename

1. คลิกขวาที่ folder ที่สร้างใหม่

3. คลิกขวาที่พื้นที่ว่าง

2. คลิก Copy

4. คลิก Paste

1. คลิกขวา Folder ที่ต้องการคัดลอก

Folder ที่ได้

15




2.5.6 การย้ายไฟล์และโฟลเดอร์ การย้ายไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้น จะเป็นการน าไฟล์ที่เลือกไปจัดเก็บไว้ในหน่วยความจ า

เสียก่อน แล้ว จึงน าไปวางไว้ในบริเวณใหม่ที่ต้องการ ดังนี้ 1. คลิกขวาโฟลเดอร์ที่ต้องการย้าย 2. คลิก Cut 4. เลือกที่จัดเก็บ 5. คลิกขวาเลือก Paste ดังภาพที่ 2.13

ภาพที่ 2.13 แสดงการย้ายไฟล์และโฟลเดอร์


2.5.7 การลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ เมื่อมีไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ไม่ได้ใช้งาน มีความจ าเป็นต้องลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ สามารถ

ท าได้ดังนี ้1. คลิกขวาโฟลเดอร์ที่ต้องการลบ (ปรากฏเมนูป๊อบอัพ) 2. คลิก Delete 3. คลิก Yes (โฟลเดอร์จะถูกลบออก) ดังภาพที่ 2.14

3. คลิกป้อนต าแหน่งที่วางใหม่

2. คลิก Cut

1. คลิกขวาที่ folder ที่ต้องการย้าย


4. คลิกขวาที่ว่างเพื่อวาง folder

16




ภาพที่ 2.14 แสดงการการลบโฟลเดอร์

(ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560) 2.6 การจัดการไฟล์และโฟลเดอร์

การจัดการการแสดงผลของไฟล์และโฟลเดอร์นั้น สามารถก าหนดให้แสดงในรูปแบบที่ต้องการ เพ่ือสะดวกต่อการท างานกับคอมพิวเตอร์ เช่น การปรับขนาดใหญ่เล็ก การก าหนดให้แสดง รายละเอียด โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. ดับเบิลคลิกท่ี Computer ที่หน้าจอ Desktop 2. คลิกขวาพ้ืนที่ว่าง 3. คลิกเลือก view 4. เลือกรูปแบบการแสดงไฟล์และโฟลเดอร์ที่ต้องการ ดังภาพที่ 2.15

ภาพที่ 2.15 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

1. ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Computer


3. คลิก View 4. คลิกรูปแบบแสดงไฟล์และโฟลเดอร์

2. คลิก Delete

1. คลิกขวาที่ folder ที่ต้องการลบ

3. คลิก Yes

17




ในการแสดงไฟล์และโฟลเดอร์มีลักษณะของไอคอนให้เลือกแสดงได้ 8 รูปแบบดังนี้ A. Extra Large Icons มีลักษณะเป็นไอคอนขนาดใหญ่ที่แสดงภาพตัวอย่าง

ของข้อมูลที่อยู่ในไฟล์ เหมาะ ส าหรับดูไฟล์ภาพและไฟล์เอกสารในอินเตอร์เน็ต (เว็บเพจ) ที่บันทึกเก็บไว้ในเครื่อง ดังภาพที่ 2.16

ภาพที่ 2.16 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Extra Large Icons


B. Large Icons แสดงไฟล์และโฟลเดอร์ที่เป็นไอคอนขนาดใหญ่ ใช้รูปภาพไอคอนแทนชนิดของไฟล์ ดังภาพที่ 2.17

ภาพที่ 2.17 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Large Icons (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

C. Medium Icons แสดงไฟล์และโฟลเดอร์เป็นไอคอนแทนชนิดของไฟล์

ออกมาในขนาดปานกลาง ท าให้ สามารถแสดงไฟล์ได้มากกว่าขึ้นแบบ Large Icons ดังภาพที่ 2.18

18




ภาพที่ 2.18 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Medium Icons (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

D. Small Icons แสดงไฟล์และโฟลเดอร์เป็นไอคอนขนาดเล็กแทนชนิดของ

ไฟล์ โดยจัดเรียงกันลงมาตาม แนวตั้ง ลักษณะการจัดเรียงเป็นแบบบนลงล่าง ดังภาพที่ 2.19

ภาพที่ 2.19 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Small Icons


E. List แสดงไฟล์และโฟลเดอร์เป็นไอคอนขนาดเล็กมากเรียงลงมาทางแนวตั้งคล้ายกับ Small Icons แต่จะ แสดงชื่อแต่ละไฟล์ให้เห็นทั้งหมด ดังภาพที่ 2.20

19




ภาพที่ 2.20 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ List


F. Details แสดงรายละเอียด เช่น ชื่อ (Name), วันที่แก้ไขล่าสุด, ชนิดของไฟล์ (Type) และ ขนาดของไฟล์ (Size) ดังภาพที่ 2.21

ภาพที่ 2.21 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Details


G. Tiles แสดงไฟล์และโฟลเดอร์เป็นไอคอนแทนชนิดของไฟล์ออกมาในขนาดปานกลาง แต่จะบอก รายละเอียดว่าสร้างจากโปรแกรมใด และมีขนาดเท่าไร ดังภาพที่ 2.22

20




ภาพที่ 2.22 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Tiles (ท่ีมา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

H. Content แสดงโฟลเดอร์และไฟล์ออกมาในแบบไอคอน แต่จะมีเส้นคั่นแต่

ละไฟล์เพื่อท าให้ดูง่ายขึ้น พร้อมกับบอกรายละเอียดต่างๆ ดังภาพที่ 2.23

ภาพที่ 2.23 แสดงการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์แบบ Content


2.7 การสร้าง Shortcut

ช็อตคัท (Shortcut) เป็นส่วนที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ไฟล์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ส่วนของช็อตคัท นี้จะไม่ใช้ตัวของไฟล์นั้นจริง ๆ แต่จะเป็นเพียงส่วนที่เก็บรายละเอียดในการเข้าถึงไฟล์นั้น ๆ เพ่ือให้สามารถเรียกใช้ไฟล์นั้นจากที่ใดก็ได้ที่ต้องการโดยไม่ต้องท าการคัดลอกตัวไฟล์นั้นไปไว้ มีขั้นตอนดังนี้

21




1. เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์ หรือสิ่งที่จะสร้างเป็น Shortcut หน้า Desktop 2. คลิกขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ คลิก send to 3. เลือก Desktop (Create shortcut) 4. โฟลเดอร์ที่ได้จาก Create shortcut ดังภาพที ่2.24

ภาพที่ 2.24 แสดงการสร้างxShortcut


2.8 การใช้โปรแกรมดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ก็เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยทั่ว ๆ ไป ถ้าหากใช้อย่างเดียวไม่ดูแลรักษา อายุของ

การใช้ก็จะสั้นลง ส่วนคอมพิวเตอร์ก็จะท างานช้าลง ไม่เร็วเหมือนตอนซื้อมาใหม่ ๆ หรือเต็มไปด้วยขยะทั้งฮาร์ดดิสก์ และเพ่ือให้คอมพิวเตอร์ท างานได้เร็ว และใช้งานได้นาน ๆ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ มีโปรแกรมจัดเรียงข้อมูล (Disk Defragmenter) ส าหรับเพ่ิมความเร็วให้กับการท างานของระบบ ,โปรแกรมตรวจสอบดิสก์ (Scandisk) ส าหรับตรวจสอบข้อผิดพลาดของ ฮาร์ดดิสก์ และโปรแกรมท าความสะอาดสื่อบันทึกข้อมูล (Disk Cleanup) ส าหรับลบไฟล์ที่ไม่จ าเป็นออกจากฮาร์ดดิสก์ เพ่ือช่วยในการรักษาระบบการท างานให้สามารถท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

2.8.1 โปรแกรมจัดเรียงข้อมูล (Disk Defragmenter) เป็นโปรแกรมในการจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์หรือสื่อบันทึกอ่ืน ๆ ให้เป็นต่อเนื่อง และ

เป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องจากแฟ้มข้อมูลต่าง ๆ จะถูกจัดเก็บโดยแบ่งเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่เรียกว่าคลัสเตอร์ (Cluster ) กระจัดกระจายออกไปท าให้การเรียกใช้งานแฟ้มข้อมูลหรือโปรแกรมต่าง ๆ ใช้เวลานานเกินไป การใช้โปรแกรมจัดระเบียบของดิสก์ มีข้ันตอนดังนี้

1. คลิกท่ีปุ่ม Start

4. Folder ที่ได้จาก Create Shortcut

2. คลิก Send to

1. คลิกขวา Folder ที่ต้องการ Create Shortcut

3. คลิก Desktop (Create Shortcut)

22




2. เลือก Accessories 3. คลิกเลือกเมนู System Tools 4. เลือกค าสั่ง Disk Defragmenter จะพบหน้าต่าง Disk Defragmenter 5. เลือกสื่อบันทึกข้อมูล (ฮาร์ดดิสก์) ที่ต้องการท า Disk Defragmenter 6. จากนั้นให้ท า "Defragment" ต่อทันที รอสักครู่ (ทั้งนี้ขึ้นกับข้อมูล และขนาดของ

ฮาร์ดดิสก์)xดังภาพที่ 2.25

ภาพที่ 2.25 แสดงการท า Disk Defragment (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

ข้อควรทราบก่อนท า Disk Deframent

1) ปิดโปรแกรมการใช้งานอ่ืนๆ ให้หมด 2) ยกเลิก Screen Saver (ให้คลิกขวาที่หน้า Desktop เลือก Properties เลือกแท็ป

Screen Saver และเลือก "None") 3) ถ้าเป็น Notebook แนะน าให้ยกเลิกระบบ Power Save (ประหยัดพลังงาน) และควร

เสียบสายไฟด้วย เพราะอาจต้องใช้เวลานานพอสมควร แบตเตอร์รี่อาจจะหมดได้ 2.8.2 โปรแกรมตรวจสอบดิสก์ (Scandisk)

เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ หรือสื่อบันทึกอ่ืน ๆ และซ่อมแซมแฟ้มข้อมูล เพราะว่าการใช้งานบางครั้งพบว่าโปรแกรมหรือแฟ้มข้อมูลไม่สามารถเรียกใช้งานได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยลงถ้าหากมีการหมั่นตรวจสอบดิสก์อย่างสม่ าเสมอโดยมีขั้นตอนดังนี้

4. คลิก System Tools

2. คลิก All Programs

3. คลิก Accessories

5. คลิก Disk Defragmenter


6. คลิก Disk ที่ต้องการ

7. คลิก Defragment Disk

23




1. ดับเบ้ิลคลิกท่ี My Computer 2. คลิกขวาไดร์ฟท่ีต้องการท า Scan Disk 3. คลิก Properties 4. คลิกเลือกแท็บ Tools 5. คลิกเลือก Check Now 6. คลิกเครื่องหมายถูกที ่Scan for and attempt recovery of bad sectors 7. คลิก Start ดังภาพที่ 2.26

ภาพที่ 2.26 แสดงการใช้งานโปรแกรม Scan Disk (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.8.3xโปรแกรมท าความสะอาดสื่อบันทึกข้อมูล (Disk Cleanup)

เป็นโปรแกรมในการจัดการแฟ้มข้อมูลที่ ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะว่าเมื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ในระยะเวลานาน เช่น แฟ้มชั่วคราวจากอินเทอร์เน็ต แฟ้มติดตั้งโปรแกรมต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาในระหว่างการท างาน แฟ้มที่ลบออกแต่ยังอยู่ในถังขยะ เป็นต้น ท าให้การท างานของเครื่องคอมพิวเตอร์ช้าลง เนื่องจากเนื้อที่ของสื่อบันทึกข้อมูล(ฮาร์ดดิสก์)น้อยลง เพราะ มีไฟล์ที่ไม่จ าเป็นใช้เนื้อที่ในฮาร์ดดิสก์มากขึ้นจึงมีความจ าเป็นในการลบไฟล์ที่ไม่จ าเป็นเหล่านั้นออกจากฮาร์ดดิสก์ มีขั้นตอน ดังนี้

1. คลิกขวาที ่drive ที่ต้องการ เช่น คลิก Drive C: 2. คลิกเมนู properties 3. คลิก แถบ General

4. คลิก Tools

6. คลิก Start 3. คลิก Properties

2. คลิกขวาที่ Drive C:

1. ดับเบิ้ลคลิกทีC่omputer

5. คลิก Check now

24




4. คลิก Disk Cleanup 5. หน้าต่างรอการค านวณพ้ืนที่ 6. เลือกตัวเลือกเพ่ือท าการลบไฟล์ 7. คลิก Ok 8. คลิก Delete File (เพ่ือยืนยันที่จะลบไฟล์ที่เลือกไว้) ดังภาพที่ 2.27

ภาพที่ 2.27 แสดงการใช้งาน Disk Cleanup (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.9 การติดตั้งฟ้อนท์ ในการพิมพ์เอกสาร โดยเฉพาะเอกสารทางราชการซึ่งได้ก าหนดให้ใช้ ฟอนต์เฉพาะ มีความ

จ าเป็นที่จะต้องติดตั้งฟอนต์เพ่ิมเติม เนื่องจากฟอนต์ดังกล่าวไม่ได้ติดตั้งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โดยมีขั้นตอนในการติดตั้งดังนี้

1. คลิกปุ่ม start (บนแถบ Task Bar) 2. คลิกปุ่ม Control Panel (ปรากฏหน้าต่าง Control Panel) 3. คลิก Fonts 4. คลิกลากคลุมด าไฟล์ fronts ทั้งหมดในโฟลเดอร์ font แล้วลากไปยังหน้าต่าง

Fonts ที่เปิดไว้ 5. ปล่อยเมาส์เพื่อวางไฟล์ Fonts ดังภาพที่ 2.28

2. คลิกเมนู Properties


3. คลิกแถบ General

5. หน้าต่างรอการลบไฟล์

6. ตัวเลือกการลบไฟล์

7. คลิก OK

4. คลิก Disk Cleanup 8. คลิก Delete Files

25




ภาพที่ 2.28 แสดงการติดตั้ง Font (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.10 การติดตั้งเครื่องพิมพ์

เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่มีความจ าเป็นในการใช้งานมาก ซึ่งการน าเอาเครื่องพิมพ์มาใช้งานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ต้องต่อสายต่าง ๆ เข้าด้วยกัน พร้อมทั้งติดตั้งโปรแกรมขับอุปกรณ์เพ่ือควบคุมการท างานของเครื่องพิมพ์ด้วย

2.10.1 การต่อสายสัญญาณกับเครื่องพิมพ์ 2.10.1.1 เสียบสายสัญญาณเข้าที่จุดเชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์ ดังภาพที่ 2.29

ภาพที่ 2.29 แสดงการเสียบสายสัญญาณเข้าที่จุดเชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

4. คลิกลากคลุมด าไฟล์ fronts ทั้งหมด แล้วลากไปยังหน้าต่าง Fonts ที่เปิดไว้

5. ปล่อยเมาส์เพื่อวาง Fonts

1. คลิกปุ่ม start

2. คลิกปุ่ม Control Panel

3. คลิก Fonts

26




2.10.1.2 ต่อปลายอีกด้านหนึ่งของสายสัญญาณเข้าที่ด้านหน้าหรือด้านหลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันใช้จุดเชื่อมต่อมาตรฐาน USB ดังภาพที่ 2.30

ภาพที่ 2.30 แสดงการต่อปลายอีกด้านหนึ่งของสายสัญญาณเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์


2.10.1.3 สายไฟด้านหนึ่งต่อเข้ากับจุดต่อด้านหลังของเครื่องพิมพ์ ปลายอีกด้านหนึ่งต่อเข้ากับปลั๊กไฟ และเปิดสวิทช์ที่เครื่องพิมพ์ ดังภาพที่ 2.31

ภาพที่ 2.31 แสดงการต่อสายไฟของเครื่องพิมพ์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.10.2 การติดตั้งไดรเวอร์ด้วยแผ่นซีดีติดตั้งของเครื่องพิมพ์

ก่อนที่จะใช้งานเครื่องพิมพ์ได้นั้น จะต้องติดตั้งไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์เสียก่อน การติดตั้งไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์จะมี 2 แบบ คือแบบแรกระบบปฏิบัติการวินโดวส์รู้จักเครื่องพิมพ์นั้นและมีไดรเวอร์อยู่ในชุดติดตั้งของระบบปฏิบัติการวินโดวส์อยู่แล้ว สามารถติดตั้งได้ทันที และแบบที่สอง ถ้าระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังไม่รู้จักเครื่องพิมพ์รุ่นนั้น จะต้องใช้แผ่นซีดีติดตั้งที่ให้มากับเครื่องพิมพ์นั้น ๆ

27




ในบางครั้งเมื่อต่อเครื่องพิมพ์ตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว ไม่สามารถติดตั้งใช้งานเครื่องพิมพ์ได้ให้ท าตามขั้นตอนดังนี้

1. คลิกปุ่ม start 2. คลิกปุ่ม Control Panel 3. คลิกเมนู Device and Printer ดังภาพที่ 2.32

ภาพที่ 2.32 แสดงขั้นตอนแรกในการติดตั้งเครื่องพิมพ์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

4. คลิก Add a printer 5. คลิก Add a local printer ดังภาพที่ 2.33

ภาพที่ 2.33 แสดงขั้นตอนที่สองในการติดตั้งเครื่องพิมพ์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

3. คลิก Device and Printer

2. คลิกปุ่ม Control Panel

1. คลิก start

2. คลิก Add a local printer 1. คลิก Add a printer

28




6. เลือก port ที่ใช้เชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์ 7. คลิก Next ดังภาพที่ 2.34

ภาพที่ 2.34 แสดงการเลือก port ส าหรับเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

8. ติดตั้ง driver ของเครื่องพิมพ์ โดยการ คลิกเลือกยี่ห้องเครื่องพิมพ์ รุ่นของเครื่องพิมพ์

9. คลิก Next ดังภาพที่ 2.35

ภาพที่ 2.35 แสดงการติดตั้งไดร์เวอร์เครื่องพิมพ์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

1. คลิก Next

2. คลิกรุ่นของเครื่องพิมพ์

1. คลิกยี่ห้อเครื่องพิมพ์

3. คลิก Next

29




10. ตั้งชื่อให้กับเครื่องพิมพ์ที่ท าการติดตั้ง เพ่ือความสะดวกในการเลือกใช้งาน 11. คลิก Next ดังภาพที่ 2.36

ภาพที่ 2.36 แสดงการตั้งชื่อเครื่องพิมพ์


12. ท าการติดตั้งเครื่องพิมพ์ เป็นขั้นตอนสุดท้าย ดังภาพที่ 2.37

ภาพที่ 2.37 แสดงขั้นตอนสุดท้ายในการติดตั้งเครื่องพิมพ์


คลิก Next

Printer ที่ได้ท าการติดต้ังเรียบร้อยแล้ว

30




2.11 การออกจากโปรแกรมวินโดวส ์ 7 เมื่อมีความต้องการจะเลิกใช้งานแล้ว การปิดเครื่องคอมพิวเตอร์จะกดปุ่มปิดเครื่องเลยทันที

เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปเป็นสิ่งที่ไม่ควรท าเป็นอย่างยิ่ง โดยจะต้องสั่งปิดเครื่องจากในตัวโปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ด้วยการเรียกใช้ค าสั่ง Shut Down ก่อนเสมอ เพ่ือสั่งให้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ได้สั่งปิดทุกโปรแกรมและบันทึกข้อมูลที่เขียนลงฮาร์ดดิสก์ที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าปิดเครื่องทันที ข้อมูลอาจจะมีปัญหาได้ บางครั้งอาจท าให้ไม่สามารถเปิดเครื่องใช้งานในครั้งต่อไปได้ การสั่งปิดเครื่องอย่างถูกต้องมีขั้นตอนดังนี้

1. คลิกปุ่ม start (บน Task Bar) 2. คลิกปุ่ม shutdown (หน้าต่างที่เปิดอยู่ในขณะนั้นจะท าการปิดตัวลงอัตโนมัติ

พร้อมทั้งระบบปฏิบัติการก็ท าการปิดตัวลงหลังจากปิดหน้าต่างทั้งหมดแล้ว) ดังภาพที่ 2.38

ภาพที่x2.38 แสดงการออกจากโปรแกรมวินโดวส์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

สรุปเนื้อหา

โปรแกรมระบบปฏิบัติการ เป็นโปรแกรมที่ผู้พัฒนามีจุดประสงค์สร้างขึ้นมาเพ่ือใช้ควบคุมการท างานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟต์แวร์ (Software) ประเภทต่างๆ ให้สามารถท างานร่วมกันกับบุคลากร (Peopleware) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ทั้งทางตรงและทางอ้อมได้อย่างราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เช่น วินโดวส์รุ่นต่าง ๆ ระบบปฏิบัติการแมค โอเอส ระบบปฏิบัติการที่ผู้เขียนเปิดเผยรายละเอียดของชุดค าสั่ง เช่น ลินุกซ์ เป็นต้น

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 เป็นชุดค าสั่งของบริษัทไมโครซอฟท์ จัดว่าเป็นชุดค าสั่งประเภทที่เรียกว่าระบบปฏิบัติการ ซึ่งท าหน้าที่ควบคุมและประสานงานต่าง ๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ท างานตามท่ีต้องการนับตั้งแต่เปิดเครื่องขึ้นมา จนกระทั่งปิดเครื่อง โดยท าหน้าที่ควบคุมและประสานงานการ

1. คลิกปุ่ม start 2. คลิกปุ่ม shutdown

31




ใช้โปรแกรมประยุกต์หรือโปรแกรมเฉพาะงานรวมถึงการท างานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องด้วยประสิทธิภาพของระบบที่ดีตลอดจนการใช้งานโดยรวมที่ง่าย โดยค านึงถึงผู้ใช้งานทุกระดับ หรือที่เรียกว่า “ระบบติดต่อกับผู้ใช้งานแบบกราฟิก” (Graphical User Interface : GUI) นอกจากนี้ยังสนับสนุนอุปกรณ์และมาตรฐานใหม่ ๆ ซึ่งท าให้การรับส่งข้อมูลท าได้รวดเร็วกว่า อีกทั้งยังให้ความสะดวกสบายกับงานอุปกรณ์ต่อพ่วง ๆ ได้มากกว่า ระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นอ่ืน ๆ ซึ่งการเรียนรู้การใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ในเบื้องต้นจะท าให้การใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรมต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1

ใบงานที่ 2.1 หน่วยที่ 2

รหัสวิชา 2001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ สอนครั้งที่ 2

ชื่อหน่วย การใช้งานระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ 7 จ านวน 2 ชั่วโมง

ชื่อเรื่อง การใช้งานระบบปฏิบัติการ วินโดวส ์7 จ านวน 2 ชั่วโมง

การใช้งานระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ 7

จุดประสงค์การเรียนรู้ : เชิงพฤติกรรม ปฏิบัติการใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส7์ เบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง

แนวทางการปฏิบัติ สิ่งท่ีให้ท า 1. สร้างโฟลเดอร์ชื่อว่า data ใน Local Disk (D:) 2. สร้างโฟลเดอร์ย่อย 3 โฟลเดอร์ ชื่อว่า word excel และPowerPoint

ขั้นตอนการท า 1. เปิดระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 ตามข้ันตอน ดังนี้

เปิดสวิทช์เครื่องคอมพิวเตอร์ -> ระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 จะถูกเปิดและพร้อมใช้งานได้ทันที (ระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 ได้รับการติดตั้งไว้ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว) ดังภาพที่ 1.1

ภาพที่ 1.1 แสดงการเปิดระบบปฏิบัติการ วินโดวส์7 (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2





2. สร้างและจัดการโฟลเดอร์ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์7 ตามข้ันตอน ดังนี้ 2.1 การสร้างโฟลเดอร์

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก All Programs -> คลิก Computer -> คลิก Local Disk(D:) -> คลิก New folder แล้วคลิกป้อนค าว่า data -> คลิกพ้ืนที่ว่าง -> คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที่ 1.2

ภาพที่ 1.2 แสดงการสร้าง folder (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.2. การสร้างโฟลเดอร์ย่อย 2.2.1. ดับเบ้ิลคลิกโฟลเดอร์ data -> คลิก New folder -> คลิกที่โฟลเดอร์ป้อนค าว่า

Word แล้วคลิกพ้ืนที่ว่าง-> คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที ่1.3



3. คลิก Local Disk (D:)

4. คลิก New Folder

5. คลิกป้อนค าว่า data แล้วคลิกพื้นที่ว่าง

6. คลิก ออกจากโปรแกรม

3





ภาพที่ 1.3 แสดงการสร้าง folder ย่อย (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.2.2. ดับเบ้ิลคลิกโฟลเดอร์ data -> คลิก New folder -> คลิกท่ีโฟลเดอร์ป้อนค าว่า

Excel แล้วคลิกพ้ืนที่ว่าง -> คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที ่1.4


1. ดับเบิ้ลคลิกโฟลเดอร์ data


3. คลิกป้อนค าว่า word แล้วคลิกพื้นที่ว่าง




3. คลิกป้อนค าว่า excel แล้วคลิกพื้นที่ว่าง


4





2.2.3. ดับเบ้ิลคลิก data -> คลิก New folder -> คลิกป้อนค าว่า PowerPoint แล้วคลิกพ้ืนที่ว่าง -> คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที่ 1.5


2.2. การค้นหาโฟลเดอร์

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก All Programs -> คลิก Computer -> คลิก Local Disk(D:) -> คลิกป้อนค าว่า data ทีช่่อง Search Local Disk (D:) -> คลิกท่ีโฟลเดอร์ data เพ่ือเปิดใช้งาน-> คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที่ 1.6



3. คลิกป้อนค าว่า PowerPoint แล้วคลิกพื้นที่ว่าง


5





ภาพที่ 1.6 แสดงการค้นหา folder (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.3. การค้นหาไฟล์

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก All Programs -> คลิก Computer -> คลิกป้อน D:\data\win7\เอกสารใบงาน ในช่องมองหาใน -> คลิกป้อน *.doc ที่ช่อง Search เอกสารประกอบการสอน -> ดับเบ้ิลคลิกไฟล์ เอกสารใบงาน เพ่ือเปิดใช้งาน -> คลิก

เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที่ 1.7



4 คลิกที่โฟลเดอร์ data เพื่อเปิดใช้งาน

3. คลิกป้อนค าว่า data ที่ช่อง Search Local Disk (D:)


6





ภาพที่ 1.7 แสดงการค้นหาไฟล์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.4. การคัดลอกโฟลเดอร์

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก All Programs -> คลิก Computer -> คลิก Local Disk(D:) -> คลิกขวาที่โฟลเดอร์ data -> คลิก Copy -> คลิกขวาที่พ้ืนที่ว่าง -> คลิก Paste ->ปรากฏโฟลเดอร์ data-Copy ->คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที่ 1.8

ภาพที่ 1.8 แสดงการคัดลอก folder (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)




4. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ data

5. คลิก copy



8. ปรากฏโฟลเดอร์ data-Copy




4. ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ เอกสารใบงาน เพื่อเปิดใช้งาน


2. คลกิป้อน D:\data\win7\เอกสารใบงาน ที่ช่องมองหาใน

3. คลิกป้อน *.doc ที่ช่อง Search เอกสารประกอบการสอน

7





2.5. การเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก All Programs -> คลิก Computer -> คลิก Local Disk(D:) -> คลิกขวาที่โฟลเดอร์ data-Copy -> คลิก Rename -> คลิกป้อนค าว่า data2 แล้วคลิกพ้ืนที่ว่าง -> คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที่ 1.9

ภาพที่ 1.9 แสดงการเปลี่ยนชื่อ folder (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2.6. การลบโฟลเดอร์

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก All Programs -> คลิก Computer -> คลิก Local Disk(D:) -> คลิกขวาที่โฟลเดอร์ data-Copy -> คลิก Delete -> คลิก Yes -> คลิก เพ่ือออกจากโปรแกรม ดังภาพที่ 1.10




5. คลิก Rename

7. ปรากฏชื่อโฟลเดอร์ data2


6. คลิกป้อนค าว่า data2 แล้วคลิกพื้นที่ว่าง

4. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ data-Copy

8





ภาพที่ 1.10 แสดงการลบ folder (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

3 ปิดระบบปฏิบัติการ Windows 7 ตามขั้นตอน ดังนี้

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิกปุ่ม Shutdown ดังภาพที่ 1.13

ภาพที่ 1.13 แสดงการปิดระบบปฏิบัติการ windows (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

2. คลิกปุ่ม shutdown 1. คลิกปุ่ม start




5. คลิก Delete

7. ปรากฏโฟลเดอร์ถูกลบออก 8. คลิก ออกจากโปรแกรม

4. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ data2

6. คลิก Yes

9





ผลลัพธ์ของนักเรียน

ก าหนดส่งงาน

ภายในคาบเรียน

แนวทางการประเมินผล

ที ่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1

1 เปิดระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้อย่างถูกต้อง 2 สร้างและจัดการโฟลเดอร์ในระบบปฏิบัติการ

Windows 7 ได้อย่างถูกต้อง

3 ปิดระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้อย่างถูกต้อง

10





เกณฑ์การให้คะแนน ระดับดี 3 คะแนน ระดับพอใช้ 2 คะแนน ระดับต้องปรับปรุง 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 0-3 ปรับปรุง

1





การใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส7์

จุดประสงค์การเรียนรู้ : เชิงพฤติกรรม ปฏิบัติการดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยวินโดวส์7 ได้อย่างถูกต้อง

สิ่งท่ีให้ท า 1. ท าการดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยวิธีการ จัดเรียงข้อมูล, ตรวจสอบดิสก์ และท าความ

สะอาดสื่อข้อมูล

แนวทางการปฏิบัติ 1. การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมจัดเรียงข้อมูล (Disk Defragment) มี

ขั้นตอนดังนี้

คลิกที่ปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก Accessories -> คลิก System Tools -> คลิก Disk Defragmenter (ปรากฏหน้าต่าง Disk Defragmenter) -> คลิก Disk (C:) -> คลิก Defragment Disk xดังภาพที่ 2.1

ภาพที่ 2.1 แสดงการใช้งานโปรแกรมจัดเรียงข้อมูล (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

4. คลิก System Tools

2. คลิก All Programs

3. คลิก Accessories 5. คลิก Disk Defragmenter


6. คลิก Disk (C:)

7. คลิก Defragment Disk

2





2. การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมตรวจสอบดิสก์ (Scandisk) มีขั้นตอนดังนี้ ดับเบิ้ลคลิกไอคอน My Computer ( บนหน้าจอเดสก์ท็อป )-> คลิกขวา Disk (C:) เพ่ือ

Scan Disk -> คลิก Properties -> คลิกแถบ Tools -> คลิกปุ่ม Check Now -> คลิกเครื่องหมายถูกที ่Scan for and attempt recovery of bad sectors -> คลิกปุ่ม Start ดังภาพที่ 2.2

ภาพที่ 2.2 แสดงการใช้งานโปรแกรมตรวจสอบดิสก์ (ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560)

3. การดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมท าความสะอาดสื่อข้อมูล (Disk Cleanup)

มีขั้นตอนดังนี้

คลิกปุ่ม Start (บนแถบ Task bar) -> คลิก Computer->คลิกขวาที่ Disk (C:) -> คลิก properties -> คลิกแถบ General -> คลิก Disk Cleanup (ปรากฏหน้าต่างรอการค านวณพ้ืนที่)-> คลิกเครื่องมายถูกท่ี Download Program Files และ Temporary Internet Files -> คลิก OK -> คลิก Delete File ดังภาพที่ 2.3

4. คลิก Tools

6. คลิกปุ่ม Start 3. คลิก Properties


1. ดับเบิ้ลคลิกทีC่omputer

5. คลิกปุ่ม Check now

3





ภาพที่ 2.3 แสดงการท าความสะอาดสื่อข้อมูล

(ที่มา : จรูญ สินบรรเทา, 2560) ผลลัพธ์ของนักเรียน

4. คลิก Properties

3. คลิกขวาที่ Disk (C:)

5. คลิกแถบ General

7. หน้าต่างรอการลบไฟล์

8. คลิกเครื่องหมายถูก

9. คลิก OK

6. คลิก Disk Cleanup 10. คลิก Delete Files



4





ก าหนดส่งงาน ภายในคาบเรียน

แนวทางการประเมินผล

เกณฑ์การให้คะแนน ระดับดี 3 คะแนน ระดับพอใช้ 2 คะแนน ระดับต้องปรับปรุง 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ที ่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1

1 ดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมจัดเรียงข้อมูล ได้อย่างถูกต้อง

2 ดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมตรวจสอบดิสก์ ได้อย่างถูกต้อง

3 ดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรมท าความสะอาดสื่อข้อมูล ได้อย่างถูกต้อง

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 0-3 ปรับปรุง

Documents

ใบเนื้อหาหน่วยที่ 2 หน่วยที่ 2 ... · 2020-02-18 · 1 ใบเนื้อหาหน่วยที่ 2 หน่วยที่